Mazda คือ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีความแตกต่างไม่เหมือนใคร และฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มากมายในอดีต จนมาถึงปัจจุบัน เพื่อสร้างแนวทางการทำงาน และความมุ่งมั่นสู่ชัยชนะ เพราะเรามองว่านี่คือสิ่งท้าทายเพื่อให้เกิดการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดียิ่งขึ้น และนั่นคือสิ่งสามารถสัมผัสได้ในรถทุกๆ คันของเรา
กว่าจะกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Mazda ต้องย้อนกลับไปในปี 1920 บริษัท Toyo Cork Kogyo ได้ก่อตั้งขึ้นที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น โดย มร. จูจิโร มัทสึดะ ได้ทำการผลิตจุกไม้ก๊อก
จนก้าวสู่การผลิตรถยนต์ในรถยนต์ ในปี 1931 ภายใต้ชื่อ “มาสด้า” จากชื่อของ มร. มัทสึดะ โดยความหมาย ก็คือ “ความรอบรู้อันชาญฉลาดของเทพเจ้าของชาวเอเชียตะวันตก ความเป็นอัจฉริยะ และความผสมผสานกลมกลืนของวัฒนธรรม”
โดยรถคันแรกที่ผลิตขึ้นมาเป็นรถยนต์สามล้อมีชื่อว่า “Go” ออกไปจำหน่ายที่ประเทศอินเดีย และจีน จนได้รับความนิยมอย่างสูงในเรื่องของความสามารถในการควบคุมรถ และนั่นคือตัวอย่างแบบหนึ่งของการ “คิดต่าง” ไม่เหมือนใครด้วยทัศนคติว่าเราทำได้ “Can-do” ซึ่งปลูกฝังมาจากความมุ่งมั่นของชาวฮิโรชิม่า ที่ต้องการเอาชนะความท้าทาย และอุปสรรคต่างๆ
ด้วยความคิดดังกล่าวนำทางสู่การก่อกำเนิดเครื่องยนต์ ซึ่งโลกได้รู้จักในฐานะของ “ลูกสูบแบบหมุน” จากการพัฒนาภายหลังจากเครื่องยนต์โรตารี่ถูกริเริ่มขึ้นโดย มร. เฟลิกซ์ แวนเคิ้ล (Felix Wankel) ซึ่ง Mazda ได้รับลิขสิทธิ์ของเทคโนโลยีนี้ในช่วงท้ายของทศวรรษ 1950 โดยเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเดียวในโลกที่ได้ใช้เครื่องยนต์ Rotary เพิ่มเติมจากเครื่องยนต์ที่มีอยู่ในตลาดจนถึงทุกวันนี้
และเครื่องยนต์ Rotary นี้เอง คือ สิ่งที่นำทางสู่ความสำเร็จในยุคต่อๆ มา ด้วยรถสปอร์ตอย่าง Cosmo 110S ที่ใช้เครื่องยนต์ Rotary เป็นครั้งแรก ตามด้วย RX-7, RX-8 และตัวแข่งระดับตำนานรุ่น 787 ที่ชนะเลิศการแข่งขัน Le Mans 24 ชม. ในปี 1991 ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ไม่มีผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายใดชนะการแข่งขันได้มาก่อน
จากความสำเร็จที่ผ่านมาทำให้ เกิดแนวคิดการออกแบบใหม่ และการสื่อสารด้วยสโลแกนใหม่ “Zoom Zoom” หรือ การแสดงออกความรู้สึกสนุกสนานในวัยเยาว์ ขณะกำลังเคลื่อนที่ โดยถ่ายทอดมาสู่การขับขี่รถยนต์ เพื่อให้เกิดประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจ ผ่านยนตรกรรมรุ่นแรก มาสด้า 6 ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในปี 2002 เช่นเดียวกับ RX-8 ในปี 2003
จนมาสู่ก้าวต่อไปของแบรนด์กับการพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ในชื่อ “เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ” ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ พร้อมด้วยแนวทางการออกแบบใหม่ “โคโดะ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว” เพื่อสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่สวยงามประทับใจแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
คำว่า โอเวอร์สเตียร์ (oversteer) หรือ อันเดอร์สเตียร์ (understeer) ที่เรามักจะได้ยินกัน ว่ากันง่ายๆก็คือ เป็นอันตรายจากการ เข้าโค้ง ด้วยความเร็วที่เกินลิมิด มักจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะแบ่งเป็น โอเวอร์สเตียร์ (oversteer) กับ อันเดอร์สเตียร์ (understeer)
หลายคนยังน่าจะเข้าใจแบบผิดๆอยู่ว่า ขนาดของท่อไอเสียนั้น ถ้ายิ่งมีขนาดใหญ่ จะทำให้รถแรงและมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งถ้าจะเอาตามหลักแล้ว ควรจะพิจารณาความต้องการของเครื่องยนต์ของรถมากกว่า
