ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ จับมือ มอเตอร์สปอร์ต เอเชียปูทางมอเตอร์สปอร์ตไทย สู่เส้นทางระดับนานาชาติ

โพสต์เมื่อ 2 สิงหาคม 2013 เวลา 5:48 น. หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

tss

เรซซิ่ง สปิริต ฝ่ายจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ (Thailand Super Series) แถลงข่าวจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการในปี 2013 หวังพัฒนาให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล “บิ๊กแป๊ะ” ฯพณฯ สนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ประธานจัดการแข่งขันชี้เป็นก้าวสำคัญในการพลิกบทบาท และถือเป็นการจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการ พร้อมเผยความร่วมมือกับ มอเตอร์สปอร์ต เอเชีย โปรโมเตอร์ระดับนานาชาติในการยกระดับการแข่งขันในเมืองไทย ขณะเดียวกันยังได้ทำการเปิดตัวผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการอย่าง บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, และ บริษัท เค พี เอส แอ็คเซสเซอรี่ส์ จำกัด ร่วมจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยในเวทีระดับนานาชาติ

หลังจากผ่านการดวลความเร็ว 2 สนามแรก ไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทยรายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2013 (Thailand Super Series 2013) ก็ได้รับการจับตามองจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วฟ้าเมืองไทย ภายใตการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในด้านมาตรฐานการจัดการแข่งขันรวมถึงกฎกติกาที่ถูกยกระดับให้สูงขึ้นเทียบเท่ากับนานาชาติ

ล่าสุด บริษัท เรซซิ่ง สปิริต จำกัด (Racing Spirit) ฝ่ายจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ภายใต้การรับรองจากราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.) จัดงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันรายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2013 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันพุธที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิลด์

โดยได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ สนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ประธานจัดการแข่งขัน, นายปรีดา ตันเต็มทรัพย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน, มร.เดวิด โซเนนส์เชอร์ (Mr. David Sonenscher) Chief Executive Officer Motorsport Asia เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันรถยนต์ระดับนานาชาติรายการ GT Asia Series และ Porsche Carrera Cup Asia 

รวมถึงผู้สนับสนุนหลักอย่าง นายรุ่งโรจน์ ขันชะลีผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), นายวรวุฒิ ภิรมย์ภักดี ผู้อำนวยการกิจกรรมการตลาด และธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด, นายอุดม พัวสกุล ประธานกรรมการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) มร.เคนจิ คุมากิ ประธานและกรรมการผู้จัดการ NIKON SALES (THAILAND) CO., LTD., นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด, นายกิตติกร นิลรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคพีเอส แอ็คเซสเซอรี่ส์ จำกัด และนายสุทธิพงษ์ สมิตชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีอาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด และตัวแทนจากภาครัฐอย่าง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, , การกีฬาแห่งประเทศไทย, ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมป์, จังหวัดชลบุรี และเมืองพัทยา เทศบาลเมืองแสนสุข

ศึก ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2013 จะดวลความเร็วทั้งสิ้น 8 สนาม โดย 2 สนามแรกนั้นทำการแข่งขันไปแล้วเมื่อวันที่ 25-26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่สนามเซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล           เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย ก่อนจะกลับมาดวลความเร็วสนาม 3 และ 4 ในวันที่ 17-18 สิงหาคมนี้ ที่สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา)

จากนั้นจะทำการแข่งขันสนาม 5 และ 6 ที่สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา) เช่นเคย โดยจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-6 ตุลาคม นี้ ขณะที่การแข่งขันสนาม 7 และ 8 ซึ่งเป็นสนามสุดท้ายของฤดูกาลจะดวลความเร็วกันในเทศกาลมอเตอร์สปอร์ตประจำปีของชาวไทยอย่าง บางแสน ไทยแลนด์ สปีด เฟสติวัล 2013 ในวันที่ 14-15 ธันวาคม นี้ ที่บางแสน สตรีทเซอร์กิต ในเทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี

โดย เรซซิ่ง สปิริต ฝ่ายจัดการแข่งขัน ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ยังได้ลงนามความร่วมมือกับ มอเตอร์สปอร์ต เอเชีย เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันรถยนต์ระดับนานาชาติรายการดังอย่าง จีที เอเชีย ซีรีส์ (GT Asia Series), ปอร์เช่ คาร์เรร่า คัพ เอเชีย (Porsche Carrera Cup Asia) เพื่อเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและร่วมกันพัฒนาการแข่งขันรายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ในการยกระดับด้านกฎกติกาต่างๆ และเทคนิคด้านตัวรถแข่งเพื่อให้เทียบเท่าสากล ซึ่งในอนาคตแฟนมอเตอร์ปสอณ์ตชาวไทยจะได้เห็นการแข่งขันรายการ อย่าง จีที เอเชีย ซีรีส์ เข้ามาดวลความเร็วบ้านเราอย่างแน่นอน

