“ประวัติไม่ดี” แต่ก็อยากมี “รถใหม่” แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้

Black List

เป็นเรื่องปกติธรรมชาติ ที่ใครๆ ก็อยากมีชีวิตสุขสบาย ฉะนั้นจึงไมใช่เรื่องแปลกที่ “รถ” จะเป็นสิ่งแรกที่หลายคนขวนขวาย เพื่อหามาไว้ครอบครองซักคัน ทันทีที่เริ่มเป็น “มนุษย์เงินเดือน” และนั่นมักจะตามมาด้วยปัญหา “ชักหน้า ไม่ถึงหลัง” และก็อาจจะมีบ้างที่ต้อง “ชำระไม่ตรงกำหนด” ตลอดจนหนักสุดๆ ก็ “ค้างค่างวด” จนทำให้คุณติด “มีประวัติค้างชำระ” กันไปเลยทีเดียว

Black List

และด้วยการกระทำแบบนั้น สิ่งที่ตามมาก็คือ เราจะกลายเป็นผู้มีประวัติการชำระที่ไม่ค่อยจะสวยงาม เนื่องจากมีการบันทึก และจัดเก็บประวัติการขอ, การได้รับอนุมัติสินเชื่อ และการชำระหนี้สินเชื่อ ของตัวลูกค้าเอง โดยสถาบันการเงินต่างๆ ที่เป็นสมาชิกของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (National Credit Bureau) หรือ เครดิตบูโร 

เช่น ประวัติการผ่อนชำระหนี้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย รถยนต์ จนกระทั่งบัตรเครดิต ฉะนั้นไม่ต้องห่วงครับ เพราะเค้ารู้หมด ทุกประวัติการผ่อนชำระไม่ว่าจะตรงตามกำหนด, จ่ายช้า หรือ ค้างชำระ ก็ตาม

แล้วทีนี้ถ้ากลายเป็นคนมี ประวัติการชำระเงิน” ที่ไม่ดีขึ้นมาล่ะก็ “ความน่าเชื่อถือ” ของคุณก็จะหมดไปทันที เพราะสถาบันการเงินต่างๆ ที่ให้บริการด้านสินเชื่อ เค้าจะต้องทำการตรวจสอบประวัติของตัวคุณ ผ่านข้อมูลที่จัดเก็บบันทึกโดย เครดิตบูโร เพื่อนำมาประเมินปัจจัยเสี่ยงในการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งนั่นหมายถึงการทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อจะออก “หัวหรือก้อย” ก็เริ่มต้นจากจุดนี้ และมันอาจทำให้การมี “รถใหม่ป้ายแดง” ซักคันเป็นเพียงแค่ “ฝัน” ก็ว่าได้

Black List

ส่วนการจะเปลื่ยนให้มีประวัติการชำระเงินที่สวยงาม ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยต้องติดต่อไปยังสถาบันการเงินเพื่อ “เคลียร์” ให้หมด … แต่ก็ใช่ว่าทันทีจะ “หมดหนี้” แล้วจะสร้างหนี้ใหม่ได้เลยทันทีนะครับ เพราะตามกฏหมาย เครดิตบูโร” จะยังคงจัดเก็บข้อมูลเครดิต ที่ได้จากสถาบันการเงินไว้ในฐานข้อมูลต่อไปอีกไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ได้รับข้อมูล ฉะนั้นเราแนะนำควรใช้ช่วงเวลานี้เริ่มสร้าง “ประวัติสินเชื่อใหม่” ให้สวยงามดีกว่า เช่น ไม่พยายาม “สร้างหนี้” ตลอดจนควรผ่อนชำระให้ “ครบถ้วน ถูกต้อง”

