10 ทริกลดน้ำหนักแบบ IF ให้เห็นผลไว Fasting ยังไงให้ผอมลง

ลดน้ำหนักด้วย Intermittent Fasting มาสักพัก แต่เหมือนน้ำหนักยังไม่ลดเท่าไร งั้นมาดูทริกลดน้ำหนักแบบ IF ยังไงให้เห็นผลไวกันเถอะ

สำหรับใครที่เลือกลดน้ำหนักด้วยการ fasting หรือการทำ IF ไม่ว่าจะสูตร 8/16 หรือสูตรที่หินกว่านั้น แต่รู้สึกว่าแค่งดอาหารตามหลักสูตรแล้วอาจไม่พอให้ลดความอ้วนได้ไว ๆ อย่างที่อยากให้เป็น งั้นลองมาเช็กเคล็ดลับการ Fasting ที่น่าจะช่วยให้การลดน้ำหนักของคุณไปถึงเป้าหมายเร็วขึ้นกันไหม มาดูซิว่าควรต้องทำอะไรเพิ่มบ้าง

1. ดื่มน้ำให้มากขึ้น

โดยเฉพาะหลังตื่นนอน ซึ่งร่างกายจะรู้สึกกระหายน้ำมาก ดังนั้น ตื่นนอนแล้วพยายามดื่มน้ำแก้วใหญ่ให้หมดแก้ว ซึ่งนอกจากจะช่วยดับกระหาย คลายความรู้สึกหิว เพิ่มความสดชื่นแล้ว การดื่มน้ำหลังตื่นนอนยังดีต่อลำไส้ ช่วยในการขับถ่ายและมีประโยชน์ด้านสุขภาพอื่น ๆ อีกเยอะเลย

2. ใช้กาแฟ ชาสมุนไพร เป็นตัวช่วย

นอกจากน้ำเปล่าแล้ว การทำ IF ยังสามารถดื่มเครื่องดื่มปราศจากแคลอรี เช่น กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล ชาสมุนไพร น้ำเปล่าผสมมะนาว น้ำเปล่าผสมมินต์ หรือโซดาเพียว ๆ ก็ได้ น้ำที่มีรสชาติเหล่านี้จะช่วยดับความอยากอาหารของเราได้ชั่วขณะหนึ่ง ส่วนคาเฟอีนจากกาแฟดำ หรือชาสมุนไพร ยังช่วยกระตุ้นความตื่นตัวของร่างกาย บูสต์การทำงานของระบบเผาผลาญได้อีกด้วยนะ

3. ทำตัวให้ชินกับความหิว

 

การอดอาหารไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายคุ้นชิน ดังนั้นเมื่อปล่อยให้ตัวเองหิว หลายคนอาจจะรู้สึกไม่ดีเท่าไร จนอาจละทิ้งความตั้งใจ และหลุด Fasting ได้ ซึ่งหากปล่อยให้เป็นอย่างนั้น แน่นอนว่าทำ IF ยังไงก็คงลดน้ำหนักไม่ค่อยเห็นผล เอาเป็นว่าอย่าหลุดเป้าประสงค์ของการทำ IF ก็แล้วกัน และพยายามทำตัวให้ชินกับความหิวไว้ คิดในใจว่าการที่เราหิวจะยิ่งทำให้ร่างกายดึงไขมันสะสมออกมาใช้เป็นพลังงาน และนี่แหละหนทางของการลดความอ้วนแบบ IF !

4. โหลดแอปพลิเคชัน สำหรับ Fasting มาใช้

มีแอปฯ หลายตัวสำหรับการทำ Fasting ให้เลือกโหลด ไม่ว่าจะเป็น Zero หรือ LIFE fasting ที่จะช่วยควบคุมเวลา Fasting ของเราให้เป๊ะขึ้น นอกจากนี้ การทำงานของแอปพลิเคชันยังจะบอกช่วงที่ร่างกายเริ่มดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงานด้วยนะ ถือว่าเหมาะมากกับคนที่ทำ IF ไปสักพักแล้วรู้สึกท้อกับความหิว กดดูแอปฯ สักนิดจะได้รู้สึกฮึกเหิมในการทำ IF ต่อไป

