โตโยต้า “ VIOS ใหม่ ” All IS POSSIBLE ทุกสิ่งสามารถ ทุกทางเป็นไปได้

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ที่ปรึกษาบริหารอาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวแนะนำรถยนต์นั่งขนาดเล็กยอดนิยม “ New VIOS … All IS POSSIBLE ” เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 ณ ห้องรอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์นั่งขนาดเล็ก “ VIOS ”

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์นั่งขนาดเล็ก “VIOS” รุ่นแรกในชื่อ “SOLUNA” เข้าสู่ตลาดเมืองไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2540 ภายใต้ความร่วมมือของวิศวกรชาวไทยและชาวญี่ปุ่นที่วิจัยและพัฒนารถยนต์ โซลูน่า ให้เป็นรถยนต์นั่งรุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาเพื่อตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ ต่อมาในปี พ.ศ. 2546 ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นที่ 2 ในนาม “Soluna VIOS” มาจนถึงรุ่นที่ 3 ในปี พ.ศ. 2550 และรุ่นที่ 4 ในปี พ.ศ. 2556 โดยใช้ชื่อว่า “VIOS” เป็นต้นมา ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาโตโยต้าได้มีการออกแบบและพัฒนารถยนต์ VIOS ให้เป็นสุดยอดยนตรกรรมคุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า และครองความนิยมในฐานะรถยนต์นั่งขนาดเล็กเคียงคู่สังคมไทยมาโดยตลอด ยืนยันได้จากการเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ประสบความสำเร็จสามารถครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดขายสะสมตั้งแต่เปิดตัวจนถึงปัจจุบันที่มากกว่า 847,910 คัน *(ยอดขายถึงเดือนธันวาคม 2559)

วิศวกรชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ร่วมกันออกแบบให้ VIOS ใหม่มีความหรูหรา ล้ำสมัย

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่กล่าวว่า “รถยนต์ VIOS เป็นผลิตภัณฑ์ที่แนะนำเข้าสู่ตลาดประเทศไทยนานกว่า 20 ปี ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ในครั้งนี้โตโยต้าภูมิใจนำเสนอ VIOS ใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาจากความร่วมมือของวิศวกรชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ร่วมกันออกแบบให้ VIOS ใหม่มีความหรูหรา ล้ำสมัย ทั้งภายนอกและภายใน มีความคุ้มค่าและมาพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน รวมถึงความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม”

รถยนต์ VIOS ถือเป็นรถยนต์นั่งขนาด 1.5 ลิตรที่อยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า 20 ปี

นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ที่ปรึกษาบริหารอาวุโสเปิดเผยว่า “รถยนต์ VIOS ถือเป็นรถยนต์นั่งขนาด 1.5 ลิตรที่อยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า 20 ปี และเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของคนไทยและปรับองค์ประกอบอีกทั้งดีไซน์ให้เข้ากับลูกค้าเป้าหมายคนไทยมากยิ่งขึ้น เราจึงให้ทีมวิศวกรไทยได้มีส่วนร่วมในการพัฒนารถยนต์ VIOS ใหม่นี้ด้วย เริ่มต้นด้วยการออกแบบภายนอกที่ปรับเปลี่ยนเพิ่มความหรูหรา ทันสมัยอย่างลงตัว และการออกแบบภายในที่มีดีไซน์ สปอร์ตหรู ด้วยวัสดุตกแต่งคุณภาพสูงและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน พร้อมด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมด้วยเครื่องยนต์ DUAL VVT-i ขนาด 1.5 ลิตร ให้สมรรถนะที่เต็มพลัง พร้อมรองรับน้ำมัน E85 เน้นความประหยัดน้ำมัน เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ตอบสนองต่อการใช้งานอย่างดี และทำให้การขับขี่นุ่มนวลราบรื่น นอกจากนี้ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบ”

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เปิดเผยว่า “วันนี้ VIOS มียอดขายสะสม กว่า 847,910 คัน นับเป็นส่วนแบ่งการตลาดถึง 40% และมียอดขายรวมเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย ในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาด 1.5 ลิตร

VIOS ใหม่นี้เป็นรถยนต์ Subcompact Sedan ที่สมบูรณ์แบบอย่างเหนือระดับ

VIOS ใหม่นี้เป็นรถยนต์ Subcompact Sedan ที่สมบูรณ์แบบอย่างเหนือระดับ สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการรถยนต์เพื่อตอบสนองทุกการใช้งานทั้งในเมืองและเดินทางไกลได้อย่างดีเยี่ยม จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทางการตลาดภายใต้แนวคิด“New VIOS… All IS POSSIBLE ทุกสิ่งสามารถ ทุกทางเป็นไปได้” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบของรถยนต์ VIOS ใหม่ ควบคู่ไปกับ สะท้อนให้เห็นถึงผู้ขับขี่ที่สามารถทำทุกสิ่งให้สำเร็จได้อย่างที่ต้องการ โดยเราจะใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นให้เกิดการรับรู้ต่อแบรนด์สูงสุด ด้วยแผนการสื่อสารการตลาดที่ครอบคลุมทุกช่องทาง พร้อมการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ โตโยต้า ยังได้มอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าเพื่อร่วมสัมผัสและทดลองขับรถยนต์ VIOS ใหม่ ในวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 2560 พร้อม ลุ้นรับ iPhone7 รวม 100 รางวัล และข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าโตโยต้าเมื่อซื้อรถยนต์ VIOS ใหม่ ได้ที่โชว์รูมโตโยต้า 464 แห่งทั่วประเทศ โดย VIOS ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น 6 สี และมีเป้าหมายการขายที่ 2,600 คันต่อเดือน”

มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้ผมเชื่อมั่นว่า VIOS ใหม่ จะตอบสนองทุกความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างเหนือความคาดหมาย รวมถึงยังสร้างความภาคภูมิใจในการครอบครอง และเป็นอีกหนึ่ง “ความสุข” ที่เราขอมอบให้ให้กับลูกค้าและสังคมไทย”

พร้อมเลือกเป็นเจ้าของ VIOS ใหม่ 4 รุ่น และ 6 สี  

(Red Mica Metallic/ Super White/ Silver Metallic/Gray Metallic/ Attitude Black Mica/ Quartz Brown Metallic)

 1.5 S เกียร์อัตโนมัติ ราคา 789,000 บาท**

 1.5 G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 729,000 บาท**

 1.5 E เกียร์อัตโนมัติ ราคา 679,000 บาท**

 1.5 J เกียร์อัตโนมัติ ราคา 609,000 บาท**

**ราคาดังกล่าวเป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ

ร่วมสัมผัสและทดลองขับรถยนต์ VIOS ใหม่  ที่ ศูนย์ทดสอบขับรถ Toyota Driving Experience (บางนา กม.3) หรือที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่าย โตโยต้า 464 แห่งทั่วประเทศ  ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

ALL IS POSSIBLE…ทุกสิ่งสามารถ ทุกทางเป็นไปได้

วีออสใหม่ ดีไซน์พรีเมียมเหนือระดับ พร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่าให้คุณทำทุกสิ่งได้ตามใจ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างที่ต้องการ

 ALL AROUND STYLING IS POSSIBLE

• ชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบโปรเจคเตอร์รมดำ พร้อม LED Light Guide

• กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สีเทาดำ เมทัลลิก

• กันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่

• ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED และไฟตัดหมอกหน้า

• กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า

• มือจับประตูโครเมียม

• ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่พร้อมยางขนาดกว้าง 195/50 R16

• คิ้วฝากระโปรงท้ายตกแต่งด้วยแถบโครเมียมดีไซน์ใหม่

• ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ใหม่

ALL COMFORT IS POSSIBLE

• คอนโซลหน้าดีไซน์สปอร์ตตกแต่งสีแดง

• เบาะหนังสีดำสลับแดง

• ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start)

• ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry)

• พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยแถบเปียโนแบล็คพร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง

• มาตรวัดดีไซน์สปอร์ตพร้อมสัญลักษณ์ ECO แสดงผลเมื่อขับขี่แบบประหยัด

• จอแสดงข้อมูลขับขี่ MID (Multi-information display)

• เครื่องเล่นวิทยุ DVD / CD / MP3 / WMA พร้อมจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth และช่องต่อ USB

• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมจอแสดงผลแบบ LCD

• หัวเกียร์และฐานเกียร์ ตกแต่งเปียโนแบล็ค

ALL DRIVING IS POSSIBLE

• เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ต

• แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาเปิด

• ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า

• ที่วางแก้วคอนโซลด้านหน้าตำแหน่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า

• ช่องเก็บของอเนกประสงค์ด้านผู้โดยสารด้านหน้า

• ห้องโดยสารกว้างขวางและพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ

• กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ

• กระจกบังลมหน้าแบบ Acoustic Glass

• ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ ดีไซน์กว้างและลึก

PERFORMANCE

• เครื่องยนต์ 2NR-FBE 1,500 ซีซี 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i

แรงม้าสูงสุด 108 แรงม้า (79 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด 140 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที

ระบบจ่ายน้ำมัน หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ แบบ EFI

น้ำมันเชื้อเพลิง E85

มาตรฐานไอเสีย EURO4

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 17.2 กม./ลิตร

ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT พร้อมระบบ Sport Sequential Shift 7 สปีด

• พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering)

• ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic)

ALL PROTECTION IS POSSIBLE

• กุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobilizer

• ระบบป้องกันการโจรกรรม (Theft Deterrent System)

• กล้องมองหลังและสัญญาณกะระยะถอยหลัง

• ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อนคู่หน้า

• ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System)

• ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)

• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution)

• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control)

• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)

• โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA

• การออกแบบเพื่อลดแรงกระแทกศีรษะด้านข้าง

• เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL เพื่อลดการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง

• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ

• ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |