เกิน 3 ปีน้องแอร์กำลังจะเป็นอื่น

ปกติแล้วเมื่อเราซื้อรถมาใหม่ๆ แต่พอเริ่มพ้นระยะ 3 ปีไปแล้ว ปัญหาจุกจิกกวนใจก็เริ่มมีมาให้ปวดหัว โดยเฉพาะระบบแอร์ที่ไม่มีผลเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเลย แต่ถ้าพังจะเป็นอะไรที่ต้องซ่อมอย่างเร่งด่วน เพราะอากาศบ้านเรา มลพิษบ้านเรา เกินที่จะเปิดกระจกขับได้ ฉะนั้นมาดูกันดีกว่าว่าอะไรน่าจะมีปัญหากับระบบแอร์บ้าง

ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักจะเกิดขึ้นมาจาก “รังผึ้งแอร์ (Condenser)” ที่มีรอยรั่วซึมเพราะเมื่ออุปกรณ์ถูกใช้ไปประมาณ 3-5 ปี ปัญหาการรั่วซึมอาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะ รังผึ้งแอร์ เป็นจุดที่ระบายความร้อนของสารทำความเย็น (น้ำยาแอร์) และเปลี่ยนสถานะสารทำความเย็นจากสถานะ ไอความดันสูงเป็นของเหลวความดันสูง  จึงเป็นไปได้ว่าในบางกรณีที่ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์บกพร่อง เช่น พัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน หม้อน้ำชำรุด อุดตัน ส่งผลให้ความดันที่รังผึ้งแอร์ สูงผิดปกติ และทำให้เกิดรอยรั่วซึมของสารทำความเย็นที่ตัวรังผึ้งแอร์ หรือการหักงอของปลายท่อรังผึ้งแอร์ที่เกิดขึ้นจากการติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน  และจากการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ หรือ หม้อน้ำ ที่ช่างอาจจะละเลยหรือไม่มีประสบการณ์ที่ดีเพียงพอ ทำให้ รังผึ้งแอร์ ชำรุดหักงอ ซึ่งเมื่อระบบแอร์ทำงานไม่ปกติ ความดันที่รังผึ้งแอร์จะสูงมากและอาจจะทำให้สายน้ำยาความดันสูงแตก

ปัญหาต่อไปอยู่ที่ “สายน้ำยาแอร์” เกิดการรั่วซึมตามจุดต่างๆ ของสาย อันเนื่องจากการเสื่อมสภาพของสายน้ำยาแอร์ หรือเกิดจากความดันที่สูงผิดปกติ การตรวจหารอยรั่วของสายน้ำยาแอร์ต้องทำโดยช่างผู้มีประสบการณ์ และมีความละเอียด เพื่อหาตำแหน่งของรอยรั่วให้ได้ เนื่องจากสายน้ำยาแอร์มีสามเส้น รอยรั่วบางครั้งเล็กมาก และจะมีน้ำยารั่วซึมออกมา เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานเท่านั้น การหารอยรั่วไม่พบจะทำให้น้ำยาแอร์รั่วซึมอยู่ตลอดเวลา จะพบว่าต้องเติมน้ำยาแอร์อยู่บ่อยครั้ง เช่น ทุกๆ 2-3 เดือน ซึ่งถ้าไม่มีการรั่วซึมในระบบน้ำยาแอร์จะได้อย่างน้อย 6 เดือนแน่นอน
 


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |