รีวิว : All-New HONDA Jazz ” ทดลองขับ ออล นิว ฮอนด้า แจ๊ซ ” เส้นทางเบาๆ พัทยา – ระยอง อ้อมนิด อ้อมหน่อย รวม 142 กม.

โพสต์เมื่อ 19th มิถุนายน 2014 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

ทุกๆ ครั้งที่ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ขยับตัวเปิดโมเดลรถรุ่นใหม่ๆ มักจะเป็นที่จับตาของสื่อมวลชนทุกๆ สำนัก เพราะช่วงหลังทางฮอนด้าจัดเต็มมากๆ ในเรื่องของออฟชั่นที่ใส่เพิ่มมาให้ และคราวนี้ก็ถึงเวลา All-New HONDA Jazz ( ออล นิว ฮอนด้า แจ๊ซ )ที่เป็นตัวขายของค่าย ผมเชื่อว่าต้อง “ดีกว่าเดิมแน่ๆ” แต่นั่นเป็นเพียงความเชื่อส่วนตัวของผม เพื่อเป็นการตอกย้ำสมรรถนะของรถแบบชัดๆ ทางฮอนด้าจึงจัดการทดสอบในเส้นทางเบาๆ พัทยา – ระยอง อ้อมนิด อ้อมหน่อย รวม 142 กม.

 

All-New HONDA Jazz

สร้างชื่อเสียงมานานตั้งแต่ปี 2001สำหรับ Jazz นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มี HONDA Jazz Generations 1-2 วิ่งอยู่บนโลกนี้มากถึง 5.2 ล้านคัน ณ ปัจจุบัน HONDA jazz Generations 3 ในเมืองไทยเปิดตัวมา 20 กว่าวัน มียอดจองมากกว่า 3,000 คัน ซึ่งถือว่าสวนกระแสเศรษฐกิจช่วงเวลานี้มากๆ ทำให้ผมรู้สึกว่าสาวกของคนรัก Jazz มีมากจริงๆ ยิ่ง All-New HONDA jazz ” ออล นิว ฮอนด้า แจ๊ซ ” ชูความโดดเด่น 4 ด้าน ได้แก่ Advanced Multi-Function, Advanced Multi-Drive, Advanced Multi-Safety และ Advanced Multi-Utility จึงทำให้ความน่าสนใจของรถคันนี้มีมากขึ้นครับ

ดีไซน์ภายนอก

ครั้งแรกที่ผมเห็น All-New HONDA jazz “ออล นิว ฮอนด้า แจ๊ส” โดยเฉพาะสีเหลืองที่โดนใจผมสุดๆ การออกแบบรถคันนี้อยู่ภายใต้แนวคิด “Exciting H” หรือ การนำนวัตกรรมที่ทันสมัยใช้งานง่าย พลังขับเคลื่อนชั้นเลิศ และการตอบสนองที่ดีในทุกสัมผัส มาผสมรวมกันออกมาในทุกอณูของตัวรถ ก่อนจะออกไปทดสอบสมรรถนะ ขอผมเดินชมความงามไปพรางๆ ก่อนล่ะกันครับ การดีไซน์ภายนอกของ Jazz ถือเป็นความโดดเด่นกว่าทุกรุ่นที่ออกมาจำหน่าย ยิ่งเป็น Generations 3 นี้ด้วยแล้วมีการขยับเส้นสาย ร่องทางเดินของอากาศ ให้มีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิมมาก ความทันสมัยในการดีไซน์ถูกบรรจงใส่ลงไปตั้งแต่กันชนหน้า ไฟหน้าหน้ามัลติรีเฟล็กเตอร์ กระจังหน้าดำตัดโครเมียมเรียงไปหาเส้นสายข้างตัวรถที่มีดีไซน์แปลกตา เน้นมิติหนาบาง ร่องทางเดินของอากาศ และความต่อเนื่องกับไฟท้ายแบบ LED ที่มีการออกแบบกลมกลืนกับกระจกบานหลัง สิ่งที่ผมสนใจในการดีไซน์ครั้งนี้ของ All-New HONDA jazz “ออล นิว ฮอนด้า แจ๊ส” คงเป็นเรื่องความกล้าในการออกแบบแต่ละเส้นที่พาดผ่านข้างตัวรถ ให้ทั้งความรู้สึกเร้าใจ และหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดี แถมยังนำสมัยด้วยการใช้สีกระจกมองข้างแบบทูโทน พร้อมไฟเลี้ยวในตัว แม้เป็นจุดเล็กๆ แต่สำหรับผมถือว่าฮอนด้าเป็นผู้นำเทรนด์ตัวจริง

ระบบเครื่องเสียง

พอได้เวลาออกไปขับผมไล่ดูจุดเด่นแต่ละจุด เอาจุดแรกก่อน “Advanced Multi-Function” สิ่งแรกที่คุณเห็นได้เด่นชัดเวลาคุณนั่งลงที่เบาะคงเป็นระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่าน HDMI รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri Eyes Free Mode (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) รองรับการเชื่อมต่อ HondaLink Application (เฉพาะ Smart Phone บางรุ่น) ผมอยากให้คุณๆ ไปสัมผัสจอนี้ที่โชว์รูมจริงๆ เพราะจอติดรถมาไม่มีรุ่นไหนให้การสัมผัสที่ดีเท่าจอนี้ครับ การตอบสนองฉับไว แค่แตะเบาๆก็สั่งงานได้แล้ว ไม่ใช่แบบจิ้มแล้วจิ้มอีกจนเจ็บนิ้ว นอกจากนั้นก็เป็นออฟชั่นทั่วไปอย่างจอแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง Eco Coaching ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ ส่วนพวงมาลัยแบบสามก้านมัลติฟังก์ชั่นที่ให้การควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้ว ด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่ม รับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย

เครื่องยนต์

ต่อมา “Advanced Multi-Drive” หัวใจหลักที่จะทำให้ All-New HONDA jazz “ออล นิว ฮอนด้า แจ๊ส “ขับเคลื่อนได้ดีกว่าเดิมคงต้องอาศัยเครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ สามารถควบคุมระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที สามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85 ได้ ซึ่งรถคันที่ผมขับ โชคดีที่เป็นคันเดียวในทริปที่เติมน้ำมัน E85 ในการทดสอบ จากการสัมผัสเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนในเรื่องของอัตราเร่งระหว่าง Gen 3 กับ Gen 2 ในรุ่นใหม่นี้มีอัตราเร่งที่โดดเด่น จากหยุดนิ่ง ถึง 160 กม./ชม. ไหลลื่น ขึ้นเร็วมาก ถือว่าสนุกสนานในการขับขี่มากทีเดียว ซึ่งความโดดเด่นนี้ต้องยกความดีให้ระบบส่งกำลังเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้แนวคิด “Earth Dream Technology” ซึ่งเกียร์ชุดนี้มีการทำงานร่วมกับ G-Design Shift ซึ่งระบบนี้จะควบคุมการทำงานของเกียร์ให้ผสมกับกลไกการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้อ และไฮดรอลิกในการยกวาล์ว ส่งผลให้แรงบิดมาในรอบต่ำ ความต่อเนื่องแต่ละเกียร์ราบเรียบ ที่สำคัญเกียร์ชุดใหม่นี้น้ำหนักเบาลงถึง 16 % และเมื่อผสมประสานกับองค์ประกอบอื่นๆ ของตัวรถจะทำให้อัตราการสิ้นเปลืองอยู่ที่ 16.7 กม./ลิตร (วัดผลจากน้ำมันเบนซิน 95) ซึ่งประหยัดกว่ารุ่นเดิมถึง 12% นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ รวมทั้งปุ่ม Econ Mode เป็นระบบที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถ เพื่อช่วยควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ความปลอดภัย

จุดต่อมา “Advanced Multi-Safety” ความปลอดภัยชั้นสูง ในรถคันนี้จะประกอบด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control (G-CON) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ซึ่งมีอยู่ในทุกรุ่น นอกจากนี้ ยังเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ และเทคโนโลยีความปลอดภัยของรถระดับพรีเมียม อาทิ ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ (i-Side Airbag) พร้อมม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)

Advanced Multi-Utility

จุดท้ายสุด “Advanced Multi-Utility” เสน่ห์ความอเนกประสงค์ขั้นสูงด้วยเบาะนั่งอัลตร้า ซีท ที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 โหมด ได้แก่ Utility Mode สามารถพับเบาะด้านหลังทั้งสองด้าน เพิ่มพื้นที่เก็บของได้มากถึง 906 ลิตร, Long Mode สามารถพับเบาะด้านหน้า-ด้านหลัง เพิ่มพื้นที่เก็บของแนวยาวได้ถึง 2,480 มม., Tall Mode สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้นขยายพื้นที่เก็บของแนวสูงได้ถึง 1,280 มม.และเพิ่มโหมดใหม่ล่าสุด Refresh Mode ที่สามารถพับเบาะด้านหน้าเชื่อมต่อเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายภายในรถ พร้อมที่วางแก้วน้ำมากสุด 9 ตำแหน่ง ที่วางโทรศัพท์มือถือ และกล่องเก็บแท็บเล็ตด้วย

พวงมาลัย

นอกจากนี้เรื่องการควบคุมยังทำได้โดยง่าย เพราะน้ำหนักพวงมาลัยที่ไม่หนักมาก เนื่องจากระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า ESP ถูกปรับขนาดขยายแกนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ปรับอัตราทดพวงมาลัยให้สูงขึ้น ทำให้การตอบสนองในการบังคับเลี้ยวทำได้เฉียบคมมากขึ้น

ส่วนตัวผมแล้ว All-New HONDA jazz “ออล นิว ฮอนด้า แจ๊ส” ให้ความรู้สึกที่ดีตั้งแต่การออกแบบที่กล้านำความทันสมัย นำเทรนด์ มาผสมกับหลักอากาศพลศาสตร์ดีๆ มองแล้วแตกต่างไม่น่าเบื่อ คงเสน่ห์พื้นที่ความจุ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์สำคัญ เพิ่มความอเนกประสงค์ของรูปแบบการพับเบาะให้มีพื้นที่มากกว่าเดิม สุดท้าย คือ สมรรถนะของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่สามารถทำให้คุณรู้สึก WoW!! เกินคาด