รีวิว : BMW Z4 sDrive 20i สมรรถนะอันเลอเลิศจากอากาศที่ไหลผ่านข้างตัวคุณ

ยนตกรรมความงามที่พัดผ่านสายลม รับรู้สมรรถนะอันเลอเลิศจากอากาศที่ไหลผ่านข้างตัวคุณ นิยามเช่นนี้คงเหมาะกับรถสายพันธุ์ Roadster ซึ่งในสายตาผม BMW เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถสไตล์นี้ได้โดนใจไม่น้อย ฉบับนี้ผมขอนำ BMW Z4 sDrive 20i สีจี๊ดจ๊าดออกไปทดสอบสมรรถนะกันนะครับ

 

รูปลักษณ์….แห่งความสง่า

ความสวยสง่าของรถยนต์ค่าย BMW มีทั่วทั้งคัน และทุกรุ่นอยู่แล้ว แต่การออกแบบของ BMW Z4 ในเวอร์ชั่นปี 2013 ถือเป็นความลงตัวชั้นเลิศในเรื่องการออกแบบ มาในรหัสตัวถัง E89 ความสวยงามร้อยเรียงตั้งแต่การวาง “ไตคู่” ไว้กลางกันชนสปอร์ตขนาดใหญ่ พร้อมขนาบไฟหน้าทั้งสูงและต่ำแบบซีนอน ขยับมาที่ด้านข้างจะเห็นกระจกข้างพับแบบไฟฟ้า รวมถึงหลังคาแข็งพับได้แบบไฟฟ้าที่ใช้เวลาการพับเพียง 13 วินาที ด้านท้ายจะเห็นการวางตำแหน่งสปอยเลอร์ที่กลมกลืนกับฝากระโปรงท้าย นอกจากนี้การจัดวางกันชนและไฟท้ายบ่งบอกความเป็น Roadster คงไม่ต้องบอกว่าความลงตัว สง่างามของ BMW Z4 S Drive 20i มีมากมายขนาดไหนเพราะคันนี้ถือว่าเป็นรถในฝันของใครหลายๆ คน

ดีไซน์…พร้อมสรรพในที่แคบ

การดีไซน์ภายในสไตล์ของ Roadster ทำได้ยากมาก เพราะมีพื้นที่การใช้สอยน้อย มนต์เสน่ห์ของการขับ Roadster มีให้ครบทั้งเบาะตกแต่งด้วยหนังแท้ Kansas ที่สามารถสะท้อนแสงอาทิตย์ไม่ทำให้เกิดความร้อนสะสมยามเปิดประทุน พร้อมทั้งระบบปรับไฟฟ้าและหน่วยความจำ ในการออกแบบยังเป็นสปอร์ตเต็มขั้นเวลานั่งขับ ต่างไปจากรถแข่งเลย แต่ความนิ่มนวล ในการเดินทางยังคงอยู่ ขยับขึ้นไปที่คอนโซลหน้าการดีไซน์ยังมีกลิ่นความเป็น BMW อยู่ครบถ้วน แต่เลือกที่จะใช้ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา แบบวงกลม เพื่อให้ดูคลาสสิคไปในตัว

 

ระบบควบคุมฟังก์ชั่นอัจริยะ iDrive

นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมฟังก์ชั่นอัจริยะ iDrive แสดงผลบนหน้าจอขนาด 8.8 นิ้ว ซึ่งสามารถเป็น Navigation System แบบ 3 D และมีแอพพลิเคชั่นเฉพาะตัวของ BMW ซึ่งสามารถเข้าถึง Facebook Twiter และ Internet Radio สำหรับสาวก iPhone โดยผ่านการเชื่อมต่อ USB , AUX หรือ Bluetooth ส่วนที่พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน และมัลติฟังก์ชั่นพร้อม Shift Paddles ที่ด้านหลังพวงมาลัย การขับขี่ Roadster มักจะมีอารมณ์ความรู้สึกเฉพาะตัวสะท้อนผ่านมือที่จับพวงมาลัย แผ่นหลังที่แนบชิดกับตัวเบาะ มองมุมที่ต่ำกว่าปกติ ทัศนะวิสัยที่กว้างไกล แต่ใน Z4 คันนี้ยังมีฟังก์ชั่นอันทันสมัยให้ใช้สอยมากมาย แต่ที่ผมโดนใจที่สุด คือ การจัดการระบบ Aero Dynamic ที่แม้คุณจะเปิดประทุนวิ่งด้วยความเร็ว 200 กม./ชม. จะไม่มีลมพัดผ่านหน้าสร้างความรำคานระหว่างขับขี่แน่นอน

 