5. เริ่ม IF หลังมื้อเย็น

ช่วงเวลาในการเลือก Fasting ถือว่าสำคัญมาก ๆ เพราะหากเราเลือกอดอาหารในช่วงที่ร่างกายพักผ่อน ก็จะจัดการกับความรู้สึกหิวได้ดีขึ้น และส่วนใหญ่การทำ IF แบบนี้ก็จะมีเปอร์เซ็นต์สำเร็จมากขึ้นด้วย แต่ว่าหากไลฟ์สไตล์เป็นคนทำงานกลางคืน นอนกลางวัน ก็แนะนำให้เลือกช่วงเวลา Fasting เป็นตอนกลางวันก่อนที่จะเข้านอนแทนนะ

6. เลือกกินอาหารดี ๆ คุมแคลให้มั่น

เน้นกินโปรตีนดี ไขมันดี ผักใบเขียว และน้ำเปล่าให้เยอะ ๆ เลี่ยงคาร์บและน้ำตาลให้ได้มากที่สุด ยิ่งเราคุมอาหารดีเท่าไร การทำ IF ก็จะเห็นผลไวเท่านั้นเลย

– ลดน้ำหนักแบบ IF ควรกินยังไง เลี่ยงอะไรให้ผอมเร็ว

– 10 อาหารโปรตีนสูงที่ควรกินช่วงลดน้ำหนัก คุณค่าระดับท็อปของคนอยากผอม

7. ขยับตัวเยอะ ๆ

ถ้าไม่อยากออกกำลังกายเพราะกลัวว่าจะไม่ไหว เราสามารถเพิ่ม Activity ระหว่างวันได้นะ โดยการเดินให้เยอะเข้าไว้ ลุกบ่อย ๆ หรือหากอยู่บ้านก็ทำงานบ้าน จัดสวน เล่นกับสัตว์เลี้ยง ทำยังไงก็ได้ให้ร่างกายได้ขยับ จะช่วยเบิร์นไขมันสะสมได้อีกทาง

8. ออกกำลังกายก่อนกินอาหารมื้อแรก

การคุมอาหารร่วมกับการออกกำลังกาย จะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ผลเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างการ IF ก็เช่นกัน หากเราสามารถออกกำลังกายก่อนกินมื้อแรกได้ ก็จะช่วยให้ร่างกายดึงไขมันสะสมมาใช้ได้มากขึ้น ทำให้ผอมเร็วขึ้นนั่นเอง

– 10 คลิปท่าออกกำลังกายตอนเช้า 5 นาทีเบา ๆ ทำทุกวันก็ผอมได้

– 7 วัน 7 ท่า ออกกำลังกายตอนเช้าง่าย ๆ บนเตียง !

– 9 คลิปออกกำลังกายตอนเช้าไม่เกิน 15 นาที ตื่นมาเบิร์นไขมันเพื่อหุ่นที่ดีกันเถอะ !

9. เวตเทรนนิ่งสักหน่อย ป้องกันกล้ามเนื้อหาย !

นอกจากการออกกำลังก่อนอาหารมื้อแรกแล้ว หลังอาหารมื้อสุดท้ายของวันก็อยากให้แบ่งพลังมาเวตกันสักหน่อย เพื่อป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อจากการลดน้ำหนัก และแน่นอนค่ะว่า การเวตก็ช่วยให้ร่างกายได้เบิร์นเพิ่มขึ้น ยิ่งถ้ามีวินัย คุมอาหารดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็จะลดน้ำหนักได้เร็วกว่าเดิมไปอีก

– ท่าเล่นเวต 5 วัน สาว ๆ ทำประจำกระชับทั้งตัว

– 9 ท่าออกกำลังกายด้วยดัมเบล โปรแกรมเดียวช่วยฟิต & เฟิร์ม

10. เพิ่มความเข้มข้นในการ Fasting

หาก IF ไปสักพักแล้วน้ำหนักไม่ลง ยังตันอยู่เท่าเดิม ไม่ว่าจะออกกำลังกายเพิ่ม หรือคุมอาหารเพิ่มเท่าไรก็ไม่เห็นผล ลองขยับเวลา Fasting ให้ยาวขึ้น เช่น จากสูตร 8/16 ก็ขยับเป็น 5/19 เป็นต้น

– ส่องสูตรลดน้ำหนัก IF ได้ผลจริงไหม ต้องทำยังไงบ้าง

 

ขอบคุณภาพและข้อมูล : www.kapook.com