ศึก ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2013 ประกอบด้วยการแข่งขันรุ่น ไทยแลนด์ ซูเปอร์ คาร์ (Thailand Super Car) คลาส 1 และ คลาส 2, ไทยแลนด์ ซูเปอร์ 2000 (Thailand Super 2000), ไทยแลนด์ ซูเปอร์ 1500 (Thailand Super 1500), ไทยแลนด์ ซูเปอร์ โปรดักชั่น (Thailand Super Production), ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ปิกอัพ (Thailand Super Pickup) และการแข่งขันรุ่นเล็กอย่าง ไทยแลนด์ ซูเปอร์ อีโค (Thailand Super Eco) รวมถึง ซัพพอร์ตเรซอย่าง โลตัส คัพ ไทยแลนด์ 2013 (Lotus Cup Thailand 2013) ด้วย

ทั้งนี้ ฯพณฯ สนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ประธานจัดการแข่งขัน เปิดเผยว่า “ปีแรกของ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ถือเป็นการสานต่อการเติบโตของวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย จากการที่ผมคลุกคลีกับวงการมอเตอร์สปอร์ตมาอย่างยาวนานทั้งในฐานะนักแข่งรถ และในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกีฬายานยนต์ ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ร.ย.ส.ท.) จากนั้นก็ได้บุกเบิกการแข่งขันรายการ บางแสน ไทยแลนด์ สปีด เฟสติวัล จึงถือเป็นการยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทยให้สูงขึ้นมาอีก จากนั้นจึงมีโอกาสได้ร่วมงานกับ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ กับทีมงานที่มีคุณภาพด้านการจัดการแข่งขันรถยนต์ และมีประสบการณ์มากมายในวงการมอเตอร์สปอร์ต”

“ในสนามแรกเราได้นำนักแข่ง และทีมแข่งไปสัมผัสสนามระดับโลกอย่าง เซปังฯ เซอร์กิต จะเห็นได้ว่าทุกคนตื่นตัวกับการแข่งขันมาก แม้ในสนามแรกเราจะยังปัญหาในการจัดการเล็กน้อย แต่ทุกฝ่ายก็ให้ความร่วมมือที่ดี ส่งผลให้เรามองเห็นทิศทางที่ดีในการเติบโตของ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนวงการมอเตอร์สปอร์ต”

“การเกิดขึ้นมาของ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ จะถือเป็นการก้าวเข้ามายกระดับการจัดการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในเมืองไทย ซึ่งจะเป็นการค่อยๆ ปรับทิศทางของวงการมอเตอร์สปอร์ตให้ก้าวไปสู่ระดับสากล โดยเราได้ปรับกฎกติกาให้อิงกับกฎที่เป็นสากลมากที่สุด ในส่วนนี้จะทำให้บุคลากรทุกส่วนต้องพัฒนาตามไปด้วย ทั้งในส่วนของกรรมการควบคุมการแข่งขัน, ทีมแข่ง นักแข่ง หรือแม้แต่ผู้ชมในบ้านเราที่ต้องปรับตัวตามไปด้วย” ฯพณฯ สนธยา กล่าว

ส่วน มร.เดวิด โซเนนส์เชอร์ Chief Executive Officer Motorsport Asia เจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขันรถยนต์ระดับนานาชาติรายการ GT Asia Series และ Porsche Carrera Cup Asia เปิดเผยถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “มอเตอร์สปอร์ตเอเชียยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ซึ่งมีทิศทางการเติบโตที่ดี พวกเขามีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาวงการนี้ในเมืองไทย และเราเองก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษาอย่างสุดความสามารถ ในอนาคตเราจะมีโอกาสได้นำการแข่งขันอย่างจีทีเอเชีย หรือรายการอื่นๆ มาร่วมแข่งขันกับ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ แน่นอน เพราะในปีหน้าเมืองไทยจะมีสนามระดับสากลอย่าง บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งรถแข่งเราสามารถมาแข่งขันได้”

