รีวิว: Test Drive All New MG3 ความไม่ซ้ำซาก ที่ไม่จำเจในสไตล์ของรถยนต์แฮทช์แบ็ค

เมื่อวันที่ 14-15 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมาทางบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย เชิญสื่อมวลชนร่วมสัมผัสและทดสอบ MG3 ใหม่ รถยนต์แฮทช์แบ็กสีสันสดใสที่มาพร้อมนิยาม “มองโลกให้สนุกทุกเส้นทาง” กับรูปลักษณ์ใหม่ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทันสมัย สีสันโดนใจ พร้อมสมรรถนะที่มาเติมเต็มประสบการณ์ขับขี่ให้สนุกทุกเส้นทาง บนเส้นทางกรุงเทพสู่หัวหิน รวมระยะทางกว่า 240 กิโลเมตร

All New MG3

MG3 ใหม่ ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด บริท ไดนามิค (BRIT DYNAMIC) ที่ทำให้สมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย สนุกยิ่งขึ้นด้วยการผสานเทคโนโลยี สีสัน ความสะดวกสบาย ความคล่องแคล่ว และความสนุกในการขับขี่เข้าด้วยกัน
ดีไซน์ที่แปลกใหม่เตะตาด้วยกระจังหน้าใหม่ ให้ความหรูหราและทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นเอ็มจีอย่างชัดเจน

ไฟหน้าเป็นแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights) สอดรับกับไฟท้ายแนวตั้งแบบแอลอีดี ไลท์ไกด์ (LED Light Guide) พร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลัง ก่อนจะเพิ่มความสปอร์ตอย่างโฉบเฉี่ยว ที่ไม่มีในรถรุ่นเดียวกัน ด้วยหลังคาซันรูฟปรับไฟฟ้า เสริมด้วยสปอยเลอร์หลังดีไซน์สปอร์ต สเกิร์ตข้างสีทูโทน และล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้ทันสมัย โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะและพรีเมียมขึ้นด้วยแผงคอนโซลหน้าตกแต่งเส้นสายสีสันโมเดิร์นกราฟิก พร้อมระบบปรับอากาศเป็นแบบอิเล็คทรอนิก และช่องแอร์ทรงกลมสไตล์เจ็ท เทอร์ไบน์ เน้นความกว้างขวางและนั่งสบายทั้งที่นั่งแถวหน้าและแถวหลังด้วยเบาะคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง ผสานเส้นสายกับสีสันของเบาะโดยสารลายโมเดิร์นกราฟิก เบาะที่นั่งหลังสามารถปรับพับแยกส่วนในการเก็บสัมภาระแบบ 60:40 สร้างความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว

FUN DRIVING

MG3 ใหม่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องเบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว 1,498 ซีซี VTi-TECH จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์ ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ผสานระบบกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อม Manual Mode ที่ปรับปรุงใหม่ตอบสนองการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น สามารถรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงได้สูงสุดถึง E85

อีกทั้งยังมีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 5.425 เมตร ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ที่สำคัญยังคงประสิทธิภาพอันโดดเด่นด้วยระบบช่วงล่าง EUROPEAN TUNING SUSPENSION ด้านหน้ามาในรูปแบบของแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นทอร์ชันบีม สามารถตอบโจทย์และคอนโทรลรถอย่างมั่นใจไม่ว่าทางตรงหรือทางโค้ง มาพร้อมระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์เบรกพร้อมช่องระบายความร้อน ส่วนด้านหลังแบบดรัมเบรก

ในด้านความปลอดภัยนั้น MG3 ใหม่ มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย USD (Ultimate Stiffness Design) พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า และมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยแบบ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM รวม 8 ฟังก์ชัน ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ประกอบด้วย ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS(Anti-Lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)

ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) เข้าโค้งอย่างมั่นใจด้วยระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) และระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน MSR (Motor Control Slide Retainer)

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องมองหลัง และสัญญาณเตือนระยะถอยหลังที่ช่วยให้การถอยจอดเป็นไปอย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

FUN LIFESTYLE
MG3 ใหม่ ยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และเพิ่มความสนุกในการขับขี่มาโดยตลอด ด้วยการแนะนำเทคโนโลยี i-SMART ฟังก์ชั่นที่เชื่อมกับอินเทอร์เน็ตและระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยและสามารถรวบรวมข้อมูลที่มีความสำคัญและแจ้งต่อผู้ขับได้ตลอดเวลา อาทิ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง สภาพการทำงานของแบตเตอรี่ เครื่องยนต์ และระบบเบรก ผ่านสมาร์ทโฟน พร้อมกับช่วยแจ้งเตือนการเคลื่อนที่ของรถที่ผิดปกติซึ่งอาจเกิดจากการโจรกรรม

ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับ โดยi-SMART ด้วยการอัพเดตฟังก์ชั่นใหม่บนแผนที่นำทาง สนุกและสะดวกมากขึ้นกับจอระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว ที่ให้เทคโนโลยีเติมความสนุกในทุกเส้นทาง ด้วยฟังก์ชันที่ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งฟังก์ชั่นการใช้งาน WONGNAI สำหรับเสิร์ชหาร้านอาหารและแนะนำเมนูเด็ด ฟังก์ชันใช้งาน AGODA เพื่อค้นหาโรงแรม เมื่อต้องท่องเที่ยวหรือเดินทางค้างแรม รวมทั้งฟังก์ชันใช้งาน Online Music ในรูปแบบ Live Stream บนระบบคลาวด์ได้กว่า 1 ล้านเพลง ช่วยเติมเต็มความสนุกของตลอดการขับขี่ได้เสมอ

Comment By Joey

เริ่มต้นที่ภายนอกสวยงามขึ้นกว่าตัวเก่ามากมาย ใครที่ชอบความไม่ซ้ำซาก น่าจะชอบดีไซน์ ให้ความโดดเด่นบนท้องถนนได้อย่างแจ่ม(โดยเฉพาะสีเหลือง)

 

ภายใน จัดว่าดี ดีไซน์ไม่อาจจะไม่ล้ำมากมายอะไรนัก เน้นไปที่ความเรียบร้อยหรูหรา ในเเบบผู้ดีอังกฤษ ลูกเล่นภายในมีให้ใช้เพียบ เพียงเเค่รอให้เสถียรอีกซักหน่อยจะดีงาม ความไฮเทคมีมาพร้อมอย่างที่รู้ๆกัน “Hello MG” พร้อมซันรูฟไว้มองดวงอาทิตย์
เครื่องยนต์กับชุดเกียร์ที่ให้มาใหม่ ขับลื่นเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะ สมรรถนะพอดีๆ ไม่ปรู๊ดปร๊าดเเต่ก็ไม่อืด มีเดินคันเร่งแบบไหลไปเรื่อยๆ มีเกือบหมดไมล์เหมือนกัน

ช่วงล่าง ทาง MG บอกว่าคือตัวเก่าทั้งชุด เเต่เนื่องด้วยตัวเครื่อง เเละชุดเกียร์ใหม่ ทำให้มีบาลานซ์ ดีขึ้น (เค้าว่ามาอย่างนั้นนะ)ซึ่งขอบอกไว้เลยว่า ดีงามมากๆ นิ่ง หนึบ เเน่น สไตล์ยุโรปจริงๆ เเต่หากใครชอบรถนุ่มๆ นิ่มๆ อาจจะไม่ชอบก็เป็นได้
พวงมาลัยยังคงใช้เเบบน้ำมันเช่นเดิม ซึ่งอาจจะหนักไปบ้างสำหรับสาวๆเเขนเล็ก เเต่ก็ไม่ถึงกับว่าร้องโอดโอย ซึ่งการบังคับอาจจะไม่คมเท่าพวงมาลัยเเบบไฟฟ้าเเต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด ยังไงก็แล้วแต่ถ้าได้ไฟฟ้ามาก็น่าจะดีกว่า

ซึ่งในการทดสอบครั้งนี้ทาง MG ได้จัดให้ได้ลองแข่งขันกันในรูปแบบของ Gymkhana อีกด้วย ซึ่งก็ได้รับรู้ถึงความคล่องตัวของ MG3 ที่ก็ทำได้อย่างดี

MG3 ใหม่ มาพร้อมทางเลือกทั้งหมด 5 สี เหลือง-ทิวดอร์ เยลโล่ (Tudor Yellow), แดง-รูบี เรด (Ruby Red), ฟ้า-มารีนา บลู (Marina Blue), ขาว-อาร์กติกไวท์ (Arctic White) และดำ-แบล็คไนท์ (Black Knight) โดยมี 4 รุ่นให้เลือก ได้แก่ รุ่น C ราคา 519,000 บาท, รุ่น D ราคา 549,000 บาท, รุ่น X Sunroof ราคา 589,000 บาท และรุ่น V Sunroof ราคา 629,000 บาท