Ford Next Gen Ranger Test Drive สัมผัสแรกกับความใหม่ที่รอคอย มีอะไรที่ชอบบ้าง

อดใจรอกันมาแรมปี ในที่สุด ฟอร์ด มอเตอร์ ประเทศไทย ก็พร้อมส่ง Ford Next Gen Ranger หรือ ออลนิว ฟอร์ด เรนเจอร์ ลงสู่ตลาด หลังจากปล่อยทั้งภาพสเก็ตช์ ภาพเสมือนจริง ตัวจริงแบบลายพราง จนกระทั่งตัวจริงแบบผ่านสื่อ มาจนถึงมีนาคม 2565 จึงได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ ล้วนๆ ก่อนเป็นล็อตแรก ในราคาตั้งแต่ 9.9 แสน – 1.299 ล้านบาท

Ford Next Gen Ranger คือชื่อที่ใช้เรียกสำหรับโมเดล 2022 ผ่านการออกแบบใหม่หมดตั้งแต่แชสซีส์ ตัวถัง ดีไซน์ รวมถึงระบบต่างๆ ที่ดูดุดัน แกร่งมากยิ่งขึ้น ตามแบบฉบับอเมริกัน โดยครั้งนี้เส้นสายหน้าตา คับคล้ายคับคลาเทียบเคียง F-150 มากขึ้น ดังที่แฟนคลับฟอร์ดอยากให้เป็น

การทดสอบครั้งแรกที่ ฟอร์ด มอเตอร์ ประเทศไทย จัดให้สื่อมวลชนได้ทดสอบเป็นครั้งแรกนี้ บนเส้นทาง ภูเก็ต-พังงา-กระบี่ ทั้งเส้นทางออนโรด และออฟโรด ที่ฟอร์ดได้คัดสรรสภาวการณ์ในรูปแบบต่างที่ต้องเจอ มาให้ได้ทดลองขับ

 

นี่คือบทสรุปทั้ง 18 ข้อ หลังสัมผัสแรกที่ได้ขับ Ford Next Gen Ranger

1. รหัสแชสซีส์ยังคงเป็น T6 แต่เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 พร้อมกับการขยายฐานล้อให้ยาวเพิ่มขึ้นอีก 50 มม.โดยมีระยะฐานล้อ 3,270 มม.ใต้ท้องสูง 235 มม.ซึ่งแต่เดิมแชสซีส์ T6 นั้นจะนำไปใช้กับ เรนเจอร์ และเอเวอร์เรสต์ แต่ในเจนเนอเรชั่น 3 นี้ ได้แบ่งแชสซีส์เป็น 3 ท่อน เพื่อนำไปปรับใช้กับทั้ง Ranger, Everest และ Bronco โดยแต่ละท่อนจะถูกเชื่อมต่อให้เป็นชิ้นเดียวกันด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่

2. ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น ช็อคอัพถูกอัพเกรดมาใช้แบบ monotube ทั้ง 4 ต้น โดยแชสซีสทางด้านหลังตรงช่วงคานหลังถูก “เว้า” เข้ามาด้านใน (เดิมจะตรง) เป็นการออกแบบที่วิศวกรต้องการจัดวางตำแหน่งของหูยึดช็อคอัพให้อยู่ด้านนอกของชุดแหนบ

3. หาได้ยากมากที่ในตลาดรถกระบะบ้านเราจะติดตั้ง ระบบเบรกแบบ ดิสก์ 4 ล้อมาให้จากโรงงาน เท่าที่พอนึกได้น่าจะมีกระบะของค่ายจีนที่ให้มา แต่กับ Next Gen Ranger ติดตั้งดิสก์ 4 ล้อมาให้เรียบร้อย เมื่อมองผ่านลายล้อแม็กอัลลอยที่รัดด้วยยาง 255/65 R18 จึงดูแน่นเต็มเสมือนถูกตกแต่งเพิ่มสมรรถนะ

4. เครื่องยนต์จะว่าไปแล้วก็ยังคงเป็นบล็อกเดิมที่สาวกฟอร์ดคุ้นเคย กับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ Bi Turbo แต่การจะยกเอาเครื่องพร้อมเกียร์แบบ 10 สปีด มาทั้งดุ้นก็ดูจะกระไรอยู่ มีการปรับเซ็ตในเรื่องของโปรแกรม และการจูนอัพระบบขับเคลื่อนให้ทำงานได้ สมูธ ขึ้น โดยมีกำลังสูงที่ 210 แรงม้า (ลดลงจากเดิมซึ่งมี 213 แรงม้า)