ท่อไอเสีย มีหน้าที่หลักคือ เป็นทางเดินเพื่อระบายไอเสียออกจากเครื่องยนต์ ผ่านท่อรวมไอเสีย พักกลาง พักปลายโดยตัวหม้อพักจะช่วยลดเสียงระเบิด-ของการจุดระเบิดภายในครื่องยนต์ให้น้อยลง
มาสด้า2 มีเสียงดัง ว่าแล้วจึงเลี้ยวเข้าศูนย์ใกล้บ้านเจ้าประจำ ให้ตรวจเช็คดูหน่อย ผ่านไปไม่นานนัก ช่างแจ้งรายการซ่อม ต้องเปลี่ยน พอเห็นรายการ ถึงกับ
การเปลี่ยน Header “เฮดเดอร์” นั้นมีผลต่อความแรงของเครื่องยนต์แบบไหน เปลี่ยนแต่ เฮดเดอร์ แล้วรู้สึกได้เลยหรือเปล่า ต้องมีอะไรอีกหรือไม่ เราจะมาหาคำตอบกัน
บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในฐานะร่วมผู้สนับสนุนโครงการ “ก้าวคนละก้าว” โดยคุณอาทิวราห์ คงมาลัย (คุณตูน บอดี้สแลม) ออกวิ่งจากเขตแดนใต้สุดมุ่งสู่เหนือสุดแดนสยาม เริ่มกิจกรรมวิ่งระดมทุนเพื่อหาเงินบริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ
SPOILER (สปอยเลอร์) ที่ติดตั้งบนส่วนท้ายของรถยนต์ มีจุดประสงค์ในการเพิ่มแรงกดที่ส่วนท้ายของรถยนต์ ทำให้รถยนต์ยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น โดยทั่วไปแล้วในขณะที่รถยนต์วิ่งด้วยอัตราเร็วสูง จะเกิดแรงยกกระทำกับรถยนต์ ทำให้การยึดเกาะถนนของรถยนต์เลวลง ผู้ขับขี่จะรู้สึกได้ว่ารถยนต์มีอาการร่อนไปมา และโดยเฉพาะอย่างในขณะเลี้ยวโค้ง รถยนต์จะมีอาการท้ายปัดทำให้เสียการทรงตัว สปอยเลอร์จะเพิ่มแรงกดในรถยนต์ ยางรถยนต์จึงยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น
หลายท่านอาจจะเคยเห็น รถแต่ง รถซิ่ง และ รถแข่ง ได้มีการติดตั้งโครงเหล็ก หรือที่เรียกๆกันทั่วเมืองว่า Rollbar อยู่ภายในห้องโดยสาร ว่าเขาติดไปทำไหม ติดแล้วมีประโยชน์อย่างไร มันผิดผิดกฎหมาย หรือเปล่า
รถสีขาว ที่ผ่านการใช้งานแล้ว เมื่อล้างรถแล้วแต่ทำไมยังมีคราบสกปรก ดำๆ เหลืองๆ ติดรถอยู่นะสีก็ด้านๆ คราบสนิม จุดเล็กๆ สีส้ม เต็มไปหมดเลย ผิวรถไม่เห็นจะเงาเหมือนตอนแรกๆ เลย มีวิธีง่ายๆแต่ต้องใช้เวลานิดหน่อย สำหรับการดูแลรถสีขาว
Shock absorbers หรือ โช๊คอัพ เป็นอุปกรณ์ส่วนที่สำคัญที่สุดของรถยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยหน้าที่การทำงานของ โช๊คอัพนั้น ก็คือ การรองรับแรงกระแทก และลดแรงสั่นสะเทือนในขณะรถวิ่งสัมผัสกับพื้นผิวถนน ช่วยในเรื่องการทรงตัวในขณะที่รถยนต์วิ่งด้วยความเร็ว โดยปกติของตัวช็อกอัพนั้นจะมีอายุการใช้งานประมาณ 3 ปี หรือ 50000 – 100000 กิโลเมตรแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของรถในแต่ละคันนั้นๆ ด้วย
การ โหลดเตี้ย ด้วยวิธีการตัดสปริง มันเป็นวิธีที่ได้ความเตี้ยของตัวรถมาได้ง่ายๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว วิธีนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อการทรงตัวของรถและผิดหลักการ โดยการสปริงแบ่งเป็น การตัดด้วยไฟ ความร้อนจะทำให้ความยืดหยุ่นบริเวณใกล้เคียงเสียไป ต่อมาคือการตัดด้วยหินเจียร์หรือไฟเบอร์ ไม่มีปัญหาความร้อน แต่มีหลายปัญหาตามมา การตัดสปริง เมื่อไรที่สปริงสั้นลงก็จะแข็งขึ้น ยุบยาก แต่ดีดตัวแรง เพราะสปริงทำงานยุบและยืดตัวด้วยการบิดตัวของเส้นสปริง แม้จะดูว่าเป็นการยุบตัวตามแนวตรง แต่ตลอดการยุบและยืดตัว จะเกิดขึ้นจากการบิดตัวของเส้นสปริง
SPARK PLUG หรือ หัวเทียน เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่เพื่อการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ โดยปล่อยกระแสไฟแรงดันสูง อันเป็นกลไกสำคัญต่อเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง เบนซิน หรือก๊าซ ซึ่งโดยทั่วไปหัวเทียนจะรับแรงดันกระแสไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 10,000 โวลต์ และทนความร้อนไม่ต่ำกว่า 2,000 องศาเซลเซียส ลักษณะของหัวเทียนจะมีเปลือกนอกเป็นโลหะและมีกระเบื้อง หรือเซรามิคเป็นฉนวนเคลือบอยู่ภายใน ขั้วกลางของหัวเทียน จะได้รับแรงไฟมาจาก สายไฟแรงดันสูง หรือสายหัวเทียน
Copyright © 2024. iamcar.net All rights reserved.
