เทคนิคการถ่ายรูป ให้เหมือนถ่าย Magazine

EP.นี้เอาในคนชอบถ่ายรูปสุดๆ เพราะเรามี เทคนิคการถ่ายรูป เก๋ๆ มากฝาก รับรองว่านำไปใช้จะได้รูปภาพที่สวยสมใจเหมือนถ่าย Magazine แน่นอนค่ะ

Japanese Portrait : พอตเทรตแสงนวลสไตล์ญี่ปุ่น

เหมาะสำหรับสาวๆ แนวมินิมอล ชอบไปนั่งคาเฟ่สวยๆ ถ่ายรูปเก๋ๆ เก็บไว้ เคล็ดลับคือการเลือกที่ๆ มีแสงเคลียร์ๆ ยิ่งถ้าเป็นแสงธรรมชาติ ได้ยิ่งดี ไปถึงปุ๊บหาที่นั่งใกล้หน้าต่างที่มีแสงเข้าจะดีมาก การดูเรื่องรูรับแสงก็ไม่ยาก หากภายในคาเฟ่มีแสงน้อยเราแนะนำให้ใช้รูรับแสงกว้าง (เลข F น้อย) เพื่อให้แบบหน้าไม่มืด ส่วนถ้าแสงจ้าอยู่แล้วก็ใช้รูรับแสงแคบได้ เพื่อความคมชัด และดีเทลที่ครบ ก่อนถ่ายกดโฟกัส แล้วถ่ายรัวๆ ได้เลย เก๋ขึ้นได้อีกถ้าลองถ่ายผ่านการสะท้อนกระจกของร้าน ให้เห็นเป็นเงาต้นไม้ หรือป้ายร้านจากด้านนอกพาดเป็นแนวจางๆ ในรูป เล่นเลเยอร์แบบทับซ้อนกัน

Seoul Vibes : หน้าชัดหลังละลาย วิ้งๆ สไตล์สาวเกาหลี

ธีมใสๆ อีกหนึ่งธีมที่สาวๆ เนตไอดอลชอบถ่ายกันและออกมาสวยฟริ้งมากๆ ก็คือถ่าย Portrait ตัวเราเองเนี่ยแหละ น่ารักสุดๆ ไปเล้ยยยย เทคนิคจริงๆ ง่ายแสนง่าย แค่หันหน้าเข้าหา แสงธรรมชาติก็จะทำให้ดูหน้าใสขึ้น และอีกความรู้นึงในการถ่ายแบบหลังละลายนั้น อย่าลืมจำว่า “รูรับแสงกว้าง” ไว้ด้วยล่ะ หรือการใช้ F เลขน้อยๆ นั่นเอง การที่เราละลายแบคกราวด์ด้านหลังเนี่ยข้อดีของมันก็คือจะช่วยตัดแบคกราวด์รกๆ ได้แบบเนียนๆ เลยแหละอย่าลืมเรื่องการเว้นระยะของแบบกับแบคกราวด์ด้านหลังด้วยล่ะ จะทำให้เห็นมิติในการละลายหลังสวยขึ้นมาก แค่นี้แหละ เราก็โฟกัสได้ทั้งความสดใสของนางแบบ ที่เหลือก็แค่หนีบเสื้อผ้าแฟชั่นสุดชิคไปถ่ายรูปได้เล้ยยยย

Light & Shadow : เข้มๆ ไปกับแสงและเงา


ธีมแสงเคลียร์ก็ว่าไปแล้ว มาลองดูอีกคอนเซปต์นึงที่เล่นเรื่องคอนทราสตnของแสงกับเงาแบบเท่ๆ กันบ้างดีกว่าซึ่งเหมาะกับความจ้าของแดดบ้านเราเอาซะมากๆ ลองหากำแพงหรือฉากหลังที่สีพื้นโล่งๆ หรือเป็นจุดที่มีช่องแสงตกลงมาพอดี หาสปอตที่มีเงาต้นไม้ ใบไม้พาดลงมา จะเพิ่มดีเทลเก๋ หรือถ้าไม่มีจริงๆ นะใช้มือตัวเองครีเอทเงาให้เกิดคอนทราสต์ในรูป ปรับกล้องให้ค่ารูรับแสงมากๆอย่าง F2.4 ซึ่งจะเก็nทุกรายละเอียดให้สวยกริ๊บทั้งภาพ แค่นี้แล้วก็โพสรัวๆ จือปาก แอคหน้าแบบเท่ๆ

