MINI Cooper Countryman

โพสต์เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2012 เวลา 5:55 น. หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

MINI Cooper Countryman

ถ้าจะมาพูดถึงรถที่อยู่ในตำนานอย่าง MINI สิ่งแรกที่ผมนึกถึงทุกครั้งคือ ความสนุกในการขับขี่แบบ Go-kart feeling แต่ในปัจจุบันเมื่อ MINI มาอยู่ภายใต้การพัฒนาของ BMW ทำให้เจ้าตัวเล็กนี้มีการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ฉบับนี้ผมเลยพา MINI ในคอนเซ็ปต์รถอเนกประสงค์แบบ Crossover ที่เราเรียกว่า “Countryman” มาให้รู้จักกันครับ

Hybrid Saloon & SAV.

    เมื่อ MINI คิดจะเพิ่มลูกค้าใหม่ในกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่หัวใจรักความสปอร์ต จึงพัฒนาสมาชิกใหม่ในลำดับที่ 4 ของครอบครัวเริ่มตั้งแต่ Hatchback, Clubman และ Convertible โดยขยายศักยภาพเพิ่มความอเนกประสงค์และการบุกตะลุยทางฝุ่นไปพร้อมๆกัน ภายใต้ชื่อรุ่น “MINI Countryman” ในรูปแบบตัวถังแบบ Crossover ที่มีความสูงอยู่ระหว่างรถยนต์แบบซาลูนและรถอเนกประสงค์ SAV “Sports Activity Vehicle” ในขณะที่ ยังคงไว้ซึ่งสัดส่วนและรูปลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นของ MINI ในทุกมุมมอง แต่มันก็ได้ขยายมิติเพิ่มขึ้นในทุกด้านเช่นกัน โดยมีความยาว 4,110 มิลลิเมตร  ความกว้าง 1,789 มิลลิเมตร และความสูง 1,561 มิลลิเมตร

    MINI Countryman ได้รับการสร้างสรรค์ภายใต้นิยาม ‘Urban Mobility + Impressive Flexibility’ ซึ่งมุ่งเน้นการขับขี่ในเมืองอย่างปราดเปรียว เปี่ยมด้วยสไตล์และรสนิยมที่โดดเด่น แต่ก็สามารถ ‘ยืดหยุ่น’ ได้อย่างน่าประทับใจ เพื่อตอบสนองความต้องการ ทั้งในด้านประโยชน์ใช้สอยด้วยคอนเซ็ปต์ตัวถังแบบ 4 ประตู 4 ที่นั่ง พร้อมด้วยฝาท้ายขนาดใหญ่ที่เปิดได้กว้าง อีกทั้งคอนเซ็ปต์ห้องโดยสารที่สามารถปรับให้แปรเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ

การดีไซน์ภายนอกเน้นที่ความโดดเด่น บึกบึนและดุดัน แฝงเสน่ห์แห่งความเป็นมิตรของ MINI ได้อย่างลงตัว นักออกแบบของ MINI ได้คงไว้ซึ่งสัดส่วนที่เป็นเอกลัษณ์ของ MINI ไว้อย่างเต็มรูปแบบทั้ง ฐานล้อยาว โอเวอร์แฮงค์สั้น และแทร็คที่กว้าง พร้อมทั้งรังสรรค์ความสดใสเพิ่มเข้าไป   

การแบ่งระดับตัวถังทำได้อย่างชัดเจนทั้งในส่วนบอดี้ตัวถัง ส่วน Greenhouse ที่เป็นส่วนกระจกของห้องโดยสาร และส่วนหลังคาที่มีแนวทางดีไซน์ที่แปลกใหม่  แต่ที่ทำให้รถคันนี้มีความน่าสนใจมากๆ คือ ส่วนของด้านหน้าที่มีรูปทรงและการจัดวางของไฟหน้าใหม่ได้เพิ่มความสดใสแปลกตา โดยเฉพาะกระจังหน้ารูปทรงหกเหลี่ยมและแนวกระจกหน้าที่ตั้งมากขึ้น สามารถแสดงออกถึงความมั่นคงพร้อมตะลุยไปทุกที่ และแฝงไปด้วยความปลอดภัยสำหรับคนเดินถนนในกรณีอุบัติเหตุ
    

มุมมองด้านท้ายเก็บรายละเอียดเป็นพิเศษจัดเรียงรูปแบบของไฟท้ายใหม่และแนวตัวถังด้านข้างที่โป่งออก ทำให้ได้กลิ่นอายของรถอเนกประสงค์ SAV Sports Activity Vehicle มุมมองโดยรวมของผม MINI คนนี้ “มีเสน่ห์พร้อมความเป็นมิตรน่าคบหาดีครับ” คือน่าตาเค้าน่ารักดี เหมือนเจ้าตัวการ์ตูนกบน้อย “KEROKEROKEROPPI” แค่ยืนมองรถคันนี้ก็ต้องยิ้มกับความเป็นมิตรของเค้าครับ

Center Rail Storage.

   MINI Countryman เน้นคอนเซ็ปต์ความยืดหยุ่นในด้านประโยชน์ใช้สอยความอเนกประสงค์ โดยอาศัยแรงบันดาลใจจาก Austin Seven Countryman ที่ออกแบบโดย Sir Alec Issigonis ซึ่งได้เพิ่มศักยภาพประโยชน์ใช้สอยให้กับมินิได้อย่างปราดเปรื่อง ในขณะนั้น Austin Seven Countryman และ Morris Mini Traveller ซึ่งเป็นรุ่นคู่หูภายใต้แบรนด์การตลาดที่แตกต่าง ได้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในยุคทศวรรษที่ 1960 อีกทั้งยังมีรุ่น ‘Woody’ ที่เป็นเวอร์ชั่นพิเศษ ซึ่งได้รับการตกแต่งด้วยลายไม้ในส่วนของประตูด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในสมัยนั้น และเป็นที่ค้นหาสำหรับนักสะสมในสมัยนี้ และจุดประสงค์ในการขยายขอบเขตความอเนกประสงค์นี้เองจึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น ‘Countryman’

จากแรงบันดาลใจนี้จึงดีไซน์ภายในห้องโดยสารซึ่งผสมผสานเอกลักษณ์ความคลาสสิกเข้ากับดี ไซน์และประโยชน์ใช้สอย โดยเริ่มจากมาตรวัดความเร็วขนาดใหญ่วางอยู่ตรงกลางแดชบอร์ด พร้อมกับแผงประตูรูปวงรีซึ่งมีลายเส้นเชื่อมต่อกันจากประตูบานหน้าสู่ประตูบานหลังได้อย่างกลมกลืน พร้อมกับเบาะนั่งแบบสปอร์ตสำหรับที่นั่งด้านหน้าหุ้มด้วยหนังแท้  ส่วนเรื่องทัศนวิสัยการขับขี่ในมุมมองที่สูงและกว้างทำให้การขับขี่ง่ายขึ้นมาก

ส่วนที่นั่งด้านหลังก็ได้รับการออกแบบให้ ‘ยืดหยุ่น’ เพื่อความอเนกประสงค์อย่างเต็มที่ เบาะนั่งด้านหลังสามารถเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้ถึง 130 มิลลิเมตร อีกทั้งพนักพิงยังสามารถปรับเอนได้ นอกจากนั้นเบาะนั่งด้านหลังสามารถเลื่อนเดินหน้า-ถอยหลังได้แล้วยังช่วยเพิ่มความจุสัมภาระท้ายรถจาก 350 ลิตรเป็น 450 ลิตร และถ้าต้องการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ พนักพิงเบาะที่นั่งด้านหลังยังสามารถพับให้แบนราบ ซึ่งจะเพิ่มความจุสัมภาระเป็น 1,170 ลิตร ได้อย่างสบายๆ
       

