Rolls-Royce สร้างสรรค์สุดยอดยานยนต์รุ่นพิเศษ Wraith ‘Inspired by British Music

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2017 เวลา 16:12 น. หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย iAMCAR Team

โรลส์-รอยซ์ ( Rolls-Royce ) ประกาศการผลิตยานยนต์ซีรี่ส์ใหม่ Wraith ‘Inspired by British Music’ (เรธ อินสไปร์ บาย มิวสิค) ที่สร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจทางดนตรีของเหล่าศิลปินร็อค และนักร้องชื่อดังของเครือจักรภพอังกฤษ เพื่อการประกาศความยิ่งใหญ่ของวัฒนธรรมทางดนตรีและความสำเร็จของแบรนด์ยานยนต์ระดับโลกแห่งราชอาณาจักรที่ทั่วโลกจับตามอง

รถยนต์รุ่นพิเศษ 4 คันแรกได้จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

รถยนต์รุ่นพิเศษ 4 คันแรกได้จัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วที่โรงแรมแซนเดอร์สันย่านเฟิตซ์โรเวียแห่งกรุงลอนดอน โดยเกิดจากการร่วมมือระหว่างโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กับ 4 ศิลปินชื่อก้องโลก อาทิ โรเจอร์ ดัลตรีย์ ซีบีของนักประพันธ์เพลงและผู้อำนวยการเพลงชื่อดังในตำนาน เซอร์ จอร์จ มาร์ติน อี แห่งวง The Who, เซอร์ เรย์ เดวีส์ แห่งวง The Kinks, และ ไจล์ส มาร์ติน ผู้อำนวยการผลิตและนักประพันธ์เพลงชื่อดังระดับโลก และเป็นบุตรชาย

ยานยนต์รุ่น Wraith ‘Inspired by British Music’ แต่ละคันถูกสร้างสรรค์ขึ้นจากแรงบันดาลใจทางดนตรีของเหล่าศิลปินชื่อดังของเครือจักรภพ ได้รับการออกแบบและผลิตด้วยมือโดยช่างฝีมือระดับสูงของโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เพื่อนำเสนอความงดงามของสุดยอดยานยนต์ที่สื่อถึงภาพลักษณ์ของศิลปินร็อคและนักร้องเพลงพ็อพระดับตำนานแต่ละคนอย่างชัดเจน โดยศิลปินทุกคนได้รับคำเชิญแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้เดินทางไปเยือนสำนักงานใหญ่ของโรลส์-รอยซ์ ในเมืองกู้ดวูด ประเทศอังกฤษ และทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบรถยนต์ของโรลส์-รอยซ์ อย่างใกล้ชิด เพื่อดึงเอกลักษณ์แนวเพลงของแต่ละคนและถ่ายทอดลงในงานออกแบบให้ได้มากที่สุด จนกระทั่งปรากฏเป็นสุดยอดยนตกรรมที่เปี่ยมด้วยความงดงามขั้นสูงสุดที่บรรดาแฟนๆ ที่หลงใหลในศิลปินระดับตำนานเหล่านี้จะไม่ยอมพลาดการเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน โดยโรลส์-รอยซ์ มีแผนการวางจำหน่ายภายในปี 2560 รายได้บางส่วนจากการจำหน่ายรถยนต์แต่ละรุ่น จะนำไปบริจาคแก่องค์กรการกุศลที่คัดเลือกโดยศิลปิน อาทิ องค์กรช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในวัยรุ่น เป็นต้น 

หนึ่งในความโดดเด่นของยานยนต์ Wraith คือการนำองค์ประกอบอันโดดเด่นของอัลบั้มยอดฮิตของศิลปินมาตกแต่งในส่วนประกอบต่างๆ ของรถได้อย่างงดงาม อาทิ การนำภาพปกอัลบั้ม Tommy ของวง The Who มาตกแต่งบนฝากระโปรงรถ หรือการนำบทเพลงฮิตอันดับหนึ่งของเซอร์ จอร์จ มาร์ติน มาปักลายบนแผ่นหนังระหว่างเบาะนั่งสไตล์ Waterfall ซึ่งเป็นดีไซน์ซิกเนเจอร์ของโรลส์-รอยซ์ และการจารึกเนื้อเพลงและคำพูดของศิลปินในรูปแบบตัวเขียนที่สวยงามบนแผ่นทองแดงประดับด้านในประตูที่เรียกว่า Door Flight การตกแต่งองค์ประกอบเหล่านี้ สื่อให้เห็นถึงความล้ำค่าทางดนตรีของเหล่าศิลปินระดับตำนานแห่งอังกฤษได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

โดยรถยนต์ที่เปิดตัวในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Wraith ‘Inspired by Music’ Bespoke Collection ซึ่งเป็นยานยนต์ซีรี่ส์ใหม่ที่สร้างสรรค์เพื่อการเฉลิมฉลองที่แบรนด์ โรลส์-รอยซ์ อยู่คู่วงการดนตรีมาอย่างยาวนาน รถยนต์แต่ละคันถูกรังสรรค์ขึ้นจากฝีมือช่างระดับมาสเตอร์ของโรลส์-รอยซ์ เพื่อนำเสนอเอกลักษณ์ของศิลปินแต่ละคน โดยมีการสลักชื่อศิลปินลงบนแผ่นตกแต่งขอบประตูและบนฐานของสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy ที่ประดับอยู่บนกระโปรงรถยนต์ Wraith อีกด้วย

อีกหนึ่งรูปแบบการตกแต่งสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะ คือการทำสีตัวรถภายนอกแบบ “Lyrical Copper” ที่มอบความสวยงามมากเป็นพิเศษและเติมเต็มความหรูหราด้วยการประดับสัญลักษณ์ธงสหภาพบนเสาหลังคาด้านท้ายของตัวรถ (C-pillar) เพื่อสื่อให้เห็นถึงการฉลองความสำเร็จของวัฒนธรรมดนตรีอันน่าภาคภูมิของราชอาณาจักรอย่างชัดเจน

ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด กล่าวว่า “เสน่ห์อันน่าหลงใหลผ่านกาลเวลาของรถยนต์โรลส์-รอยซ์ เป็นที่ยอมรับในหมู่ศิลปินชื่อดังระดับโลกมาเป็นระยะเวลานาน หลายคนนิยมใช้รถโรลส์-รอยซ์เพื่อประกาศความสำเร็จ ผ่านภาพลักษณ์ที่หรูหราที่ผสานกับแบบฉบับของยานยนต์ดั้งเดิมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างกลมกลืน การร่วมมือกับศิลปินชื่อดังระดับตำนานของอังกฤษในครั้งนี้ เพื่อสร้างอีกหนึ่งตำนานแห่งวงการยานยนต์ ด้วยคอลเล็กชั่นรถยนต์รุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นเพื่อกิจกรรมการกุศลโดยเฉพาะ”

โรลส์-รอยซ์ ซีรี่ส์ Wraith ‘Inspired by British Music’

โรลส์-รอยซ์ ได้รับการยกย่องให้เป็นรถยนต์แห่งความหรูหราที่แท้จริง ซึ่งมีพื้นฐานจากการยึดมั่นในแนวคิดที่ว่า บุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ล้วนปรารถนาความเป็นเลิศแห่งยานยนต์ การสร้างสรรค์รถยนต์รุ่นพิเศษนี้จึงเกิดจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างเหล่าศิลปินกับนักออกแบบรถยนต์ โดยศิลปินได้รับคำเชิญให้เดินทางมาเยือนที่ศูนย์การดำเนินงานของโรลส์-รอยซ์ เพื่อเติมเต็มความเข้าใจในการสร้างสรรค์ยานยนต์แห่งความสำเร็จรุ่นนี้ ให้สมบูรณ์แบบที่สุด 

แมทธิว ดันตัน นักออกแบบรถยนต์สั่งผลิต ภายใต้การนำของ จิลส์ เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายนักออกแบบ  ได้ทำงานร่วมกับเหล่าศิลปินเพื่อดึงเอกลักษณ์และองค์ประกอบมาจากผลงานของเขาเหล่านั้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ปรากฏคืองานออกแบบรถยนต์ที่สวยงามเพียงหนึ่งเดียวสำหรับนักสะสมรถยนต์ระดับหรูตัวจริง 

จิลส์ เทย์เลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายนักออกแบบ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส เปิดเผยว่า “ศิลปินที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกับทีมนักออกแบบและทีมช่างฝีมือรถยนต์รุ่นสั่งผลิตอย่าใกล้ชิด เพื่อมอบชีวิตให้กับงานที่พวกเขาหลงใหลในครั้งนี้ ผลงานระดับมาสเตอร์พีซเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างศิลปิน บุคคลที่มีชื่อเสียง และช่างฝีมือ ซึ่งเป็นแนวทางการผลิตรถยนต์รุ่นพิเศษนี้ และช่วยตอกย้ำสถานะของ โรลส์-รอยซ์ ในฐานะยานยนต์แห่งความหรูหราระดับโลก” 

การทำงานร่วมกับศิลปินแต่ละคนมีจุดประสงค์เพื่อการนำเสนอยานยนต์ในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายของโรลส์-รอยซ์ ในยุโรปจะทำการเชิญเหล่านักสะสมรถยนต์ระดับสูงที่ต้องการครอบครองรถยนต์รุ่นพิเศษเหล่านี้และร่วมสั่นสะเทือนประวัติศาสตร์แห่งวงการรถยนต์ไปด้วยกัน รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายรุ่น Wraith ‘Inspired by Music’ Bespoke Collection จะนำไปบริจาคแก่องค์กรช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในวัยรุ่น และองค์กรการกุศลอื่นๆ ที่คัดเลือกโดยศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน

รายละเอียดรถยนต์รุ่นต่างๆ

โรเจอร์ ดัลตรีย์ ซีบีอี – เฉลิมฉลองแด่วง The Who   

โรเจอร์ ดัลตรีย์ ซีบีอี นักร้องนำแห่งวง The Who รับหน้าที่สร้างสรรค์รถยนต์ 2 คันในโครงการนี้ โดยคันแรกมีแรงบันดาลใจจากมรดกทางดนตรีส่วนตัวของเขาเอง นำเสนอสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ของวง The Who ผ่านองค์ประกอบของงานดีไซน์ อาทิ โลโก้รูปเป้ายิงอันโด่งดังของวงที่นำมาประดับบนนาฬิกาของแผงหน้าปัดและการปักลายลงบนแผ่นหนังสไตล์ Waterfall ระหว่างเบาะหลัง  ส่วนแผ่นทองแดง Door Flight ทั้งสองด้านจารึกด้วยเนื้อเพลงจากซิงเกิ้ล “Join Together” อันโด่งดังในปี 1972 และเพลง “I Can See for Miles” จากอัลบั้ม The Who Sell Out ในปี 1967 

ส่วนพนักพิงศีรษะสลักลายเซ็นของดัลตรีย์ และพนักพิงในตำแหน่งคนขับยังมีลวดลายที่แสดงถึงนิสัยการทุบทำลายเครื่องดนตรีหลังจบการแสดงของวงอีกด้วย อีกหนึ่งความทรงจำอันน่าประทับใจของดัลตรีย์ที่ถูกสอดแทรกลงในการตกแต่ง คือการปักรูปดอกไม้ไฟปะทุเพื่อสื่อถึงชุดกลอง Pictures of Lily ของมือกลอง คีธ มูน ที่แตกทะลุหลังจบการแสดงในรายการ The Smothers Brothers Comedy Hour ที่สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสของอเมริกาในปี 1967

Tommy (1969)