ด้าน นายปรีดา ตันเต็มทรัพย์ ผู้อำนวยการจัดการแข่งขัน ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ เปิดเผยว่า “ความเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ ก่อตั้งขึ้นด้วยความคาดหวังนี้ เราได้ยกระดับกฎกติกาการแข่งขันค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะในรุ่น ไทยแลนด์ ซูเปอร์ คาร์ ซึ่งเป็นรุ่นใหญ่ ที่ในปีนี้เรายึดเอากฎด้านเทคนิคเกี่ยวกับตัวรถของการแข่งขันรายการ จีที3 มาใช้ จากจำนวนรถแข่งซูเปอร์คาร์มากมายที่เข้าร่วมการแข่งขันใน 2 สนามแรกที่เซปังฯ เซอร์กิต พิสูจน์ ให้เห็นว่า เราเดินมาถูกทางแล้ว ที่สำคัญเสียงตอบรับจากบรรดานักแข่งและทีมแข่งทุกรุ่นก็ออกมาน่าพอใจ”

“ปีแรกจะเป็นปีที่เราทำการทดลองด้านกฎการแข่งขันหลายอย่าง โดยเฉพาะการแบ่งความสมดุลด้านสมรรถนะของรถแข่ง เพื่อแบ่งคลาสที่ชัดเจน โดยเฉพาะในรุ่น ไทยแลนด์ ซูเปอร์คาร์ ที่มีรถระดับจีที3 และ จีที 4 รวมถึงรถในกลุ่มคัพคาร์ หรือ ชาเลนจ์ เข้าร่วมแข่งขันอย่างหลากหลาย การนำเอาหลัก บาลานซ์ ออฟ เพอร์ฟอร์มานซ์ (Balance of Performance : BOP) มาใช้ในการจำแนกคลาสรถแข่งจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการแบ่งคลาสนี้จะเริ่มเห็นได้ชัดในครึ่งฤดูกาลหลังของ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์” นายปรีดา เผย ขณะเดียวกัน นายปรีดา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกเหนือจากรุ่นไทยแลนด์ ซูเปอร์คาร์ แล้ว เรายังคงให้ความสำคัญกับการแข่งขุนรุ่นอื่นๆ ไม่ด้วยไปกว่ากัน ในกลุ่มรถแข่ง ไทยแลนด์ ซูเปอร์ 2000 มีรถแข่งเข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 30 คัน เป็นตัวเลขที่น่าพอใจมาก รวมถึง กลุ่มรถแข่งในรุ่น ไทยแลนด์ ซูเปอร์ 1500, ไทยแลนด์ ซูเปอร์ โปรดักชั่น ที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันอย่างคับคั่ง ยิ่งทำให้เราได้เห็นว่า ทีมแข่ง และนักแข่งในบ้านเรา พร้อมที่จะพัฒนาไปพร้อมๆ กับ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ นับเป็นสัญญาณที่ดีในการยกระดับวงการความเร็วของเรา”

อย่างไรก็ดี เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องสนามแข่ง ส่งผลให้การแข่งขันในรุ่น ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ปิกอัพ และ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ อีโค (อีโคคาร์) ไม่ได้เดินทางไปดวลความเร็วใน 2 สนามแรก โดยนายปรีดา เปิดเผยว่า “เกมทั้ง 2 รุ่น จะเริ่มแข่งขันในอีเวนต์ที่ 2 ของเรา หลังจากได้พูดคุยกับกลุ่มนักแข่งทั้ง 2 รุ่นแล้ว เราพบว่าพวกเขามีความตื่นตัวอย่างมาก ทุกคนกระหายที่จะลงแข่งขัน และมีทีมแข่งสมัครเข้ามาอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะในรุ่นปิกอัพ ซึ่งมีถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เป็นเดิมพันสำหรับแชมป์ประเทศไทย ขณะที่ในรุ่นอีโคคาร์ ก็มีทีมแข่งให้ความสนใจไม่น้อย เราได้พูดคุยกับตัวแทนทีมแข่งแล้ว และนี่คือการสร้างรถแข่งกลุ่มใหม่ขึ้นมาในเมืองไทย เราจะร่วมกันพัฒนาและหาทางออกที่ลงตัวที่สุดให้กับพวกเขา เพื่อความสะดวกในการแข่งขันที่มีจุดมุ่งหมายให้ใช้ทุนในการสร้างรถแข่งน้อยที่สุด”

สำหรับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทยรายการ ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ 2013 สนาม 3 และ 4 มีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 16-18 สิงหาคมนี้ ที่สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต (พัทยา) โดยนอกจากการแข่งขันที่เร้าใจแล้ว ในสุดสัปดาห์ดังกล่าวจะมีกิจกรรมร่วมสนุกมากมายสำหรับแฟนมอเตอร์สปอร์ต ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองไทย