Volvo S90 Recharge T8 AWD Inscription … มาตรฐานเดิม เพิ่มเติมคือราคาสุดเร้าใจ

โพสต์เมื่อ 8th ธันวาคม 2020 หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย Poyee Poyee

Volvo Cars Thailand รุกตลาดรถหรูส่ง Volvo S90 Recharge T8 AWD Inscription ที่มาพร้อมการอัพเกรดชุดใหญ่ เช่น ตราโลโก้ Iron Mark รูปแบบใหม่ ประกบชุดไฟหน้า LED ในรูปแบบงานดีไซน์จาก “ค้อนแห่งเทพเจ้าธอร์” (Thor Hammer) มาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดไฟหน้า, ไฟสูงพร้อมการปรับมุมมองอัตโนมัติ (Adaptive High Beam Control) เสริมด้วยไฟส่องสว่างมุมมองด้านข้างตัวรถ (Cornering Lights) และชุดไฟ Daytime Running Lights ลงตัวกับกันชนหน้ารูปแบบใหม่ตกแต่งด้วยคิ้วโครเมี่ยม ขณะที่ด้านข้างเสริมความภูมิฐานด้วยล้ออัลลอยด์ลายใหม่ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 255/40 R19 โดยมีด้านหลังที่มากับชุดไฟท้ายแบบ LED และชุดกันชนหลังใหม่ แต่งด้วยคิ้วโครเมี่ยมแนวนอนสไตล์เดียวกันด้านหน้า ปิดท้ายด้วยด้านบนที่มากับชุดหลังคา Sunroof เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า

ภายในมากับความหรูหราด้วยการตกแต่งอันโดดเด่น โดยเฉพาะในส่วนของคันเกียร์คริสตัลที่ผลิตโดย Orrefores พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน เช่น เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa โดยมีคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกความจำตำแหน่ง Memory Seat 3 ตำแหน่ง และระบบหมอนหนุนหลังด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง และระบบระบายความร้อน ด้านระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติก็ได้รับการติดตั้งระบบฟอกอากาศอัจฉริยะ พร้อมเซ็นเซอรวัดค่า PM2.5 และ Clean Zone ดักละอองฝุ่น เกสรดอกไม้ ที่รวมไปถึงการควบคุมสภาวะอากาศอัตโนมัติภายในรถ และเซ็นเซอร์ตรวจจับกลิ่นไอเสีย ไปจนถึงหน้าจอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบ Head-up Display แสดงข้อมูลบนกระจกหน้า

ขณะที่ระบบความบันเทิงจะมากับหน้าจอแสดงผลบนคอนโซลกลางแบบระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 9 นิ้ว พร้อมชุดเครื่องเสียง Premium Sound by Bowers & Wilkins ด้วยลำโพง 19 ตัว ที่สามารถเลือกฟังได้ 3 โหมด ได้แก่ Studio, Individual Stage, และ Gothenburg Concert Hall รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้งระบบปฏิบัติการ Apple Car Play และ Android Auto พร้อมฟังค์ชั่นการเชื่อมต่อ Sensus Connect พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Command ตลอดจนรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth และ Wireless Charger ตามด้วยความอเนกประสงค์ เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน จากเบาะโดยสารตอนหลัง พับแยกส่วน 60 : 40 และการเปิด-ปิด ฝาท้ายแบบไฟฟ้า พร้อมระบบ Hands-Free Tailgate

ด้านขุมพลังเร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Engine แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ผสานการทำงานของ Turbocharger และ Supercharger สร้างพละกำลังสูงสุด 320 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรให้กับล้อคู่หน้า เสริมแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 11.6 kWh สู่ล้อคู่หลัง โดยให้เรี่ยวแรงรวมสูงสุดถึง 407 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 640 นิวตันเมตร สามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 49 กม. ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบ Geartronic และระบบปรับโหมดการขับขี่ Drive Mode Setting พร้อมการเคลมอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.9 วินาที และความเร็วสูงสุดที่จำกัดไว้ 180 กม./ชม.

ระบบความปลอดภัยยังคงเต็มพิกัดตามสไตล์ยนตรกรรมจาก Volvo ซึ่งประกอบด้วย ระบบป้องกันการชนด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับรถยนต์คนเดินถนน จักรยาน และสัตว์เลี้ยง พร้อมฟังค์ชั่นช่วยหักหลบ (City Safety with Full Auto Brake and Steering Assist, ระบบป้องกันการชน และบรรเทาการบาดเจ็บ พร้อมฟังค์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ (Collision Avoidance & Mitigation Support with Auto Brake), ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา พร้อมฟังค์ชั่นช่วยหักหลบ Blind Spot Information System with Steering Assist

ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ทางด้านหลัง ในขณะถอยหลัง พร้อมฟังค์ชั่นหยุดรถอัตโนมัติ Cross Traffic Alert with Auto Brake, ระบบแจ้งเตือนให้เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า Distance Alert, ระบบแจ้งเตือนด้วยการสั่นที่พวงมาลัยเมื่อออกนอกช่องจราจร Lane Keeping Aid

ต่อเนื่องด้วยความปลอดภัยเชิงปกป้อง Protective Safety อาทิ ระบบปกป้องเมื่อเกิดการวิ่งตกถนน Run-Off Road Protection, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบปกป้องการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอและหลัง (Whiplash Protection System), ระบบกระจายแรงกระแทกจากการชนด้านข้าง Side Impact Protection System

ตามด้วยระบบช่วยในการขับขี่อัตโนมัติ Pilot Assist, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่นหยุด/ออกตัวอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control with Queue Assist, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ แบบเข้าซอง และจอดแบบขนาน, กล้องรอบทิศทาง 360 องศา พร้อมจอแสดงภาพ ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์กะระยะช่วยจอดทั้งด้านหน้า และด้านหลัง