Toyota GR Yaris 2021 ตัวแข่ง สุดเฟี้ยว ขับได้จริง แว่วว่าเอามาขายจำกัดจำนวน

ผลผลิตจากความร่วมมือกันของโตโยต้า และ Gazoo Racing จนออกมาเป็น แฮทช์แบ็ก 3 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ ในชื่อ Toyota GR Yaris 2021 ที่พร้อมบู๊สู้ศึกในรายการ WRC แต่ทว่าสามารถโลดแล่นได้สบายๆ บนท้องถนน โดยมีข่าวว่า โตโยต้าจะนำมาเผยโฉมให้ได้ชมกันในงาน Motor Expo 2020 ที่เมืองทองธานี 2-13 ธันวาคมนี้ พร้อมเปิดให้จองในจำนวนจำกัด

ตั้งแต่หวนคืนวงการแข่ง WRC ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา โตโยต้าได้ซุ่มทำรถมาโดยตลอด สำหรับ Toyota GR Yaris 2021 เป็นการพัฒนาขึ้นใหม่บนแพลตฟอร์มเฉพาะตัว จากการผสมผสานระหว่างแพลตฟอร์มใหม่ GA-B (ซึ่งจะมาในยาริส แฮทช์แบ็ก เจนเนอเรชั่นใหม่) ประกอบเข้ากับด้านหลังซึ่งใช้แพลตฟอร์ม GA-C ซึ่งใช้อยู่ใน โคโรลล่า และ C-HR

มิติตัวถัง เมื่อเทียบกับยาริสรุ่นสแตนดาร์ด

  • ความกว้าง                                1,805 มม.(เพิ่ม 60 มม.)
  • ความยาว                                  3,995 มม.(เพิ่ม 55 มม.)
  • ฐานล้อ                                      2,560 มม.
  • ความสูง                                    1,455 มม.(ลดลง 45 มม.)
  • น้ำหนักรวม                               1,280 กก.(ไม่รวมคนขับ)

หลังการผ่าตัดแพลตฟอร์มเพื่อนำส่วนหลังที่เป็นแบบดับเบิ้ลวิชโบนมาใช้แล้ว จำนวนประตูจาก 5 ประตูก็ถูกลดลงเหลือเพียง 3 ประตู ทั้งนี้เป็นไปตามกฎของการแข่งขัน WRC ได้ล้อแม็กขนาด 18 นิ้วเป็นมาตรฐาน โดยมีดิสก์เบรก 4 ล้อด้านหน้าแบบ 4 พอท และด้านหลังแบบ 2 พอท

แม้จะเป็นรถซิ่ง แต่ภายในห้องโดยสารก็ทำไว้สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน ระบบควบคุมไฟหน้าอัตโนมัติ จอ HUD ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศดูอัลโซน เครื่องเสียง JBL เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ได้ และยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยต่างๆ ใส่มาด้วย

เครื่อง 3 สูบ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด

ตามข้อกำหนดการแข่ง WRC รุ่น R5 ต้องเป็นเครื่อง 3 สูบ ดังนั้นเจ้า Toyota GR Yaris 2021 จึงใช้บล็อก 3 สูบ ขนาดความจุ 1.6 ลิตร 12 วาล์ว DOHC VVTi หัวฉีดตรง D4S พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบ ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 261 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตรที่ 3,000-4,600 รอบ/นาที ให้สมรรถนะอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 5.5 วินาที และท้อปสปีดที่ถูกตอนไว้ที่ 230 กม./ชม.

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR-Four ใหม่ มีน้ำหนักเบา ทำงานเรียบง่าย แบ่งกำลังการทำงานไปยังล้อต่างๆ อย่างเหมาะสม โดยมีกล่อง ECU ควบคุมแยกต่างหากเพื่อปรับการขับขี่ตามสถานการณ์ที่เจอ

สำหรับเรื่องราคายังไม่เป็นที่แน่ชัด เอาเป็นว่าต้องมีน่าจะต้องกำเงิน ล้านกว่าบาทไปสู่ขอ แต่ถ้างานนี้เปิดให้จองในไทยคงทะลุไป 2-3 ล้านบาทเป็นแน่

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Toyota

แท็กฮิต :