ขุมพลัง…เหนือระดับด้วยแรงอัด

ใต้ฝากระโปรงที่กินพื้นที่ไปเกิน 40% ของตัวรถ ได้ซ่อนอนุกรมความแรงแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1,997 ซีซี. ที่ใช้ระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ High – Precision Injection พร้อมระบบอัดอากาศแบบ TwinPower Turbo ที่มีช่องไอเสีย 2 พอร์ตต่อเทอร์โบ 1 ตัว หรือที่เรียกว่า “Twin Scroll” ทำให้การไหลออกของไอเสียเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมี Double VANOS ที่เข้ามาช่วยให้วาล์วทั้งด้านไอดี-ไอเสียสามารถแปรผันได้ตามความต้องการของเครื่องยนต์ และยังมี VALVETRONIC ที่คอยควบคุมลิ้นปีกผีเสื้อให้ทำงานสัมผัสกับ Double VANOS ให้อากาศเข้าและออกในปริมาณที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะถ้าอากาศเข้ามากเกินไปจะทำให้กล่องฉีดน้ำมันมากตามไปด้วย ทำให้สิ้นเปลืองอัตราน้ำมันมากโดยใช่เหตุ เครื่องยนต์บล็อคนี้จึงสามารถรีดแรงม้าออกมาได้มากถึง 184 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,250 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดมากถึง 270 นิวตัน-เมตร ที่ 1,250-4,500 รอบต่อนาที ซึ่งบอกได้ว่าเทอร์โบเปิดใช้งานในรอบที่ต่ำมากๆ แสดงว่าอัตเร่งในรอบต้นต้องจัดจ้านมากครับ

 

ระบบส่งกำลัง

จากที่ผมได้สัมผัสจากหยุดนิ่ง และกระแทกคันเร่งจมเท้า หลังติดเบาะเลยทีเดียว ทำให้ได้เวลาจาก 0-100 กม./ชม. ออกมาที่ 7.4 วินาที เรื่องระบบส่งกำลังเป็นแบบอัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Steptronic ซึ่งทำงานได้ราบเรียบตั้งแต่เริ่มออกตัว ไปจบที่ความเร็วสูงสุดประมาณ 230 กม./ชม. ซึ่งมนต์เสน่ห์ที่ผมชอบ คือ การปรับโหมดการทำงานที่ข้างๆ เกียร์ เพราะคุณสามารถปรับการทำงานของเครื่องยนต์และช่วงล่างให้ตอบสนองอารมณ์การขับขี่ได้ทุกๆ รูปแบบ แม้กระทั่งคุณจะปรับให้เป็น
โหมด Sport + ที่ปรับรอบเครื่องยนต์ให้สามารถเรียกสมรรถนะสูงสุดออกมาใช้งาน พร้อมทั้งตัดระบบควบคุมเสถียรภาพตัวรถทั้งหมดออกแบบเพื่อให้ได้รับอารมณ์ความสปอร์ตสูงสุด

 

 

 

เสถียรภาพ…การทรงตัวมากด้วยเทคโนโลยี

ในเรื่องระบบช่วงล่างข้อนี้เราต้องยกให้ BMW อยู่แล้วว่าเลอเลิศขนาดไหน เพียงแต่คุณจะมี Performance ในการควบคุมรถหรือไม่ แต่สปอร์ตสมัยนี้เติมเต็มเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้าไป เพื่อให้ผู้บริโภคที่มีทักษะแค่ขับรถเป็นก็สนุกกับ Z4 ได้ โดยมีระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก DSC ซึ่งเข้าช่วยเหลือคุณทันทีเมื่อรถคุณเกิดอาการหลุดโค้ง ท้ายปัด เมื่อล้อหนึ่งล้อใดเกิดการลื่นไถล ระบบจะสั่งการให้เบรกในแต่ละล้อทำงานอย่างเป็นอิสระ, DTC ช่วยให้คุณขับขี่ได้ถึงขีดสุดโดยไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะเกิดอันตราย ระบบนี้จะปล่อยให้ล้อรถสามารถลื่นไถลหรือแม้กระทั่งออกนอกเส้นทางได้เล็กน้อย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการยึดเกาะถนนสูงสุดในทุกพื้นผิว และระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง CBC แค่ 3 เทคโนโลยีนี้ทำให้คุณสามารถควบคุม Z4 ได้อย่างใจต้องการ แม้คุณจะสนุกเหยียบคันเร่งมากไปหน่อยในโค้ง ระบบพวกนี้จะเข้ามาช่วยให้คุณเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัยครับ

 

สุดท้าย ราคา 4,199,000 บาท ราคาค่าตัวของ BMW Z4 S Drive 20i ถามว่าแพงไปหรือไม่ ต้องบอกว่า “รถสไตล์นี้ซื้อด้วยอารมณ์ ไม่ใช่เหตุผล แต่ถามผมว่าสามารถสนองอารมณ์ได้คุ้มกับราคารถไหม ผมตอบได้เลยว่า “เร้าใจเกินคำบรรยาย”