ซื้อBigbike ซื้อได้ แต่ดูแลไหวมั้ย คิดจะเป็น Biker ควรรู้
ความฝันที่เหล่า Biker ทั้งหลายแน่นคงจะต้องคิดว่าจะต้องมี Bigbike ไว้ครอบครองสักคัน และตัวแปรสำคัญที่ทำให้หลายคนฝัน อยากมี Bigbike สักคันไว้ครอบครอง นั่นก็คือ เม็ดเงินที่แต่ละคนมีไม่เท่ากัน จึงทำให้รุ่นของรถที่อยากได้ ไม่เหมือนกัน เนื่องจากปัจจัยทางด้านราคารถและสภาพคล่องทางการเงิน ดังนั้นการที่จะมีรถ Bigbike 1 คัน จะต้องเจอกับค่าใช้จ่ายที่ต้องรับรู้ก่อนที่จะซื้อ เพื่อให้เห็นความเป็นจริง ที่ไม่ได้มีแค่ค่าน้ำมันในการใช้รถอย่างเดียว
ซื้อBigbike ซักคัน ต้องทำยังไงบ้าง
ในการ ซื้อBigbike สามารถแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ซื้อเงินสด กับ ซื้อเงินผ่อน อย่างเช่นรถราคา 200,000 บาท
ซื้อสดก็จบตรงนั้น จ่ายเงินรับรถกลับบ้านเลย มาพร้อมของแถมโปรโมชั่นต่างๆ แถมจดทะเบียน, พรบ. ประกันชั้น1
ซื้อผ่อน สมมุติเงินเดือนหักโน่นนี่นั่นแล้วเหลือใช้ 15,000 บาท อันดับแรกคือต้องจองก่อน ส่วนใหญ่รถจะราคาประมาณ 200,000 บาท วางเงินจองไม่เกิน 5,000 บาท จองเสร็จไฟแนนซ์ผ่าน วางดาวน์อีก 10% ของราคารถ ก็ตก 20,000 บาท ผ่อน รวมดอกเบี้ย รวมอะไรแล้ว ต่อเดือนก็น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท
อุปกรณ์ ป้องกัน มันต้องมี
การที่จะมีรถ Bigbike เราต้องมีอุปกรณ์ป้องกันก่อน หลักๆเลยก็ต้องมี
หมวกกันน็อค ราคาต่ำสุดสำหรับ Bigbike ก็น่าจะมี 6 พันบาทขึ้นไป
ถุงมือ ประมาณ 2 พันบาท ขึ้นไป
เสื้อการ์ด ประมาณ 6 พันบาทขึ้นไป
รองเท้าขับขี่ 4 พันบาทขึ้นไป หรือจะเป็นรองเท้าผ้าใบดีๆซักคู่ก็ไม่ผิดอะไร
ค่าบำรุงรักษา ของมันต้องจ่ายหลีกเลี่ยงไม่ได้
มาเริ่มนับกันดีกว่า ว่าซื้อรถมาแล้ว ใน 1 เดือน จะต้องเจออะไรบ้าง นอกเหนือจากเงินดาวน์และค่าอุปกรณ์ป้องกัน สมมุติว่าต้องใช้รถทุกวัน วันละ 32-35 กิโล ไม่นับออกทริป เฉลี่ยเดือนนึงวิ่งประมาณ 1,000 กม. เติมน้ำมันอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 300 บาท ค่าใช้จ่ายที่จะต้องเจอในเดือนแรก คิดแบบคร่าวๆเลขกลมๆ ก็คือ
ค่าผ่อน 3,000 บาท
ค่าน้ำมัน 1,200 บาท
เช็คระยะ 1,000 กม. ประมาณ 1,500 บาท ในครั้งแรก
รวมแล้วเดือนแรกต้องจ่ายไป 5,700 บาท
6 เดือนผ่านไป ตีเป็นระยะทาง 6,000 กม. ค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะตีเป็นเลขกลมๆประมาณ 3,000 บาท ค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ก็จะมี
ค่าผ่อน 3,000 บาท
ค่าน้ำมัน 1,200 บาท
เช็คระยะ 3,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายในเดือนนี้สำหรับรถ Bigbike ของในเดือนนี้ 7,200 บาท
1 ปีผ่านไป ตีเป็นระยะทาง 12,000 กม. ค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะ อาจจะต้องมีเปลี่ยนผ้าเบรค เอาเป็นว่าตีกลางๆไว้ก่อน ค่าใช้จ่ายรอบนี้ราวๆ 4,500 บาท
1 ปีแล้ว ยางถ้าหมด ก็ต้องเปลี่ยน ตีราคายางกลางๆให้ อยู่ที่ 8,000 บาท
1 ปีแล้ว ประกันชั้น 1 ต้องต่อ ก็ประมาณ 12,000 บาท ดังนั้นค่าใช่จ่ายครั้งนี้จะมี
ค่าผ่อน 3,000 บาท
ค่าน้ำมัน 1,200 บาท
เช็คระยะ 4,500 บาท
ยาง 8,000 บาท
ต่อประกันชั้น 1 12,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายในเดือนนี้สำหรับรถ Bigbike ประมาณ 28,700 บาท ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างรวดเดียวให้จบทั้งหมด อาจจะทยอยไปทำเดือนอื่นๆได้ ไม่ว่าจะจ่ายรวดเดียว หรือจะทยอยทำ ทยอยจ่าย ยังไงก็หนีไม่พ้นยอดรวมดังกล่าว ต่อให้เข้าเช็ครถร้านนอก หาผ้าเบรคทดแทน หายางมือสอง ต่อประกันชั้น 3 สุดท้ายแล้ว ก็ต้องจ่ายอยู่ดี
เพราะฉะนั้นแล้ว การซื้อรถ Bigbike 1 คัน ซื้อได้ ซื้อไหว แต่อย่าลืมถามตัวเองว่า เราไหวหรือไม่ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีค่าใช้จ่ายเหมือนๆกัน มากน้อยก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์และราคารถที่ซื้อ
สรุปก่อนซื้อ Bigbike
– ศึกษารถแต่ละแบรนด์
– ค่าบำรุงรักษา
– ค่าอะไหล่
– ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ตามมา
เมื่อศึกษาทั้งหมดแล้ว ก็ประเมิณกำลังตัวเองอีกที แล้วซื้อคันที่เรามั้นใจว่าไหวจริงๆ และการ Service ร้านนอกเหตุผลเพราะถูกกว่าศูนย์ ทั้งๆที่รถยังมี warranty อยู่ แต่ก็ไม่รักษาไว้ สุดท้ายวันนึง รถมีปัญหา จะไปเคลมศูนย์ แต่ warranty ก็ขาดไปซะแล้ว แล้วก็ว่าแบรนด์นั้นไม่ดี แบรนด์นี้อะไหล่แพง สุดท้ายซ่อมไม่ไหว ปล่อยดาวน์ ขายขาดทุน บางคนปล่อยยึด เครดิตเสีย จะไปซื้อรถใหม่ก็ลำบากยากเข็น เพราะฉะนั้นแล้ว ซื้อรถอย่าตามใครนอกจากตามกำลังของตัวเองดีที่สุด
