New Honda CR-V ตอกย้ำความคุ้มค่า ให้รุ่น 5 ที่นั่ง ด้วยราคา 1,369,000 และ 1,529,000 บาท

โพสต์เมื่อ 7th สิงหาคม 2020 หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย Poyee Poyee

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตรึงพื้นที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกของภูมิภาคเอเชีย และโอเชียเนีย เปิดตัวยนตรกรรมอเนกประสงค์ Premuim SUV ระดับ “Icon” ของค่าย กับ New Honda CR-V ที่มาพร้อมการยกระดับความคุ้มค่ารอบด้าน กับเวอร์ชั่น 5 ที่นั่ง 2 รุ่นย่อย คือ 2.4 S ราคา 1,369,000 บาท และรุ่น 2.4 ES 4WD ราคา 1,529,000 บาท

New Honda CR-V ปรับโฉมใหม่ เน้นความแกร่ง ผสานความพรีเมี่ยม

งานดีไซน์ภายนอกถูกปรับใหม่ โดยเพิ่มความหรูหรา ไปพร้อมๆ กับการนำเสนอความแข็งแกร่งอย่างลงตัว ซึ่งเริ่มตั้งแต่มุมมองด้านหน้าที่สปอร์ตยิ่งขึ้น จากชุดกระจังหน้าแบบ Gloss Black ที่ลงตัวกับชุดกันชนดีไซน์ใหม่ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ทั้งยังเพิ่มความสะดุดตาให้กับมุมมองด้านหลังด้วยชุดฝากระโปรงท้าย ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยมรมดำ ที่รับกันดีกับชุดไฟท้ายรมดำ

พร้อมด้วยออพชั่นมาตรฐานที่จัดมาให้อย่างครบเครื่อง เช่น ชุดไฟหน้าแบบ Full LED ที่มากับชุดไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Light – DRL) แบบ LED ซึ่งรวมไปถึงชุดไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential และไฟท้ายแบบ Full LED ด้วยเช่นกัน ทั้งยังเสริมความเร้าใจมากขึ้นด้วยด้านบนที่มากับหลังคา Panoramic Sunroof พร้อมระบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้าแบบ One-Touch ขณะที่ด้านล่างก็มากับความเฉียบคมโดยชุดล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตใหม่ขนาด 18 นิ้ว

ส่วนภายในห้องโดยสารยังคงกว้างขวางสะท้อนความหรูหรา สะดุดตากับแผงคอนโซลขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยลายไม้ และวัสดุสีดำ Piano Black และครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย อาทิ อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger), กระจกมองข้างแบบพับเก็บอัตโนมัติที่สามารถควบคุมได้จากรีโมท (Auto Foldable Side Door Mirror), ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Driver Memory Seat) ซึ่งมากับเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ต่อเนื่องด้วยกระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ (Auto Dimming Rear View Mirror) และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา i-Dual Zone

ทั้งยังเหนือระดับด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออันล้ำสมัย ผ่านชุดระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD อัพเกรดเพิ่มเติมด้วยการติดตั้งระบบนำทาง Navigator มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ตลอดจนมีมาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ที่สามารถแสดงผลฟังค์ชันการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งสามารถควบคุมทั้งเครื่องเสียง และการเชื่อมต่อโทรศัพท์ได้จากบนพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น

ความอเนกประสงค์ยังคงเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญ เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบ Hands-free Power Tailgate ควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมท ทั้งยังสามารถปรับระดับความสูงของการเปิดฝากระโปรงท้ายได้ตามต้องการ โดยยังรวมถึงเบาะนั่งที่สามารถปรับเปลี่ยน เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย

เทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย จัดมาให้ควบคู่ไปกับอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch), ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) และระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ผ่านการควบคุมพวงมาลัย และแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT พร้อมการสั่นเตือนที่พวงมาลัย ไปจนถึงระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist)

ขุมพลังของ Honda CR-V ในเวอร์ชั่น 5 ที่นั่ง ทั้ง 2 รุ่นย่อยนั้นมากับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร DOHC i-VTEC แบบ 4 สูบ โดยให้กำลังสูงสุดถึง 173 แรงม้าที่ 6,200 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 224 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมด้วยการรองรับพลังงานทางเลือกได้ทั้ง E85 และ E20 ขณะที่ระบบขับเคลื่อนจะมีให้เลือกแบบขับเคลื่อน 2 ล้อในรุ่นย่อย 2.4 S cและแบบขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่นย่อย 2.4 ES 4WD