รีวิว : Honda CBU รุ่น Honda CR-Z , Honda Odyssey และ Honda Stepwan Spada เส้นทางกรุงเทพฯ – เขาใหญ่

ในที่สุดคนไทยก็ได้มีโอกาสครอบครองรถยนต์นำเข้าจากค่าย HONDA โดยไม่ต้องพึ่งเกรย์มาร์เก็ตสักที แม้ภาษีนำเข้าจะสูงเพียงใด คนไทยที่หลงไหลในความเป็น HONDA ไม่หวั่นไหวแน่นอน เพราะมั่นใจได้ว่ามีศูนย์บริการที่ได้มาตรฐานรองรับ และยังเป็นรถนำเข้าที่ถูกกฎหมาย 100 % ที่จริงแล้วรถนำเข้าจากค่าย HONDA เปิดตัวตั้งแต่ปลายไตรมาสแรกของปีนี้ โดย HONDA CBU  เปิดออกมา 3 รุ่นด้วยกัน คือ Honda CR-Z , Honda ODYSSEY และ Honda STEPWGN SPADA

HONDA CBU

หลังจากที่สื่อมวลชนสายรถยนต์ถามถึงกันมาก ว่าเมื่อไรจะได้สัมผัส HONDA CBU สักที เพราะแต่ละรุ่นที่นำเข้ามาถือเป็นรถที่น่าสนใจมาก ทางบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จึงจัดกิจกรรมการทดสอบรถยนต์ CBU เส้นทางกรุงเทพฯ – เขาใหญ่ โดยใช้รถทดสอบครบทุกรุ่น CRZ, ODYSSEY และ STEPWGN SPADA ผมเองเริ่มต้นจากการลองสัมผัส STEPWGN ก่อนเป็นคันแรกพร้อมทั้งผู้โดยสารอีก 5 ท่าน

 

เจ้ารถยนต์นั่งอเนกประสงค์ 8 ที่นั่ง คันนี้นอกจากที่จะมีหน้าตาสไตล์ “มินิแวนสปอร์ตหรู” แล้ว ยังเพิ่มความหรูให้กับตัวรถด้วยประตูสไลด์อัตโนมัติทั้งซ้าย-ขวา ภายในมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศสำหรับเบาะนั่งแถว 2-3 และเครื่องเล่น DVD ที่สามารถแสดงผลผ่านจอที่หน้าคอนโซล รวมถึงจอใหญ่ที่อยู่ตรงเพดานด้วย

Honda Stepwan Spada

เมื่อก้าวขึ้นไปตำแหน่งคนขับมองจากวัสดุที่ให้มาแต่ละชิ้นคุณภาพดี การออกแบบของคอนโซลรายละเอียดเยอะมาก ผมขอไล่จากจุดเด่นๆ ด้านซ้ายก่อนจะเห็นช่องกระจกสะท้อนสำหรับ เพิ่มทัศนวิสัยในการจอดรถชิดขอบทาง มาที่กลางคอนโซลเป็นที่อยู่ของจอแสดงผล พร้อมระบบนำทาง ลงมาหน่อยเป็นตำแหน่งการควบคุมระบบปรับอากาศ มาที่เรือนไมล์ให้ความชัดเจนในการมองมาก พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้านพร้อม Paddle Shift สำหรับการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง สุดท้ายสำหรับความโดนเด่นบนคอนโซลคงหนีไม่พ้น “ปุ่มสีเขียว ECON” ECO Assist ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน เทคโนโลยีใหม่จาก HONDA ที่จะมาอยู่ในทุกๆ รุ่น และก็ถึงเวลาออกเดินทางกันแล้วครับ ระยะทางที่ผมทดสอบเป็นช่วงถนน High Way โดยเส้นทางเป็นทางตรงประมาณ 60 กม. เครื่องยนต์ที่ติดตัว STEPWGN SPADA เป็นแบบ 4 สูบแถวเรียง SOHC 16 วาล์ว i-VTCE มีแรงม้า 150 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 193 นิวตัน-เมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง CVT จากที่ได้สัมผัสสำหรับในเรื่องของอัตราเร่งเพียงพอสำหรับการเดินทางเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้แรงจนเกินไป สามารถเรียกอัตราเร่งสำหรับการแซงได้ทุกย่านความเร็วทุกครั้งเมื่อกดคันเร่ง จุดที่น่าสนใจผมว่าเป็นความต่อเนื่องและนิ่มนวลของระบบส่งกำลังมากกว่า เพราะตลอดการเดินทางไม่ว่าจะกดคันเร่งจม เพื่อแซงนั้น ระบบจะส่งกำลังไม่มีอาการกระชากเลย ซึ่งความนิ่มนวลแบบนี้เหมาะสมเป็นอย่างมากที่จะนำมาใช้ในรถอเนกประสงค์ที่มีผู้โดยสารหลายๆ ท่าน