รถยนต์คันที่ 2 ซึ่งโรเจอร์ ดัลตรีย์ ซีบีอี ร่วมสร้างสรรค์ให้แก่โรลส์-รอยซ์ เกิดจากการทำงานกับ ไมค์ แม็คอินเนอร์นีย์ ศิลปินที่รับผิดชอบอาร์ตเวิร์กของปกอัลบั้ม Tommy ของวง The Who ในปี 1969 โดยแม็คอินเนอร์นีย์ต้องร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านสีรถของโรลส์-รอยซ์ ในการสร้างสรรค์ลวดลายปลอกหุ้มของอัลบั้มสไตล์ร็อกโอเปร่าอันโด่งดัง โดยนำอาร์ตเวิร์กดังกล่าวมาทำสีในส่วนฝากระโปรงรถซึ่งทำให้รถยนต์มีความโดดเด่นสะดุดตาอย่างมาก ด้วยพื้นผิวสีทองแดงแบบ Lyrical Copper และเส้นขอบสีฟ้า บวกกับลายนกบินบนด้านข้างของตัวรถ ทำให้ยานยนต์สื่อถึงปกอัลบั้ม Tommy ได้อย่างสวยงาม

พนักพิงศีรษะของแต่ละเบาะได้รับการปักลวดลายที่แตกต่างกันตามอาร์ตเวิร์กของอัลบั้ม สำหรับลวดลาย Pinball Wizard ถูกนำมาถ่ายทอดลงในส่วนของแผ่นหนังบุระหว่างเบาะหลังในสไตล์ Waterfall ให้ดูเหมือนแท่นเครื่องเล่นพินบอล โดยลูกพินบอลและคานดีดใช้แผ่นหนังโทนสีเดียวแต่เล่นเฉดให้มีความอ่อนเข้มแตกต่างกันอย่างสวยงาม ส่วนแผ่นทองแดง Door Flight ทั้งสองด้านจารึกด้วยเนื้อเพลง “Tommy Can You Hear Me” และ “Listening to You / See Me” ทำให้รถยนต์คันนี้ถือเป็นไอเท็มห้ามพลาดสำหรับนักสะสม โดยจะเปิดจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ เพื่อนำเงินบริจาคมอบแก่องค์กรช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในวัยรุ่น ซึ่ง โรเจอร์ ดัลตรีย์ ซีบีอี เป็นผู้อุปถัมภ์

โรเจอร์ ดัลตรีย์ ซีบีอี กล่าวว่า “นับเป็นการทำงานร่วมกันที่สนุกสนานอย่างมากกับโรลส์-รอยซ์ ในการสร้างสรรค์รถยนต์ซึ่งนำเสนอเอกลักษณ์ของวง The Who ได้อย่างงดงาม สำหรับรถยนต์ Tommy นั้นถือเป็นผลงานศิลปะอย่างแท้จริง แม็คอินเนอร์นีย์และนักออกแบบของโรลส์-รอยซ์ ทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก ในการถ่ายทอดธีมและอาร์ตเวิร์กของอัลบั้มได้อย่างมีชีวิตชีวา รถยนต์ทั้งสองคันนี้จะช่วยระดมทุนและสร้างการตระหนักรู้ต่อองค์กรช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในวัยรุ่น และถือเป็นผลงานชิ้นเอกสำหรับนักสะสมที่ชื่นชอบวง The Who”

เซอร์ เรย์ เดวีส์ – The Kinks

เซอร์ เรย์ เดวีส์ รับหน้าที่สร้างสรรค์รถยนต์เพื่อการเฉลิมฉลองแด่วง The Kinks หนึ่งในวงดนตรีร็อกที่ทรงอิทธิพลสูงสุดตลอดกาลของอังกฤษ โดยเซอร์ เรย์ นำแรงบันดาลใจมาจากผลงานส่วนตัวและวงดนตรี โดยคัดเลือกเนื้อเพลงจากเพลง “Shangri-la” และ “Drivin” ในอัลบั้ม Arthur (Or the Decline and Fall of the British Empire) ของวง The Kinks ในปี 1969 เพื่อนำมาตกแต่งในส่วนแผ่นทองแดง Door Flight ให้สื่อถึงเอกลักษณ์ของยานยนต์ โดยนักออกแบบและทีมช่างของโรลส์-รอยซ์ นำลายมือของเซอร์ เรย์ มาแปลงเป็นลายดิจิทัลเพื่อใช้ในการตกแต่งครั้งนี้ 

