สัญญาณไฟเตือน บนหน้าปัด อย่างนี้ หมายความ ว่าไง

สัญญาณไฟเตือน บนหน้าปัด ทางผู้ผลิตรถยนต์ เค้าทำมา เพื่อแจ้งให้ผู้ขับขี่ ทราบถึงข้อมูล การทำงาน และความเป็นไปของตัวรถคันนั้นๆ โดยปกติแล้ว สัญญาณไฟเตือน บนหน้าปัด หลักๆ จะมีอยู่ไม่กี่อย่างที่จำเป็น เช่น ไฟเตือนแบตเตอรี่ ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง ไฟเตือนความผิดปกติของเครื่องยนต์ ไฟเตือนความร้อน ไฟเตือนเบรกมือ นี่คือหลักๆ เบสิคประจำรถที่ส่วนใหญ่ เราจะทราบกันดีอยู่แล้ว

แต่วันนี้ เราจะขอเพิ่มเติม สัญญาณไฟเตือน ที่มากกว่าท่ามาตรฐานติดรถ เพราะในรถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ จะมีไฟเตือนมาก – น้อย นั้น ขึ้นอยู่กับ ราคา ค่าตัวของรถ เพราะถ้าราคาแพงหน่อย มันก็จะไฟโชว์มากหน่อย เพื่อแสดงข้อมูลของอุปกรณ์ที่มีมากกว่านั่นเอง

 

สัญญาณไฟเตือน อะไรบ้าง ที่ควรทราบเพิ่มเติม

1. Parking Brake  :  จริงๆ แล้วไฟเตือนจำพวกเบรกมือ เราทราบกันดีอยู่แล้ว ซึ่งจะมีสัญลักษณ์คล้ายๆ กัน แต่บางคนอาจแปลกใจ ว่าทำไม มันถึงมี P อยู่ตรงกลาง ซึ่งโดยมากแล้ว มันจะเป็น เบรกมือไฟฟ้า ไม่ใช่แบบคันโยก

parking brake

 

ที่ทำงานด้วยกลไกสลิงดึง ความหมายบ่งบอกอยู่แล้วว่า “เบรกเมื่อจอด” เพราะฉะนั้นพูดให้เข้าใจง่ายคือ เบรกมือนั่นเอง

 

2. Power Steering Warning  :  สัญลักษณ์นี้ไม่ใช่ยาสามัญประจำบ้าน ฉะนั้นไม่ได้มีทุกยี่ห้อ เป็นไฟเตือน การทำงานที่ผิดปกติของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (EPS) สัญลักษณ์ รูปพวงมาลัยอาจจะต่างกันบ้างในบางยี่ห้อ

power steering warning

แต่มองแล้วก็คือพวงมาลัย ที่สำคัญคือมีเครื่องหมาย ตกใจ กำกับไว้เพื่อบอกว่า มีบางอย่างผิดปกติ ให้นำไปตรวจเช็กซะนะ

 

3. Stability Control warning  :  ไฟเตือนจำพวกระบบ ควบคุมการทรงตัว ของตัวรถ ซึ่งในรถแทบทุกยี่ห้อ ทุกสัญชาติ จะมีลักษณะคล้ายกันหมด คือรูปรถ และเส้นโค้งๆ ตวัดเป็นตัว เอส 2 เส้น ซึ่งหมายความว่า ถ้ามีไฟเตือน

stability control warning_01

นี้ขึ้น แสดงว่าระบบนี้กำลังทำงานอยู่ เพื่อช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ให้อยู่ในการควบคุมของผู้ขับขี่ เป็นไปได้ว่า ขณะนี้เลี้ยวเร็วจนเกิดการลื่นไถล ระบบนี้จึงเข้ามาช่วย

 

4. Tire Pressure Warning  :  สัญลักษณ์ที่ลักษณ์ป่องสองข้าง ส่วนด้านล่างมีรอยหยัก แทนลักษณะของ ยางรถยนต์ โดยมีเครื่องหมาย ตกใจ กำกับอีกเช่นกัน บ่งบอกว่า ขณะนี้ ตัวรถไม่ได้อยู่ในแนวระนาบ เป็นไปได้ว่า มีล้อ

tire pressure warning

ข้างใดข้างหนึ่ง แบน หรือ ลมยางอ่อน จนเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่า รถเอียง ไม่อยู่ในแนวระนาบ ให้รีบชะลอ หาที่จอดที่ปลอดภัย และลงไปตรวจเช็ก ยาง ทั้ง 4 ล้อดู ว่าแบน หรือแตก หรือไม่

 

5. Brake Pad Warning  :  ไฟเตือนนี้มักมีอยู่ในรถยุโรป หรือไม่ก็รถที่มีค่าตัวสูงหน่อย ซึ่งไฟเตือนลักษณะเป็นวงกลม และมีเส้นประ ประกบอยู่ด้านข้าง ถ้าไฟติดโชว์ขึ้นมา ก็เป็นการเตือนว่า ผ้าเบรก รถคุณบางมากแล้ว ถึง

brake pad warning

เวลาที่ควรจะต้องเปลี่ยนผ้าเบรกชุดใหม่ สะดวกดีนะครับไฟเตือนแบบนี้ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้ใส่มาให้เป็นไฟเตือนสามัญประจำบ้านก็เท่านั้น

 

6. Park Sensor  :  ไฟเตือนนี้หลายคนทราบกันดี แต่ก็มีอีกหลายคนยังงงๆ เอาเป็นว่า มันคือไฟเตือนระยะห่าง

park sensor

ระหว่างรถเรา กับวัตถุที่เข้ามาใกล้รถเรา ขณะรถเราจอดอยู่ ซึ่งไฟเตือนนี้ ส่วนใหญ่จะมีเสียงเตือนร่วมด้วย มีประโยชน์ดีมาก แต่บางคนก็อาจรำคาญเสียงเตือนด้วยเช่นกัน

 

จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายไฟเตือนที่อาจพบเจอได้ โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ๆ สมัยนี้ ที่ยัดระบบต่างๆ มาเพียบ เอาเป็นว่า คราวหน้าเดี๋ยวเรามาต่อภาคต่อไป ในครั้งหน้าก็แล้วกันครับ