Silhouette : ภาพย้อนแสงไปกับเงาสุดเท่

ธีมนี้ไม่ยากเลย แถมได้ภาพที่ดูอิมแพคท์สุด emotional สุดด้วย แค่ถ่ายย้อนแสงช่วงเวลาเช้าตรู่หรือช่วงเย็น ที่แสงกำลังโพล้เพล้ หรือที่ช่างภาพเรียกช่วงเวลาแสงที่สวยที่สุดนี้ว่า magic hour นั่นเอง ปรับค่า ISO ให้ต่ำและปรับค่า Exposure ชดเชยแสงตามที่ชอบ ปรับไปจนกว่าเงาของแบบในเฟรมจะชัดที่สุด แล้วโพสแบบเล่นใหญ่ได้เลย กางแขน ก้าวขา หันข้าง

The Movement Background : แบคกราวด์ที่ไม่เคยหยุด


เราว่าทุกคนต้องมีโมเมนต์แบบที่ว่าไอจีช่างภาพชั้นเซียน แล้วเห็นรูปที่แบบ เค้ายืนนิ่งๆ หน้าชัดเป๊ะเลยนะ แต่ทุกอย่างที่อยู่ในแบคกราวด์ด้านหลังหรือรอบๆ ดูเคลื่อนไหวแบบฟึ่บฟั่บ ขอบอกเลยว่ารูปแบบนี้ ทำได้ง่ายมาก เทคนิคคือการตั้ง Shutter Speed ให้ต่ำเข้าไว้ (สักประมาณ 1/10 กำลังดี) โดยกล้องต้องนิ่ง นางแบบต้องนิ่ง แล้วปล่อยรอบๆ ตัวเคลื่อนไหว แนะนำว่าถ้าไปถ่ายบนถนนตอนกลางคืนที่มีรถวิ่งสวนไปสวนมา หรือแถวๆ สถานีรถไฟที่คนพลุกพล่าน จะได้ภาพที่มีดูมีชีวิต ดูเคลื่อนไหวตลอดเวลาแบบนี้เลย

Neon Lover : รูปวินเทจแบบหนังหว่องการ์ไว


ภาพสไตล์วินเทจแบบในหนังคลาสสิกของหว่องการ์ไว องค์ประกอบที่สำคัญ มีอยู่แค่ 3 อย่าง หนึ่งคือป้ายไฟนีออนโทนแดงๆ หาได้ไม่ยากเลยแถวเยาวราช สอง ค่า ISO ต่ำสุดและ Speed Shutter ต่ำเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อที่จะได้ไม่เกิด noise และได้ภาพที่สว่าง สามคือพรอพพิเศษที่หาได้ง่ายๆ รอบตัว เทคนิคที่ช่างภาพมือฉมังชอบใช้กันก็คือ การใช้คริสตัลที่จะช่วยดูดแสงรอบๆ หรือการใช้แผ่นซีดีด้านหลังมาจ่อไว้ใกล้ๆ เลนส์กล้อง เพื่อทำให้แสงไฟสะท้อนทำให้ได้เลเยอร์เบลอๆ ฟุ้งๆ เก๋สุดๆ

Light Paint : เพ้นท์แสงไฟเป็นเส้นสายสุดเก๋


มีป้ายไฟนีออนแล้วก็ต้องมี Light Painting การเพ้นท์แสงไฟเป็นลวดลายในอากาศซึ่งเป็นเทคนิคที่ดูเหมือนจะถ่ายด้วยกล้องสมาร์ทโฟนไม่ได้ แต่จริงๆ ถ้าเราเข้าใจ ในการปรับตั้งค่านิดหน่อยบอกเลยว่าถ่ายได้! คีย์สำคัญอยู่ที่การตั้งค่า ISO ให้ต่ำเพื่อที่จะไม่ให้เกิด noise ใช้รูรับแสงที่แคบหน่อยเพื่อให้ภาพมืดกว่าปกติ และปรับค่า Speed Shutter ตั้งไว้ประมาณ 1 – 2 วินาที มือและแบบต้องนิ่งมากๆ ส่วนคนที่เป็น Light Painter ก็จัดการบรรเลงงานอาร์ทได้เลย

 

ขอบคุณข้อมูล : CLEO Thailand