แผ่นหนังสไตล์ Waterfall ระหว่างเบาะหลังได้รับการปักลายโลโก้ของวงอย่างสวยงาม พร้อมตกแต่งพนักพิงศีรษะด้วยลายเซ็นของเซอร์ เรย์ และเพื่อให้รถยนต์รุ่น ‘Inspired by British Music’ มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เซอร์ เรย์ ยังนำแรงบันดาลใจมาตกแต่งบนร่มทั้งสองคันที่สอดเก็บไว้ในช่องประตูของรถยนต์ Wraith โดยร่มแต่ละคันจะจารึกเนื้อเพลงท่อนหนึ่งจากเพลง “Sunny afternoon” ว่า “When it’s raining on a sunny afternoon, in the summer time” ในสัดส่วนที่เหมาะสมสวยงาม

เซอร์ เรย์ เดวีส์ กล่าวว่า “การทำงานร่วมกับนักออกแบบโรลส์-รอยซ์ในการสร้างสรรค์รถยนต์คันนี้ ได้มอบโอกาสแก่ผมในการนำเสนอแนวเพลงที่วง The Kinks ใช้มอบความสุขแก่แฟนๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์มีองค์ประกอบมากมายและเราใช้สิ่งเหล่านั้นมานำเสนอเอกลักษณ์ของวง The Kinks ของเรา การสร้างสรรค์ยานยนต์สำหรับนักสะสมระดับสูงครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานมาก และนับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่าจะสามารถสร้างประโยชน์แก่การกุศลได้อย่างมหาศาล”

บรรณาการแด่ เซอร์ จอร์จ มาร์ติน – ‘The Fifth Beatle’

ไจล์ส มาร์ติน ผู้ผลิตและนักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก ได้รังสรรค์บรรณาการแด่บิดาของเขา เซอร์ จอร์จ มาร์ติน นักประพันธ์เพลงและผู้อำนวยการเพลงชื่อดังที่ เซอร์ จอห์น แม็คคาร์ทนีย์ ขนานนามว่า “The Fifth Beatle (เต่าทองตัวที่ 5)” โดยรถยนต์คันนี้จะฉลองความสำเร็จของซิงเกิ้ลที่ขึ้นสู่อันดับหนึ่งทั้ง 30 เพลงของเซอร์จอร์จ ผ่านการจารึกชื่อเพลงทั้งหมดลงบนแผ่นหนังสไตล์ Waterfall ระหว่างเบาะหลัง และปักชื่อผู้อำนวยการผลิตบนพนักพิงศีรษะของเบาะนั่ง และเพื่อการแสดงตัวตนที่ชัดเจนในโลกแห่งดนตรีของ เซอร์ จอร์จ มาร์ติน ส่วนแผ่นทองแดง Door Flight ทั้งสองด้านจะจารึกคำพูดของเขาที่ว่า “The recording is not what one hears, but what one must make others hear” และคำพูดอื่นๆ โดยเป็นตัวเขียนต้นฉบับเมื่อครั้งจัดทำให้กับเพลง “Yesterday” ของ The Beatles

ไจล์ส มาร์ติน กล่าวว่า “บิดาของผมมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการเพลงอังกฤษตลอดช่วงชีวิตการทำงาน และผมต้องการให้รถยนต์ Wraith เป็นการฉลองชีวิตที่ประสบความสำเร็จของท่าน นับเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่างมากที่ได้ทำงานร่วมกับทีมงานของโรลส์-รอยซ์ในการนำเสนอซิงเกิ้ลที่ขึ้นสู่อันดับหนึ่งทั้ง 30 เพลงของท่าน ซึ่งผมหวังว่านี่จะเป็นบรรณาการที่ดีเยี่ยมแก่บุคคลผู้ทรงอิทธิพล และทำให้ทั้งโลกได้สัมผัสกับยุคทองแห่งวงการเพลงอังกฤษ” 

องค์กรการกุศลผู้รับประโยชน์ – เดอะ ฟลาย เนวี เฮอริเทจ ทรัสต์ (The Fly Navy Heritage Trust)

เซอร์ จอร์จ มาร์ติน ซีบีอี ให้การสนับสนุนองค์กรการกุศลหลายแห่ง หากองค์กรอันดับหนึ่งในใจของเขาคือ เดอะ ฟลาย เนวี เฮอริเทจ ทรัสต์ ซึ่งจะเป็นองค์กรที่ได้รับเงินบริจาคจากการจำหน่ายรถยนต์โรลส์-รอยซ์ รุ่น Wraith ของ เซอร์ จอร์จ มาร์ติน

 เดอะ ฟลาย เนวี เฮอริเทจ ทรัสต์ ภายใต้แบรนด์ เนวี วิงส์ (Navy Wings) ต้องอาศัยเงินบริจาคจากประชาชนในการทำงานด้านการซ่อมแซม บำรุงรักษา และนำเครื่องบินหายากรุ่นประวัติศาสตร์ของกองทัพเรือขึ้นทำการบิน เพื่อเป็นการอนุรักษ์มรดกด้านการบินของกองทัพเรือแห่งราชอาณาจักรให้คงอยู่สืบไป

การร่วมมือสร้างสรรค์ยานยนต์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต…

ดาม เชอร์ลีย์ บาสซีย์

ดาม เชอร์ลีย์ บาสซีย์ คืออีกหนึ่งบุคคลสำคัญของวงการดนตรีอังกฤษในฐานะนักร้องที่ได้รับความนิยมสูงสดตลอดกาล การสร้างสรรค์รถยนต์รุ่น Wraith ‘Inspired by British Music’ ครั้งนี้จึงถือเป็นการฉลองความสำเร็จในชีวิตการทำงานอันรุ่งโรจน์ของเธอด้วยผลงานเพลงกว่า 37 อัลบั้ม มีเพลงฮิตติดชาร์ต Top 10 ของอังกฤษรวมนานกว่า 79 สัปดาห์ รวมถึงการขับร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ระดับโลก เจมส์ บอนด์ 007 ถึง 3 เพลง ซึ่ง ดาม เชอร์ลีย์ บาสซีย์ จะใช้รถยนต์โรลส์-รอยซ์รุ่น Wraith ของเธอ ในการชุบชีวิตความทรงจำที่เธอรักมากที่สุดในชีวิตการทำงานท่ามกลางแสงสปอตไลท์กว่า 6 ทศวรรษของเธอ 

แผ่นทองแดง Door flight แต่ละด้านจารึกด้วยเนื้อเพลงจากเพลง “I Am What I Am” ปี 1984 และ “Big Spender” ปี 1967 ซึ่งเพลง “Big Spender” นี้ได้กลายเป็นเพลงประจำตัวของ ดาม เชอร์ลีย์ จวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ ในส่วนพนักพิงศีรษะยังได้รับการออกแบบลวดลายที่นำแรงบันดาลใจมาจากปกอัลบั้ม Get The Party Started ที่เป็นงานอาร์ตเวิร์กแบบภาพเงาดำ (silhouette design) ในปี 2007 และในส่วนแผ่นหนังสไตล์ Waterfall ระหว่างเบาะหลัง จารึกด้วยบทเพลงจากภาพยนตร์สายลับ 007 ทั้ง 3 เพลงของเธอ คือ “Diamonds are Forever”, “Moonraker” และ “Goldfinger” พร้อมประดับด้วยเพชรน้ำงาม และเติมความล้ำค่าให้แก่แผ่นแต่งขอบประตูและสัญลักษณ์ Spirit of Ecstasy ด้วยงานเคลือบผิวทองคำ

