ใบขับขี่หาย ตายล่ะหว่า! จะโดนปรับมั้ย ทำอย่างไรดี

ปัญหาโลกแตก ที่เกิดขึ้นกับใครก็ได้ที่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ถ้าเกิดวันนึง ใบขับขี่หาย จะทำอย่างไรดี จะโดนปรับมั้ย ยิ่งมีข่าวไม่พกใบขับขี่ปรับ 5 หมื่นบาท หรือจะต้องเริ่มอะไรจากตรงไหน จะไปหาใคร จะไปที่ไหน เชื่อได้ว่าหลายท่านที่เกิดเหตุการณ์นี้ จู่ๆ หัวสมองก็ โล่ง ว่างเปล่าขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทำอะไรไม่ถูกกันเลยทีเดียว

จงสลัดความเชื่อ และความเป็นจริงแบบเดิมๆ ทิ้งเสีย เมื่อใบขับขี่หายแล้วอันดับแรกคือ ต้องไป แจ้งความ เพราะนี่เข้าสู่ยุคดิจิตอล มันต้องมีวิวัฒนาการกันบ้าง จำให้ขึ้นใจไว้เลยนะครับ ว่างานนี้การ แจ้งความ ที่โรงพัก ไม่ต้องทำแล้ว ตัดขั้นตอนนี้ออกไปได้เลย แม้ ใบขับขี่ จะเป็นเอกสารของทางราชการก็ตาม

ขั้นตอนการปฏิบัติ เมื่อ ใบขับขี่หาย

1. อย่าตื่นตระหนก นี่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย อย่างน้อยที่สุด คุณต้องมี บัตรประชาชน และพกติดตัวไว้ด้วย ถ้าถ่ายสำเนาไปได้ก็ดี หรือไม่ก็ไปถ่ายที่ขนส่งฯ

2. ไปติดต่อที่ สำนักงานขนส่ง พื้นที่ไหนก็ได้ที่คุณสะดวก เช่นบ้านอยู่แถวพระโขนง แต่ที่ทำงานอยู่แถวซอยอารีย์ อย่างนี้รีบไปแต่เช้า ติดต่อที่สำนักงานขนส่งจตุจักรได้เลย จะได้ไม่เสียเวลาทำงานมาก

3. ไปถึงแล้ว ไม่ต้องกลัวป้ำๆ เป๋อๆ ด่านแรกที่คุณจะต้องเข้าไปคุยก็คือ ประชาสัมพันธ์ เค้าจะมีแถวให้ต่อ เมื่อถึงคิวเรา ให้แจ้งความจำนงค์ว่า ใบขับขี่หาย จะมาขอทำใบขับขี่ใหม่

4. เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จะยื่น ใบคำร้อง ให้เราหนึ่งใบ โดยจะชี้แจงคุณว่าต้องใช้เอกสารอะไรประกอบด้วย (สำเนาบัตรประชาชน) พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่จะส่ง บัตรคิว ให้คุณ และบอกให้เรายื่นเอกสารที่ ช่องหมายเลข ไหน

5. จากนั้นเดินออกมาจากเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อกรอกใบคำร้องให้เรียบร้อย และยื่นใบคำร้องพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน ที่ช่องหมายเลขที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บอกเมื่อกี๊

6. เจ้าหน้าที่ที่ช่องหมายเลขที่เรายื่นเอกสาร จะตรวจสอบข้อมูล ถ้าชื่อตรง ที่อยู่ไม่ได้เปลี่ยน ฯลฯ เค้าก็จะเรียกคุณตามคิว แล้วนำเอกสารให้เราไปยื่นติดต่อเจ้าหน้าที่ อีกช่องหมายนึงเพื่อเข้าสู่กระบวนการ ออกใบขับขี่ใบใหม่

7. เจ้าหน้าที่ที่ช่องหมายเลข ที่เป็นผู้ออกบัตรใบใหม่ จะนำคุณเข้าสู่กระบวนการถ่ายรูป เพื่อออกใบขับขี่ใบใหม่ และชำระเงินเพื่อเป็น ค่าธรรมเนียม การออกบัตรใหม่ จำนวน 255 บาท

 

เท่านี้ก็เรียบร้อย สำหรับใครที่ใบขับขี่หาย ซึ่งจะใช้เวลานานหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ คิว ก่อนหน้าคุณว่ามีเท่าไหร่ สมมติว่าประมาณ 100 คิวก่อนหน้า ก็ต้องมีชั่วโมงนึงเป็นอย่างน้อย อีกอย่างที่อยากแนะนำคือ ควรเตรียมพร้อมหน้าตาของคุณ ให้หล่อ สวย ดูดีที่สุด อย่าให้หน้ามัน หรือผมเผ้า ไม่เรียบร้อย เพราะคุณมีโอกาส เก๊กหน้า เพียงครั้งเดียว เวลาถ่ายรูป