และต่อให้พ้นมลทินแล้วก็ตาม แต่ “ชื่อ” ของคุณ ก็ยังคงเป็น “ผู้เคยมีประวัติการชำระหนี้ไม่สวยงาม” สำหรับบรรดาสถาบันการเงินต่างๆ อยู่ดี ฉะนั้นผลที่ตามมาก็อาจจะมีหลายเรื่อง เช่น ระยะเวลาการอนุมัติที่อาจจะค่อนข้างช้า ไปจนถึงวงเงินอนุมัติที่อาจได้ไม่เต็ม 100% รวมไปถึงเรื่องของการ “ซื้อรถ” ด้วยเช่นกัน

เพราะการ “ซื้อรถ” ไม่ว่าจะ “มือสอง” หรือ “ป้ายแดง” ในแบบ “ผ่อน” คุณต้องใช้ “ไฟแนนซ์” หรือ “สถาบันทางการเงิน” ทั่วไป เพื่อยื่นขอสินเชื่อในการซื้อรถ ซึ่งหาก “ชื่อ” ของคุณ คือ “ผู้มีประวัติการชำระหนี้ล่าช้า หรือ ค้างชำระ” ล่ะก็ บอกได้เลยว่าเป็นเรื่อง “ยาก” แน่นอน

Black List

 

ถ้ายอม “แลก” ก็มี รถ” ได้ … แม้ ประวัติชำระหนี้ไม่สวย

แต่เราเชื่อว่าคุณคงเคยผ่านตากับคำโฆษณาต่างๆ โดยเฉพาะเหล่า “เต็นท์รถมือสอง” ที่การันตีว่า “ประวัติหนี้ไม่ดี ก็สามารถมีรถได้” … ซึ่งใช่ครับ “ทำได้จริง” แต่แค่กับรถมือสองเท่านั้น เพราะเต็นท์รถมือสองบางแห่ง เค้ามีสินเชื่อแบบ Non-bank หรือ ผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน รวมถึง บางแห่งเค้าอาจจะมีสินเชื่อของเค้าเองรองรับ และก็ไม่ได้สนใจเรื่องประวัติการชำระหนี้มากเท่ากับสินเชื่อธนาคาร แต่จะดูสถานะปัจจุบัน ประกอบกับความเป็นไปได้ในการผ่อนชำระหนี้

Black List

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องแลกมาด้วย “เงื่อนไข” ที่มากกว่าสินเชื่อธนาคารทั่วไปแน่นอน เพื่อประกันความเสี่ยง การปล่อยสินเชื่อให้ผู้มีประวัติ ซึ่งจะประกอบด้วย “ตัวผู้ยื่นกู้” ต้องมีหน้าที่การงานในบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ และมีรายได้ที่ต้องมั่นคง เพื่อสามารถชำระหนี้ต่องวดได้เพียงพอ

ต่อมาเรื่องของ “เงินดาวน์” ที่แน่นอนว่าคุณต้องจ่ายมากกว่า โดยอาจจะอยู่ที่ 20% ขึ้นไปของราคารถ เพื่อให้ยอดจัดไฟแนนซ์ไม่อยู่ในระดับสูงมากนัก และไม่ใช่แค่ “ดาวน์สูง” เท่านั้น เพราะต่อมาก็ต้องหา “ผู้ค้ำ” เข้าไปเสริม เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยตัว “ผู้ค้ำ” เอง ก็ต้องมีความน่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน อาทิ มีที่อยู่ ที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง, เป็นเจ้าของบ้าน, เจ้าของที่ดิน และท้ายที่สุดก็ต้อง “ยอม” กับการ “ผ่อน” ที่หนักหน่วง ด้วยเรื่องของ “อัตราดอกเบี้ย” ที่มักจะสูงกว่าสถาบันการเงินทั่วไป

Black List

“เงื่อนไข” ต่างๆ เหล่านี้ เรียกได้ว่าเป็น “พื้นฐาน” สำหรับ “ผู้มีประวัติการชำระหนี้ล่าช้า หรือ ค้างชำระ” ที่คิดอยากมี “รถ” ซักคัน ซึ่งดูๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณยอมรับในสิ่งที่ “ต้องทำ หรือ ต้องจ่าย” ในแบบที่ “มากกว่า” สินเชื่อธนาคารทั่วไป

Black List


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |