รีวิว : Toyota Hilux Vigo Champ ( โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ) บนเส้นทางสุราษฏร์ธานี – ภูเก็ต ระยะทางรวมประมาณ 300 กิโลเมตร

Toyota Hilux Vigo Champ ( โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ ) แม้จะยังไม่ปรับเปลี่ยนบอดี้ใหม่ แต่ได้พัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ให้การเผาไหม้ดียิ่งขึ้น และยังมาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด อุปกรณ์ภายในครบครัน และระบบช่วงล่าง DTS (DIAMOND TECH SUSPENSION) ขึ้นมาเพื่อเพิ่มจุดขายให้โดนใจผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อเป็นการพิสูจน์สมรรถนะของเจ้า TOYOTA Vigo ใหม่ทาง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จึงจัดการทดสอบให้สื่อมวลชนบนเส้นทางสุราษฏร์ธานี – ภูเก็ต ระยะทางรวมประมาณ 300 กิโลเมตร

Toyota Hilux Vigo Champ

Start ออกเดินทางบินลัดฟ้ามุ่งหน้าสู่จังหวัดสุราษฏร์ธานี ที่ โชว์รูม โตโยต้า สาขาท่าทอง โดยได้รับเกียรติจาก คุณอดิศักดิ์ ลิมสถายุรัตน์ กรรมการผู้จัดการ มากล่าวต้อนรับด้วยตนเอง ก่อนที่จะฟังบรรยายผลิตภัณฑ์และข้อมูลทางเทคนิคโดย อาจารย์ มนัส ดาวมณี ผู้อำนวยการฝ่ายบริการด้านเทคนิค บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เจ้า Vigo ใหม่จะมีจุดเด่นหลักๆ คือ เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่ใช้น้ำมันเกียร์ชนิด WS (TOYOTA Genuine ATF WS) ซึ่งไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันตลอดอายุการใช้งานของเกียร์

 

เครื่องยนต์

เครื่องยนต์ในรุ่น 2.5 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ 2KD-FTV สมรรถนะเท่าเดิม คือ 144 แรงม้า พร้อมแรงบิด 343 นิวตัน-เมตร ส่วนในรุ่น 3.0 ลิตร 1KD-FTV ขยายความแรงจาก 163 แรงม้า เป็น 171 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตัน-เมตร เป็น 360 นิวตัน-เมตร ในส่วนของกล่องสมองกลมีการปรับกล่อง ECU 32 bit และ PDV ให้สามารถเพิ่ม – ลดปริมาณการจ่ายน้ำมันให้เหมาะสมต่อการใช้งานมากขึ้น ส่วนที่ตัวหัวฉีดจะมีการเคลือบสารพิเศษ (Diamond Like Coating) เพื่อเป็นการป้องกันการเกาะของเขม่าจากการเผาใหม่ ให้การไหลของน้ำมันคล่องตัว รวดเร็ว และสามารถยืดอายุการใช้งานของหัวฉีด

ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง

ตัวปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงปรับใหม่ ให้มีแรงดันทำงานสัมพันธ์กับเทอร์โบแปรผัน (VN Turbo) ที่สามารถควบคุมองศาของครีบในตัวเทอร์โบจากการสั่งของ ECU เพื่อให้อัตราเร่งมาอย่างต่อเนื่องและฉับไว สุดท้ายเพิ่ม EGR Cooler เพื่อช่วยลดอุณหภูมิของไอเสียที่นำกลับเข้าไปในห้องเผาไหม้ เพื่อให้กำลังของเครื่องยนต์ไม่ตกลงมากและลดการเกิดมลพิษ

 

ช่วงล่าง

ส่วนของช่วงล่าง DTS (DIAMOND TECH SUSPENSION) มีการปรับให้หน้ายางสามารถสัมผัสผิวถนนได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมปรับค่า K ของสปริงให้นิ่มนวลขึ้น รวมถึงจัวหวะ Rebound ของช็อคอัพให้ช้าลง ภายในนอกจากมีหน้าจอพร้อม Navi แล้ว ยังมีระบบประมวลผลการขับประหยัดน้ำมันแบบ Real Tiime และในรุ่น 4 ประตู เพิ่มพนักผิงศรีษะตอนกลางที่นั่งแถวหลังเพื่อความปลอดภัยอีกด้วย

