รีวิว Hilux Revo Caravan Trip เมืองออช คีร์กีซสถาน – เมืองทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน

Hilux Revo Caravan Trip วันนี้เรากำลังจะเคลื่อนทัพจากประเทศคีร์กีซสถานข้ามชายแดนเข้าสู่ประเทศอุซเบกิสถาน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ เมืองทาชเคนต์ (Tashkent) เมืองหลวงของอุซเบกิสถาน ด้วยระยะทาง 395 กิโลเมตร

 

เราเดินทางมาถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองตั้งแต่เช้า เพราะทราบอยู่แล้วว่าการเข้าประเทศอุซเบกิสถานนั้นค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลานานมาก ทำให้ทีมคาราวานต้องออกเดินทางกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า
คณะคาราวานบอกลาเมืองออช แล้วมุ่งหน้าเคลื่อนขบวนสู่ด่านชายแดนของคีร์กีซสถาน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เดินทางแค่ 5 กม. ซึ่งการออกจากประเทศนี้ไม่ยากนัก แต่การเข้าประเทศอุซเบกิสถานมีการตรวจเอกสารและหนังสือเดินทางกันเป็นรายบุคคลซึ่งต้องตรวจละเอียดมากๆ ยารักษาโรคต่างๆ เราจะต้องตอบให้ได้ว่าเป็นยาอะไร มือถือ โน๊ตบุ๊ค ต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจข้อมูลภายในเครื่อง ใครมีภาพลามกต้องลบให้หมดก่อนเข้าประเทศ ในส่วนของคนยังเข้มขนาดนี้ ในส่วนของการนำรถข้ามประเทศไม่ต้องพูดถึงค้นกันยันน็อตทุกตัว แถมด้วยเอาสุนัขตรวจยาเสพติดมาดมซ้ำอีก ซึ่งทุกคนในคาราวานค่อนข้างกังวลพอสมควร กับระบบการตรวจที่เข้มงวดมาก โดยขั้นตอนเริ่มตั้งแต่การแยกผู้โดยสารและคนขับรถออกจากกัน ให้ผู้โดยสารเดินผ่านเข้าไปก่อน พร้อมกับการโดนตรวจค้นที่ละเอียดมาก ทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค และของส่วนตัวทุกอย่างออกมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้นำเอารูปภาพหรือสิ่งที่ไม่เหมาะสมเข้ามา รวมถึงมีการสอบถามอย่างละเอียดทีละคน คนละหลายครั้ง ตั้งแต่ด่านแรก จุดประทับตราวีซ่า จนถึงขั้นพิธีการศุลกากร (Custom Clearance)ในส่วนของการตรวจรถก็มีขั้นตอนที่ยุ่งยากไม่น้อยไปกว่ากัน โดยรถทุกคันต้องผ่านการตรวจทั้งเอกสาร ระบบต่างๆ และสัมภาระทุกชิ้นอย่างละเอียด ทั้งจากเจ้าหน้าที่ทหาร และสุนัขทหารที่มาดมกลิ่นตรวจหาสิ่งต้องห้ามบนรถกันอีกหนึ่งรอบเพื่อความมั่นใจ โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลานานถึง 7 ชั่วโมง บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดพอสมควร กระทั่งเวลาล่วงเลยมาจนถึง 6 โมงเย็น ทีมคาราวานจึงสามารถผ่านด่านเข้าสู่ประเทศอุซเบกิสถานได้ ทุกๆ คน ในคาราวานต่างดีใจแบบเก็บอาการไม่อยู่เลยทีเดียว

ภาระกิจของเราไม่จบเพียงเท่านี้ยังเหลือระยะทางอีก 380 กม. ช่วงแรกนี้ทางค่อนข้างขรุขระ เรียกได้ว่ามาทดสอบความนิ่มของช่วงล่างกันก่อนเลย ซึ่ง Revo ก็ผ่านมาได้ด้วยดี แต่หนทางยังอีกไกลเหลือเกินจึงตัดสินใจแวะรับประทานอาหารเย็นก่อนที่ร้านอาหารพื้นเมืองของอุซเบกิสถาน ก่อนจะออกเดินทางกันต่อ โดยตั้งแต่ผ่านด่านประเทศจีนที่เมืองคาชการ์มาจนถึงขณะนี้ ทั้งที่ต้องขับขึ้น-ลงเขากันตลอดทางกว่า 550 กิโลเมตร เรายังไม่ได้เติมน้ำมันกันเลยจึงต้องแวะเติมน้ำมันที่อุซเบกิสถานคันละ 30 ลิตร ให้เต็มถัง และออกเดินทางกันต่อ และสักพักก็ยังเจอกับด่านตรวจหนังสือเดินทางอีกถึง 2 ด่าน โดยในด่านที่สองมีการตรวจที่ละเอียดมาก ขนาดที่ทุกคนต้องลงจากรถเพื่อไปเข้าแถวตรวจเป็นรายบุคคล ทำให้เสียเวลาไปอีกหลายชั่วโมงเมื่อต้องผ่านการตรวจอันเข้มข้นมาถึง 4 ครั้ง ภายในวันเดียว ทำให้ผมนึกถึงคนต่างด้าวที่มาบ้านเราว่าเค้าน่าสงสารขนาดไหน

 