ระบบช่วงล่าง

ความเร็วที่ผมใช้ในการเดินทางหลายๆ ช่วงประมาณ 160 กม./ชม ระบบช่วงล่างนิ่ง นิ่มนวลดี ผมมองจากกระจกส่องหลัง ผู้โดยสารแถวที่ 3 ยังนั่งเล่นเกมส์อย่างมีความสุข แสดงว่าช่วงล่างมีการเซ็ตอัพอยู่ในระดับที่พอดีไม่แข็งหรือนิ่มจน ทำให้รู้สึกจุกหรือเวียนหัวในการเดินทาง สำหรับผมเองพอลองมานั่งเบาะแถว 2 นอกจากกว้างขวางนั่งสบายแล้ว ยังสามารถเอา Notebook มานั่งพิมพ์งานได้อย่างสบาย ส่วนเรื่องอัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ยในการเดินทางอยู่ที่ 10.5 กม./ลิตร วัดจากหน้าจอที่เรือนไมล์

 

ในราคา 2,174,000 บาท สำหรับ STEPWGN SPADA รุ่น 2. 0 L JP สำหรับผมคุ้มตั้งแต่ความแตกต่างบนท้องถนนแล้ว แต่ที่ได้เพิ่มมา คือ รถอเนกประสงค์แบบ 8 ที่นั่งหรูที่เจ้าของรถสามารถขับได้เอง เพราะมันเป็นรถไซด์ใหญ่ที่ขับง่าย ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลอย่างเดียว ใช้ในเมืองก็ลงตัว วัสดุต่างๆ ที่ใส่ลงมาทั้งภายนอก-ภายในเกรดดี ที่สำคัญเมื่อคุณขับคันนี้จะไม่ถูกมองว่าเป็นคนขับรถครับ

Honda CR-Z

หลังจากที่ทานอาหารเที่ยง ถึงคิวผมได้สัมผัสกับ CR-Z รถสปอร์ต 2+2 ที่นั่ง หัวใจ Hybrid ที่ผมอยากสัมผัสมานานแล้ว ถ้าจะให้บอกถึงความสวยของตัวรถสำหรับผมถือว่าโดนใจมาก ยิ่งเข้าไปนั่งด้านในสปอร์ตร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เจ้า CR-Z ไม่ได้เป็นสปอร์ตธรรมดาที่มีความแรงเป็นที่ตั้ง แต่กลับมองในเรื่องของความประหยัด รักษ์สิ่งแวดล้อม และเป็นรถสปอร์ตที่คุณสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณได้ทุกวัน ที่ผมพูดว่า CR-Z เป็นสปอร์ตร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นกับผมตั้งแต่เบาะหนังที่โอบกระชับ คอนโซลที่ปรับทำมุมให้ผู้ขับขี่ใช้ง่าย มองเห็นชัดเจน คล้าย Cockpit ของรถแข่ง ที่เหนือกว่านั้นเป็นเทคโนโลยีที่อยู่บนคอนโซล ผมขอยกเอาที่น่าสนใจที่สุด คือ เรื่องของโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือก 3 โหมด Sport Mode ที่ให้อารมณ์การขับขี่แบบเร้าใจ เรียกสมรรถนะเครื่องยนต์ออกมาแบบเต็มพิกัด Normal Mode เป็นการขับขี่แบบสมดุลเฉลี่ยความเร้าใจและความประหยัดให้เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และ ECON Mode การขับขี่แบบประหยัดสูงสุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ในเส้นทางการทดสอบของผมประมาณ 50 กม. ขึ้นเขาลงเขาตลอดเส้นทาง จึงทำให้ผมสัมผัสถึงอารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตเต็มตัว ในเรื่องทัศนวิสัยทั้งด้านหน้าและหลังชัดเจน ประกอบกับตัวรถที่เล็กทำให้การขับขี่คล่องตัวมาก พวงมาลัยแบบ EPS ให้น้ำหนักที่ดี การควบคุมแม่นยำ ระบบช่วงล่างให้ความรู้สึกสปอร์ตแต่ไม่แข็งกระด้าง การเข้าโค้งต่างๆ วางใจได้ แม้คุณจะใช้ความเร็วที่มากเกินไปในการเข้าโค้ง ประกอบกับถนนที่ลื่น เพราะฝนตกหนักตลอดทาง และยังมีระบบควบคุมการทรงตัว VSA ออกมาทำหน้าที่ให้ตัวรถผ่านโค้งไปได้อย่างง่ายดาย

