รีวิว : MINI Cooper S Clubman ตอนที่ 1 Overview

โพสต์เมื่อ 25th สิงหาคม 2010 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

เราลองมองย้อนกลับไปสักไปในช่วงศตวรรษที่ 20 MINI Clubman ได้เริ่มต้นตำนานหน้าแรก โดยถือกำเนิดรถ Morris Mini Traveller, Austin Mini Countryman และ MINI Clubman Estate ด้วยจุดเด่นของรถมินิทั้ง 3 รุ่นนี้ อันเป็นที่มาของการเริ่มต้นคอนเซ็ปต์ในการดีไซน์ของรถมินิเจเนอเรชั่นใหม่ อย่าง MINI Cooper S Clubman หรือรหัส MINI R55 ซึ่งถูกพัฒนามาจากต้นแบบของมินิในยุคอดีต

From The Original To The Original

นิยามสำคัญในการพัฒนาของ MINI Clubman ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ บวกกับปรัชญาพื้นฐานในการดีไซน์ของมินิที่เรียกว่า From The Original To The Original และมีนวัตกรรมในการดีไซน์ซึ่งเรียกว่า Door Concept เพราะเป็นโมเดลที่ถูกออกแบบมาให้มีถึง 5 ประตู ประกอบไปด้วยสองประตูที่อยู่ด้านซ้ายและขวาของด้านคนขับ ประตูที่สามเป็นประตูผู้โดยสารหลังด้านขวา ที่เรียกว่า Club Door ประตูนี้จะสามารถเปิดได้ก็ต่อเมื่อประตูด้านหน้าคนขับเปิดก่อนเท่านั้น ทำให้การเข้าออกของห้องผู้โดยสารเป็นไปอย่างสะดวก ส่วนประตูแบบเปิดแยกกลางที่นำมาอยู่ที่ท้ายรถถูกใช้ชื่อว่า Split Door

นักออกแบบได้เลือกติดบานพับประตูที่มุมสุดของตัวถัง เมื่อเปิดประตูท้ายออกเต็มที่แล้วประตูจะกางออกได้กว้างกว่าปกติ สามารถขนของได้สะดวกสบายมากขึ้น พร้อมทั้งมีแผ่นกั้นวางของสัมภาระในแนวลึก (Flat Load Floor) การออกแบบในการติดบานพับในลักษณะนี้ ทำให้ไฟท้ายไม่ถูกประตูบดบัง ยังคงสามารถส่องแสงสว่างได้เป็นปกติ เป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน สำหรับ Cooper S Clubman มีไฟตัดหมอกหน้าแบบฮาโลเจนพร้อมฟังก์ชัน Follow-Me-Home ไฟหน้าทั้งไฟสูงและต่ำแบบไบซีนอน (Bi-Xenon) ที่ให้ความสว่าง นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งระบบล้างไฟหน้ามาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน

ภายนอก

ผมเริ่มสำรวจจากภายนอกแบบจริงจัง ความเป็น MINI คงไว้ได้เหมือนทั้งหมด แต่เพียงเป็นโมเดลแบบ 5 ประตู แต่ประตูของผู้โดยสารตอนหลัง ซึ่ง MINI Clubman จะมีอยู่แค่ด้านเดียวทางด้านขวาของตัวรถ ทำให้ในเวลา ใช้งานขึ้น-ลง หากจอดรถริมถนนนั้น ในการใช้งานจริงอาจจะพบปัญหาในการเปิดใช้งานอยู่บ้าง โดยเฉพาะในเส้นทางที่มีรถวิ่งหนาแน่น ส่วนการดีไซน์ชุดประตูหลังออกแบบใหม่ให้กลายมาเป็นชุดประตูแยกส่วน 2 บาน ที่ใช้การเปิดแยกออกสองด้านทั้งซ้ายและขวา คือเรียกง่ายๆ “ประตูตู้กับข้าว” เค้าใช้เทคนิคในการออกแบบที่คำนึงถึง ประโยชน์สอยและความปลอดภัยเป็นหลัก

ด้วยการออกแบบให้ตัวบานพับประตูเลื่อนไปอยู่ที่มุมสุดของตัวถัง อันทำให้เมื่อเปิดประตูท้ายออกทั้งซ้าย-ขวาแล้ว ประตูจะสามารถกางออกได้กว้างกว่าปกติ ช่วยให้สามารถขนย้ายสัมภาระเข้า-ออก ห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายได้สะดวกสบาย มากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังสามารถแก้ปัญหาเรื่องของการบดบังชุดไฟท้ายของตัวบานประตูได้อีกด้วย ทำให้ในการใช้งานชุดไฟท้ายยังคงสามารถทำงานได้เป็นปกติ