Hazard Warning Lights หรือ ไฟฉุกเฉิน ใช้ยังไงให้เหมาะสม … ?

สัญญาณไฟฉุกเฉิน หรือ Hazard Warning Lights คือ สัญญาณไฟสะท้อนแสงสีส้ม ซึ่งจะติดกะพริบขึ้นมาทั้ง 2 ฝั่งซ้าย-ขวา ทั้งด้านหน้ารถ และหลังรถ  ซึ่งนั่นคือการแสดงว่ารถคันนั้นมี “เรื่อง” ที่ไม่ปกติเกิดขึ้น หรือกำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเรื่องของสัญญาณไฟฉุกเฉินนี้

เรียกง่ายๆ ว่าเป็นเรื่องพื้นฐานของคนใช้รถ ใช้ถนนทั่วไป แต่ก็มีบ้างที่เราจะเจอพวก “ไม่ทั่วไป” ที่อาจจะรู้ หรือไม่รู้ก็ได้ เพราะสิ่งที่ส่วนใหญ่เจอก็คือการใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินแบบผิดๆ ที่เราอยากจะ “เตือน” ซักนิดให้ได้รู้กัน

Hazard Warning Lights, ไฟฉุกเฉิน

พฤติกรรมผิดๆ ที่คนไทยต้องคิดว่าใช้ไฟฉุกเฉิน

สัญญาณไฟฉุกเฉิน “ชื่อ” ก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องฉุกเฉิน ที่เราต้องส่งสัญญาณให้คนอื่นรู้ และเตือนให้คนอื่นมีความระมัดระวังมากขึ้น เช่นที่เห็นกันบ่อยๆ ก็มีกรณีการถอยจอดเข้าซอง, กรณีการจอดรถแบบชั่วคราวริมถนนที่ต้องไม่ใช่โซนขาว-แดง ด้วยนะ หรือ รถเกิดเสียกะทันหันไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ก็ต้องจอดชั่วคราวริมถนน โดยสิ่งเหล่านี้ คือ เหตุการณ์ที่เหมาะสมกับการเปิดใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน

Hazard Warning Lights, ไฟฉุกเฉิน

นอกจากเหตุการณ์ที่เหมาะสมกับการเปิดใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินดังกล่าวข้างต้นแล้ว ก็ยังมีอีกหลายสถานการณ์ไม่น้อยที่คนไทยยังคงเปิดใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินอยู่เป็นประจำ โดยหารู้ไม่ว่ามันเป็นสิ่งอันตรายอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เช่น การวิ่งตรงผ่าน 4 แยกที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร ที่บ่อยครั้งหลายคนมักจะเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินใช้

โดยสิ่งที่อันตรายที่สุด ก็คือรถที่ตรงมาจากทางด้านซ้าย และด้านขวา เค้าจะเห็นสัญญาณไฟแค่ด้านเดียว ซึ่งนั่นหมายถึงคุณเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ฉะนั้นถ้าจะโดนทิ่มกันกลางแยกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยซักนิด ส่วนวิธีที่ถูกต้องก็คือ ชะลอความเร็วก่อนถึงแยก มองรอบๆ ด้าน โดยเฉพาะทางฝั่งซ้าย และขวา ให้มั่นใจ แล้วก็แค่ข้ามไปเท่านั้น ไม่ต้องไปยุ่งอะไรกับสัญญาณไฟฉุกเฉินใดๆ ทั้งสิ้น

อีกสถานการณ์ก็คือ ฝนตกหนัก หรือ หมอกลงจัด ที่เรามักจะเห็นใข้สัญญาณไฟฉุกเฉินกันบ่อยๆ นี่ก็เป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ เช่นกัน เพราะนอกจากแสงไฟโทนสีร้อนแรงจะแยงตาเพื่อนร่วมทางแล้ว เค้ายังไม่สามารถทราบได้เลยว่าคุณจะเปลี่ยนเลนส์ตอนไหน

เพราะงั้นมันจึงมีสิทธิที่จะทั้งรถคุณ และรถคนอื่นจะเข้าไปรวมร่างกันได้แบบไม่เจตนาในเลนเดียวกัน พาให้เสียทั้งอารมณ์ เสียเวลา และเสียทรัพย์กันไป ฉะนั้นเมื่อหมอกจัด ฝนหนา สัญญาณไฟฉุกเฉินไม่ต้องไปใช้ครับ เพราะถ้า “ไฟตัดหมอก หรือ Fog Light” รถคุณมีมาให้ก็เปิดใช้ซะ แล้วก็แค่ขับตามความสามารถ ด้วยความเร็วที่คิดว่าปลอดภัย หรือถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็จอดพักดีกว่า เนื่องจากมันจะปลอดภัยกว่าการวิ่งไป พร้อมกับการเปิดใช้สัญญาณไฟฉุกเฉิน

Hazard Warning Lights, ไฟฉุกเฉิน

และด้วยพฤติกรรมการใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินแบบผิดๆ เหล่านี้ล่ะครับ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะเรียกว่าไม่รู้ก็ไม่ได้ เพราะมันคือเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต้องผ่านตามาบ้าง ก่อนจะได้ใบขับขี่มาครอบครอง แต่ก็ไม่รู้ทำไมการใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินจึงกลายเป็นอุปทานหมู่แบบผิดๆ หลายคนทำ ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่าบทความนี้จะช่วยสร้างแนวความคิดใหม่ให้กับผู้ใช้รถ ใช้ถนน ได้ใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินกันอย่างถูกต้องได้บ้าง ไม่มากก็น้อย นะครับ