สัมผัสแห่งความท้าทายกับรถยนต์ Status Quo

ด้วยการร่วมงานกับ ฟรานซิส รอสซี โอบีอี นักร้องและนักกีตาร์มือฉมังแห่งวง Status Quo ก่อเกิดเป็นสุดยอดยานยนต์ Wraith รุ่น Status Quo เพื่อการเฉลิมฉลอง 5 ทศวรรษแห่งงานดนตรีของวงร็อคระดับตำนานแห่งอังกฤษ โดย รอสซี โอบีอี ได้เติมชีวิตชีวาให้กับงานออกแบบชิ้นเอกที่ได้แรงบันดาลใจจากกีตาร์เฟนเดอร์ เทเลแคสเตอร์ โทนสีเขียว-ขาว ซึ่งเขาเป็นผู้ทำสีด้วยตนเองและยังใช้งานตราบจนทุกวันนี้ และกีตาร์เทเลแคสเตอร์โทนสีขาว-ดำของ ริก พาร์ฟิตต์ สหายผู้ล่วงลับและสมาชิกของวง โดยการปักลวดลายลงบนพนักพิงศีรษะเพื่อโชว์ลวดลายของกีตาร์แต่ละชิ้นให้เห็นอย่างชัดเจน สำหรับการตกแต่งแผ่นหนังสไตล์ Waterfall ของเบาะหลัง ได้รับแรงบันดาลใจจากงานอาร์ตเวิร์กของปกอัลบั้ม Hello ในปี 1973 ซึ่งเป็นภาพเงาดำของ 4 ศิลปินระดับตำนานแห่งวง Status Quo ซึ่งได้ถูกนำมาถ่ายทอดผ่านงานปักอันประณีตบนแผ่นหนังแท้ ส่วนแผ่นทองแดง Door Flight ด้านในประตูทั้งสองด้าน จารึกไว้ด้วยเนื้อเพลงจากเพลง “Caroline” และ “Don’t Drive My Car” 

“ผมรู้สึกยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการนี้ ซึ่งถือเป็นการรวบรวมมิตรสหายในวงการเพลงอังกฤษให้กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับวง Status Quo ของเรานั้นเคยเปิดการแสดงมาแล้วทั่วโลก ได้พบปะและทำงานร่วมกับผู้คนที่น่าอัศจรรย์มากมาย ซึ่งเราได้สร้างตำนานของเราเองไปพร้อมๆ กัน ส่วนแบรนด์โรลส์-รอยซ์นั้น ถือเป็นธงชัยแห่งความคิดสร้างสรรค์ของประเทศอังกฤษและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ผมตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับนักออกแบบของโรลส์-รอยซ์ เพื่อการสร้างสรรค์รถยนต์ Status Quo แห่งตำนานเพลงของเรา และเพื่ออุทิศแด่ ริก พาร์ฟิตต์ ผู้หลงใหลในรถยนต์ระดับหรูมาตลอดชีวิตของเขา” 

รอนนี วูด – “I Feel Like Playing”

รอนนี วูด อีกหนึ่งตำนานที่โด่งดังจากการเป็นสมาชิกวง The Rolling Stones และ Faces เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้สร้างสรรค์รถยนต์ Wraith ‘Inspired by British Music’ เพื่อฉลองความสำเร็จในฐานะนักดนตรีเดี่ยว โดยมีการปักลายเซ็นของวูดบนพนักพิงศีรษะ และจารึกเนื้อเพลงจากเพลง “I Gotta See” ซึ่งนำมาจากอัลบั้มเดี่ยวชุดที่ 7 ของเขา I Feel Like Playing ในปี 2010 ลงบนแผ่นทองแดง Door Flight  โดยรอนนีเป็นผู้สร้างงานอาร์ตเวิร์กของอัลบั้มนี้ด้วยตนเอง และเขาได้นำมาใช้เป็นลายปักสำหรับการตกแต่งแผ่นหนังสไตล์ Waterfall ของเบาะหลังในรถยนต์รุ่น I Feel Like Playing นี้