MINI Cooper SE ใหม่ พัฒนาการความล้ำสมัย เคาะราคายั่วใจที่ 2,290,000 บาท

MINI Cooper SE คือ ก้าวแรกในการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแบรนด์ ผ่านความล้ำสมัยของเทคโนโลยีการขับเคลื่อน ด้วยฐานะของยนตรกรรมไฟฟ้า ภายใต้การรักษา และสืบทอดตำนานความคลาสสิกในแบบฉบับ MINI Hatchback 3 ประตู ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสปอร์ต ที่ผสมรวมอย่างลงตัว และน่าสนใจด้วยราคา 2,290,000 บาท พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard

MINI Cooper SE

MINI Cooper SE ครั้งแรกกับฐานะยนตรกรรมพลังไฟฟ้า

จุดเด่นของ MINI Cooper SE นั้นเรียกได้ว่าเป็นยนตรกรรมที่ไร้การปล่อยมลพิษอย่างแท้จริง จากขุมพลังที่ใช้ขับเคลื่อนซึ่งเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่ BMW Group ได้พัฒนาขึ้น พร้อมด้วยการเลือกใช้ระบบส่งกำลัง และวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ควบคุมการจ่ายพลังงานไฟฟ้าไปยังระบบต่างๆ ซึ่งจะติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของรถในโครงสร้างรูปทรงท่อ

MINI Cooper SE

 

ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับ Cooper SE โดยเฉพาะ ประกอบไปด้วยเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจำนวน 12 โมดูล จุพลังงานไฟฟ้ารวม 32.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ถูกติดตั้งอยู่ในรูปทรงตัว T บริเวณใต้รถ ระหว่างเบาะนั่งด้านหน้าไปจนถึงบริเวณใต้เบาะหลัง เพื่อทำให้มีพื้นที่ในการเก็บสัมภาระมากกว่ารุ่นอื่นๆ ตลอดจนเพื่อเป็นการสร้างระยะห่างจากแบตเตอรี่ใต้ท้องรถ และพื้นถนนอีกด้วย จนทำให้มีตัวรถที่สูงกว่ารุ่นอื่นๆ ถึง 18 มม.

MINI Cooper SE

 

ด้านความสามารถนั้นเร้าใจด้วยเรี่ยวแรงระดับ 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 270 นิวตันเมตร ที่เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 7.3 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดคือ 150 กม./ชม. และระยะทางที่ขับขี่ได้ไกลถึง 217 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC)

และก็ยังคงมอบความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วย 4 รูปแบบโหมดการขับเคลื่อน คือ Sport, Mid, Green, และ Green+ ภายใต้ความมั่นใจจากระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ที่ช่วยเพิ่มความเร้าใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังยกระดับเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ด้วยการนำพลังงานจากการเบรกกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Brake) ที่เมื่อผู้ขับยกเท้าออกจากคันเร่งในความเร็วต่ำ จะสามารถชะลอความเร็วรถได้ทันทีโดยไม่ต้องแตะเบรก หรือเรียกว่าควบคุมได้ง่ายเพียงใช้คันเร่งเท่านั้น

 

สำหรับระบบความปลอดภัยจัดเต็ม เช่น ทุกชิ้นส่วนของระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จะได้รับการปกป้องด้วยโครงสร้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ และจะหยุดการทำงานทั้งหมดทันทีหากได้เกิดการชน ตลอดจนความล้ำของระบบการจำลองเสียง ผ่านระบบลำโพง สำหรับขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำเพื่อเตือนคนเดินถนน ซึ่งจะเป็นเสียงเฉพาะสำหรับรุ่น SE เท่านั้น

ในส่วนของการชาร์จไฟนั้น Cooper SE สามารถรองรับสายชาร์จ ได้ทั้งแบบมาตรฐาน และสายชาร์จจาก MINI Electric Wallbox ที่รองรับกำลังไฟได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ ทำให้ชาร์จไฟได้ถึงระดับ 80 เปอร์เซ็นต์ใน 2.5 ชั่วโมง และจะชาร์จเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ภายใน 3.5 ชั่วโมง

 

และหากชาร์จจากสถานีที่เป็นหัวชาร์จแบบ DC Fast-Charging จะช่วยให้การสำรองพลังงานทำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งในเวอร์ชั่น SE นี้ก็ได้รับการออกแบบมาให้รองรับพลังงานในการชาร์จได้สูงสุด 50 กิโลวัตต์ หรือ ชาร์จได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในเวลาเพียง 36 นาที

และรองรับหัวชาร์จได้ทั้งจาก AC และ DC แบบ Type 2 รวมถึงหัวชาร์จแบบ CCS Combo 2 ซึ่งจะมีไฟบอกสถานะการชาร์จปรากฎอยู่เหนือเต้าเสียบใน 3 สถานะด้วยกัน ประกอบด้วย ไฟสีส้มขณะเริ่มชาร์จ, ไฟกระพริบสีเหลืองระหว่างการชาร์จ และไฟสีเขียวเมื่อชาร์จเต็ม

MINI Cooper SE

ดีไซน์โดดเด่น สร้างความชัดเจนในจุดยืน

รูปลักษณ์ของเวอร์ชั่น SE มากับงานดีไซน์ภายนอกที่สะท้อนถึงเทคโนโลยีการขับขี่แห่งอนาคต เช่นในส่วนของฝาครอบที่ชาร์จไฟฟ้า ซึ่งออกแบบให้อยู่เหนือล้อหลังด้านขวาตำแหน่งเดียวกับฝาถังน้ำมัน พร้อมแสดงสัญลักษณ์ MINI Electric เพื่อสร้างความแตกต่าง ระหว่างการใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน และการใช้พลังงานไฟฟ้า

 

โดยมีการเพิ่มเติมสัญลักษณ์แบบเดียวกันที่บริเวณกระจังหน้า, กรอบไฟเลี้ยวด้านข้าง และประตูท้ายรถ พร้อมกับสร้างความสะดุดตา และความโดดเด่นเฉพาะตัว ด้วยการใช้โทนสีเหลือง ขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานนั้นจะมากับชุดไฟหน้าแบบ LED และเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาขนาด 17 นิ้ว ลาย MINI Electric Corona พร้อมยางรันแฟลตพิเศษเฉพาะในเวอร์ชั่น SE เท่านั้น

 

ภายในห้องโดยสารเร้าใจด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุผ้าสีดำ Carbon Black ลาย Double Stripe รับกับชุดหัวเกียร์ และมาตรวัดดีไซน์เฉพาะ รับกับหน้าจอแสดงผลดิจิตอลแบบสีขนาด 5.5 นิ้วดีไซน์ Black Panel โดยจะแสดงค่าอัตราความเร็วในการขับขี่ทั้งในแบบตัวเลข และแถบทรงกลมบริเวณกลางจอ โดยมีด้านข้างแสดงข้อมูลในรูปแบบดิจิตอลเกี่ยวกับระดับพลังงานของแบตเตอรี่, โหมดการขับขี่, สถานะของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และสัญญาณแสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ รวมถึงเวลาที่ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่

MINI Cooper SE

 

ทั้งยังมาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว ที่รองรับการแสดงผลจากบริการ MINI Connected ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ เช่น หน้าจอ eDrive ที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงาน และระยะทางที่วิ่งได้ รวมถึงทางเลือกต่างๆ ในการเพิ่มระยะทางในการขับขี่อีกด้วย

ราคารถใหม่

MINI รุ่น Cooper SE ราคา 2,290,000 บาท

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Mini

แท็กฮิต : , , , , ,