แต่ทีมคาราวานเรายังไม่ท้อเดินทางกันต่อ เพื่อไปถึงเมืองทาชเคนต์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ สภาพถนนในช่วงนี้ค่อนข้างแคบ มีที่กั้นเป็นระยะๆ และมืดมาก ต้องอาศัยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ของไฮลักซ์ รีโว่ เป็นตัวส่องสว่างและเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ ทำให้สามารถขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ยังเจออุปสรรคในการขับขี่ คือ ความจอแจของรถในท้องถิ่นที่ขับมาแทรกในขบวนคาราวานตลอดทาง ทำให้ทุกคันต้องขับกันอย่างระมัดระวัง จนถึงเมืองทาชเคนต์ในเวลาเกือบตี 4 นับว่าเป็นวันที่ค่อนข้างวุ่นวายและเหนือการควบคุมของทีมคาราวานจริงๆ แต่ก็ต้องชื่นชมทุกๆ คน ในการเดินทางครั้งนี้ที่ให้ความร่วมมือและเต็มที่กับการเดินทางตลอดวันนี้ แม้มีอุปสรรคเข้ามาทั้งวัน แต่ทุกคนยังยิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมผ่านอุปสรรคในการเดินทางไปพร้อมกับ Hilux Revo

 

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่กับ Hilux Revo Caravan Trip ที่เมืองทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน โดยคาราวานจะหยุดพัก 1 วัน เพื่อตรวจเช็คสภาพรถ เพราะจากกรุงเทพฯ จนมาถึงที่นี่รวมระยะทางถึง 8,387 กิโลเมตรแล้ว เรียกได้ว่าผ่านสภาพถนน ภูมิประเทศ และสภาพภูมิอากาศอันแปรปรวนมาทุกรูปแบบ วันนี้จึงถือโอกาสพักทั้งรถตรวจเช็คกันสักรอบ เพื่อเตรียมพร้อมส่งต่อการเดินทางในช่วงต่อไปให้ Group 3 ก่อนที่ผมจะกลับเมืองไทยได้มีโอกาสไปชมความงดงามของประเทศอุซเบกิสถาน โดยสถานที่แรกที่ทีมคาราวานได้ไปเยี่ยมชมคือ ตลาดชอร์ซู (Chorsu Bazaar) ตั้งอยู่ใจกลางกรุงทาชเคนต์ในส่วนของเมืองเก่า ตลาดแห่งนี้เคยเป็นชุมทางการค้าบนเส้นทางสายแพรไหมในอดีต มีอาคารเป็นรูปทรงกลม และหลังคาโดมขนาดใหญ่ เป็นศูนย์สรรพสินค้าและตลาดสดที่คึกคัก รอบๆ อาคารยังมีร้านขายสินค้าอุปโภค บริโภค ของที่ระลึก และร้านอาหารอีกมากมาย เรียกว่าเป็นตลาดที่คับคั่งและมีความวุ่นวายที่สุดของเมืองเลยก็ว่าได้ บริเวณนี้ยังมีมัสยิดจูมาร์ กับ กูเกลดัช มาดรัสซา (โรงเรียนสอนศาสนาในอดีต) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่น่าสนใจมาก

 

หลังจากนั้นไปต่อกันที่ Khast Imam Complex ซึ่งประกอบด้วย มัสยิดสุสานของบุคคลสำคัญในอดีด และโรงเรียนสอนศาสนา ตกแต่งด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียอันวิจิตรตระการตา จากนั้นไปเยี่ยมชมอนุสาวรีย์อมิร์ ติมูร์ (Amir Timur) หรือ ทาเมอร์เลนข่าน วีรกษัตริย์ที่ชาวอุซเบกิสถานนับถือ และเป็นทายาทรุ่นหลานของเจงกิสข่าน กษัตริย์นักรบแห่งมองโกเลีย โดยในยุคที่ อมิร์ ติมูร์ ปกครองดินแดงแห่งนี้ ท่านได้นำวิทยาการก้าวหน้าในการรบมาจากจีน และรับศาสนาอิสลามจากเปอร์เซีย นำกองทัพขึ้นไปดินแดนทางเหนือด้วยการพิชิตรัสเซีย ทางใต้พิชิตอินเดียและยุโรปตะวันออก และยังมีเป้าหมายที่จะไปพิชิตจีนอีกด้วย แต่ท่านมาด่วนสิ้นพระชนม์ไปเสียก่อน แต่ทุกคนยังนับถือในฐานะวีรบุรุษของประเทศ

 

จากนั้นไปเดินเล่นกันที่ Independence Square ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์อมิร์ ติมูร์ หรือในภาษาอุซเบก เรียกว่า Mustaqillik Maydoni เป็นลานขนาดใหญ่ที่เคยใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ของสหภาพโซเวียตในอดีต เช่น การเดินสวนสนาม และการชุมนุมต่างๆ ปัจจุบันได้กลายเป็นสวนสาธารณะ มีการปลูกต้นไม้ไว้อย่างร่มรื่น เหนือประตูทางเข้ามีรูปปั้นนกกระทุงอยู่ 3 ตัว บินอยู่เหนือลูกโลก ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีเดินสำรวจเมืองกันพอสมควร ผมก็เดินทางสู่สนามบินเพื่อกลับประเทศไทยแต่การจะออกจากประเทศได้ก็ต้องตรวจกันหลายด่านเช่นเดิม ลองคิดดูว่าด่านสุดท้ายอยู่ที่งวงช้างก่อนขึ้นเครื่องบินคิดดูน่ะครับว่าประเทศนี้เข้มข้นทั้งเข้าแล้วออกขนาดไหน

 

ขอบคุณ บริษัท โดโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เราได้สัมผ้สประสบการณ์ใหม่และนวัตกรรมดีๆ อย่าง Hilux Revo ที่พิสูจน์แล้วว่าสามารถเดินทางได้ทุกสภาพถนนทั่วโลก ผมเชิญชวนทุกท่านส่งแรงใจให้ “Hilux Revo Caravan Trip บทพิสูจน์จริงระดับโลก กรุงเทพ – อิตาลี” ให้ไปถึงยังเป้าหมายที่วางไว้ www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip

 


แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Toyota

แท็กฮิต : , , , ,