 

เครื่องยนต์

ในส่วนของเครื่องยนต์แม้จะเป็นเพียงเครื่องยนต์ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1,497 ซีซี. i-VTEC ให้แรงม้า 111 แรงม้า พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า IMA (Integrated Motor Assist) ที่ให้กำลัง 13 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง CVT จากที่ผมได้สัมผัสอัตราเร่ง ถ้าดูจากซีซี. กับแรงม้าอาจดูน้อยไปนิดสำหรับรถสปอร์ต แต่ผมลองขับจริงๆ ถือว่าอัตราเร่งดี ความเร้าใจของเครื่องยนต์มีไม่น้อย เป็นรถที่ขับสนุกอีกหนึ่งคันเลย ในช่วงระยะสั้นๆ ผมยังสามารถทำความเร็วได้ถึง 160 กม.ชม. อย่างรวดเร็ว เจ้า CRZ รุ่น 1.5 L JP ในราคา 1,975,000 ในความรู้สึกผม คือ รถสปอร์ตพันธุ์แท้ที่ให้อรรถรสการขับขี่ที่เร้าใจ ช่วงล่างที่วางใจได้ สนุกทุกเส้นทาง ใช้งานได้ทุกๆ วัน เติมน้ำมันแบบ ECO CAR และเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยดูแลโลก

Honda Odyssey

ในวันรุ่งขึ้นเป็นคันสุดท้ายที่ผมทดสอบคือ ODYSSEY รถยนต์อเนกประสงค์ที่เน้นการออกแบบให้หรูหรา เส้นสายโดดเด่น ภายในเน้นความโอ่งอ่าง กว้างขวาง สะดวกสบายเป็นหลัก เบาะที่นั่งมีถึง 3 แถวสามารถปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ และเบาะแถวที่ 3 พับด้วยไฟฟ้า พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งมาตราวัดเรืองแสง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องปรับอากาศผู้โดยสารแถว 2-3 ระบบ NAVI เครื่องเล่น DVD กล้องส่องหลัง

 

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC ความจุกระบอกสูบ 2.4 ลิตร ให้แรงม้าสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 218 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ผ่านมาตรฐานมลพิษ Euro4 พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม ECON Mode ที่ให้ความประหยัดสูงสุด มาดูเรื่องสรรมถนะของเครื่องยนต์ก่อน สามารถตอบสนองได้แบบดั่งใจ อัตราเร่งเร้าใจ แม้ผมจะมีผู้โดยสารอีก 5 ท่านพร้อมสัมภาระมากมาย ความเร็วปลายๆ ทะลุ 200 กม./ชม. ได้ไม่ยาก และยังได้ความต่อเนื่องที่น่าประทับใจ การตอบสนองของช่วงล่างนิ่มนวล การเปลี่ยนเลนต่างๆ แม้จะใช้ความเร็วสูงทำได้อย่างมั่นใจ

ในราคา 2,557,000 บาทกับ ODYSSEY รุ่น 2.4 L JP สำหรับผม คือ รถครอบครัวที่มีความปลอดภัยสูง สมรรถนะที่เร้าใจ และยังได้ความนิ่มนวลตลอดการเดินทางครับ

สุดท้ายขอขอบคุณบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้ iAMCAR VARIETY E-MAGAZINE & www.iamcar.net ได้สัมผัสยนตกรรมดีๆ เช่นนี้เสมอมาครับ

 

 

คลิป Honda Odyssey

 

Honda Stepwan Spada

 

Honda CR-Z

 

บทความแนะนำ

รีวิว : Honda Civic Hatchback ใหม่ แบบโหดๆเดี่ยวๆ ที่หล่อ แรง เกินห้ามใจกับขุมพลัง 1.5 ลิตร VTEC Turbo ในทุกรูปแบบการใช้งาน

ฮอนด้า ร่วมกับช่อง 7 สี มอบเงินประมูลของที่ระลึกนักกอล์ฟ รายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ สนับสนุนศิริราชมูลนิธิ

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Honda

แท็กฮิต : , , , , , ,