ที่สำคัญ MINI Countryman มาพร้อมกับระบบ Center Rail Storage ซึ่งเป็นนวัตกรรมระบบจัดเก็บของภายในรถ ที่ผสมผสานความเท่ห์ในสไตล์มินิเข้ากับประโยชน์ใช้สอยได้อย่างลงตัว โดย Center Rail Storage เป็นระบบรางรูปตัว U ที่มียาวตั้งแต่ส่วนที่นั่งด้านหน้าไปถึงส่วนที่นั่งด้านหลัง ซึ่งผู้ใช้สามารถ ‘Clip-in’ ช่องเก็บของรูปแบบต่างๆ เช่น ถาดเก็บของ, ที่วางโทรศัพท์มือถือ หรือที่วางแก้วน้ำ โดยสามารถล็อคในตำแหน่งต่างๆที่ใช้งานได้สะดวกมือ ในส่วนของภายในผมว่าคันนี้เน้นในเรื่องพื้นที่ใช้สอยและการจัดวางอุปกรณืต่างๆ ที่ลงตัวเหมาะกับการเดินทางแบบครอบครัวเป็นที่สุด แต่ที่ผมชอบเป็นที่สุดคือ “เบรกมือ” เค้าดีไซน์ได้แปลกดี สวยแบบไม่มีใครเหมือนครับและไม่มีใครการเหมือน

Ideal for travel.

    เล่ายาวกันเลยครับ ถึงเวลาต้องออกไปลองขับกันสักที เรามา สตาร์ทเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ 122 แรงม้าที่ 6,000 รอบ และแรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตรที่ 4,250 รอบ ที่ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมฟังก์ชั่น Steptronic  และถึงแม้เจ้ารถคันนี้จะไม่ใช่ตัวแรงที่มี “S” การันตรีต่อท้ายนั้น แต่ผมก็เชื่อว่าจะมีสมรรถนะที่สามารถรีดความสนุกในการขับขี่ได้ไม่น้อย มาลองกันเล่นๆ กับการจับเวลาของอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากที่ลองจับเวลา 3 ครั้ง ได้ค่าเฉลี่ยออกมาได้ 11.8 วินาที  แต่อารมณ์การขับขี่จะไหลไปแบบสบายๆ การผสมผสานระหว่างเกียร์กับเครื่องยนต์ ทำได้ราบเรียบต่อเนื่อง แต่ในความราบเรียบก็สามารถพาผมไปที่ความเร็ว 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบบไม่รู้ตัว ในเรื่องอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร โดยผมใช้ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่มีบางช่วงของการเดินผมใช้ความเร็วคงที่ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถทำอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 18.5 กิโลเมตรต่อลิตร และที่สำคัญยังรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 177 กรัมต่อกิโลเมตร

Enjoy safe. 


     ช่วงล่างที่มีอารมณ์ขับขี่แบบ Go-kart Feeling เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น MINI ระบบช่วงล่างของ MINI Countryman ยังถูกออกแบบและเซ็ตเป็นพิเศษ โดยผสมผสานความสปอร์ตและความสบาย โดยช่วงล่างด้านหน้าแบบ MacPherson และ Forged Track Control Arms และช่วงล่างด้านหลังแบบมัลติลิงค์ พร้อมมีการติดตั้ง Anti-roll Bars ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนสำหรับการเข้า โค้งโดยเฉพาะ พร้อมระบบพวงมาลัยแบบ EPS Electric Power Steering ที่นอกจากจะสามารถให้การควบคุมเฉียบคมและ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันอีกด้วย พร้อมทั้งมีระบบอิเลคทรอนิคเสริมด้านความปลอดภัยต่างๆ เช่น  ระบบเบรก ABS Anti Brake-locking System, ระบบ EBD Electronic Brake force Distribution, ระบบ CBC Cornering Brake Control, ระบบ BA Brake Assist และระบบ HA Hill Assist

MINI Cooper Countryman ราคา 2,790,000 บาท พร้อมโปรแกรม MSI MINI Service Inclusive 3 ปี / 50,000 กิโลเมตร มันก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ถ้าคุณมีหัวใจที่รักความแรงและอารมณ์ MINI แบบตัวจริงเสียงจริง คุณอาจจะต้องขยับตังค์ในกระเป๋าอีกหน่อย เพิ่มเป็นรุ่น “Cooper S” คุณจะได้ความแรงและออฟชั่นมากขึ้นอีกเพียบ ฉะนั้นก่อนจะซื้อรุ่นนี้ลองเปรียบเทียบความคุ้มค่าให้ดีก่อนนะครับ

Gallery

{phocagallery view=category|categoryid=374|limitstart=0|limitcount=0}