เริ่มการทดสอบในรูปแบบใหม่ของค่ายโตโยต้าที่ใช้รถตำรวจเปิดนำทาง เพื่อความปลอดภัย ในช่วง 120 กม. แรก ผมเป็นผู้โดยสารที่ดีก่อน สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้อย่างชัดเจนสำหรับ Vigo ใหม่ คือ ความนิ่มนวลของช่วงล่างเรื่องนี้ชัดเจนครับ การปรับช่วงล่างแบบนี้เหมาะสำหรับเป็นรถในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะความแข็งกระด้างหายไปเยอะ ในส่วนของ Navi ก็ทำงานได้แม่นยำ ส่วนของเล่นใหม่ที่ติดมาด้วย คือ ระบบประมวลผลการขับประหยัดน้ำมันแบบ Real Tiime มันจะทำงานด้วยการแสดงผลเป็นแท่งกราฟ และคำนวณคะแนนจากการประมวลผลนิสัยการขับขี่ของผู้ขับ จึงทำให้เราสามารถเรียนรู้และปรับนิสัยการขับขี่ เพื่อความคุ้มค่าในการใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น

 

ภายใน

เมื่อถึงคิวผมทดสอบ ระยะทางที่เหลืออีก 180 กม. ผมใช้ Toyota Hilux Vigo Champ 2.5E ABS 5AT Navi ซึ่งถ้ามองรวมๆ ในส่วนของภายในผมว่าหรูขึ้นด้วยหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว พร้อมฟังก์ชั่นบนพวงมาลัย ความแตกต่างจากรุ่นเดิมในคันที่ผมใช้ทดสอบเป็นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ที่ไม่มีแรงม้าแรงบิดเพิ่มขึ้น แต่เมื่อบวกเกียร์ออโต้ 5 สปีดเข้าไป อารมณ์การขับขี่ก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จาก Vigo รุ่นเดิม ที่มีสไตล์ดุดันออกตัวแบบหลังติดเบาะ เปลี่ยนมาเป็นความแรงที่มาแบบต่อเนื่องและไหลรื่นไต่ความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ในเรื่องความประหยัดรุ่นใหม่ทำได้ดีกว่าเดิมแน่นอนครับ

 

ต่อมา คือ ระบบช่วงล่าง การเปลี่ยนใหม่เริ่มตั้งแต่น้ำหนักพวงมาลัยที่หนักขึ้น ทำให้ความมั่นใจในการควบคุมดีขึ้น ช็อคอัพปรับให้จังหวะ Rebound ช้าลง และค่า K นิ่มนวลขึ้น จากที่ได้สัมผัสความนิ่มนวลดีขึ้นมาก แต่ในเรื่องของการเกาะถนนก็หายไปด้วยเช่นกัน ด้วยตัวรถที่สูงบวกกับค่า K ของสปริงนิ่มขึ้น จึงทำให้ จังหวะการเข้าโค้งบวกกับถนนไม่เรียบ ทำให้รถเกิดอาการโยนตัวดื้อโค้งอยู่บ่อยๆ แต่ในทางตรงถือว่าทำได้ดีครับ ส่วนระบบเบรกถือว่าเอาอยู่ แต่ผมต้องปรับตัวให้เข้ากับการใช้เบรกลักษณะนิ่มๆ เหยียบเบรกลึกๆ อีกสักหน่อย

ถ้าดูผ่านๆ ตามสเป็คถ้าไม่ได้ทดลองขับจริง มันเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่สำหรับผมถือว่าเยอะครับ เพราะอารมณ์การขับขี่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แต่อย่าพึ่งเชื่อผมครับ ลองไปสัมผัสเองได้ทุกโชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ สุดท้ายขอขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่ให้ iAMCAR ได้สัมผัสนวตกรรมใหม่ๆ มาโดยตลอด