5. แรงบันดาลใจมาเต็มเปี่ยมจากตัว F-150 ตั้งแต่กระจังหน้าขนาดใหญ่ พร้อมไฟหน้าที่จัดเต็มแบบ Metrix LED ปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ โดยมีไฟ DRL แบบ LED รูปทรง C-Clamp ที่เด่นเป็นเอกลักษณ์

6. ส่วนไฟท้ายจะว่าเป็นทรงเลข 3 ก็ดูใกล้เคียงอยู่ มีการออกแบบตัดด้วยสีดำ และขาวดูทันสมัยแนวยุคดิจิตอลขึ้น โดยไฟเบรกดวงที่ 3 จะถูกฝังอยู่ที่มือเปิดฝาท้าย

7. ในกระบะท้ายถูกออกแบบให้มีความอเนกประสงค์ ซุ้มล้อหลังเรียบเนียนขึ้น ได้พื้นที่มากขึ้น ตัวฝาท้ายติดตั้งตัวช่วยผ่อนแรงเวลาปิด มีช่องต่อไฟแบบกระแสสลับที่รองรับเครื่องใช้มากถึง 400w และช่องจ่ายไฟแบบ 12V ด้วยอีกช่อง จึงน่าจะตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ใช้งานแบบงานช่างได้ดียิ่งขึ้น

8. ในห้องโดยสารขอคอมเม้นท์แบบคร่าวๆ แล้วกัน ที่เด่นเลยคือหน้าจอทรงแนวตั้งระบบสัมผัส ขนาด 12 นิ้ว ที่เชื่อมต่อระบบ CarPlay และ Android Auto ได้แบบไร้สาย แม้ฟังก์ชั่น และเมนูการใช้งานต่างๆ จะถูกบรรจุไว้ที่หน้าจอทัชสกรีน แต่ ฟอร์ด เรนเจอร์ เนกซ์ เจน ก็ยังคงมีปุ่ม สวิทช์กด และลูกบิด มาให้ใช้งานด้วยในส่วนของระบบปรับอากาศ ซึ่งผู้เขียนชอบนะในจุดนี้ เพราะเวลาที่เราขับรถไปด้วยแล้วต้องการปรับอย่างใดอย่างหนึ่งที่หน้าจอ ถ้าเป็นระบบสัมผัสดูจะใช้งานยากไปนิดเนื่องจากต้องละสายตา แต่นี่สามารถคลำและปรับได้เลย

9. เบาะนั่งจัดชุดเต็มให้มาแบบปรับไฟฟ้า ทั้งฝั่งคนขับ และคนนั่ง พร้อมปรับตัวซับพอร์ตดันหลังได้ด้วย ตรงจุดนี้น่าจะได้เปรียบกระบะค่ายอื่นๆ ที่ให้ไฟฟ้ามาเพียงแค่คนขับเท่านั้น

10. มาตรวัดเป็นแบบดิจิตอล รูปแบบกราฟิกดูสวยงาม ปรับลูกเล่นได้หลายหลาย แต่ขัดใจอยู่นิดเดียวตรง มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ ที่ออกแบบให้เป็นแบบ “สเกล” สูงต่ำ ซึ่งดูยาก (สำหรับผู้เขียนนะ) โดยพยามลองปรับเองว่าจะมีดิสเพลย์เป็นแบบอื่นที่คุ้นตามั้ย ปรากฏว่า มีแบบเดียวเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ก็ได้ถามไถ่ทางวิศวกรแล้วเช่นกัน

11. ความรู้สึกแรกกับการเป็นคนนั่ง บนเส้นทางออนโรดปกติ จากภูเก็ตไปพังงา บอกได้คำเดียวว่า “นุ่มละมุน” จนบางที่เพลินๆ ยังลืมไปว่านี่นั่งรถกระบะอยู่หรือเปล่า เป็นฟีลลิ่งที่แปลกไปมาก แปลกไปจากความเป็นรถกระบะก็แล้วกัน

12. อย่างที่บอกไปว่า เป็นคนนั่งนี่รู้สึกถึงความนุ่มนวลหนึบแน่น ประกอบกับเสียงที่เล็ดลอดเข้ามานั้น น้อยถึงน้อยมาก จนคิดไปว่าอยู่บนรถเก๋ง หรือ SUV กันแน่ ซึ่งทางวิศวกรก็ได้บอกเราว่า ไม่ได้ใส่วัสดุซับเสียงเพิ่มเติมเลย มีใส่มาตามปกติ แต่น่าจะเป็นที่การออกแบบที่ทำให้หลายอย่างอยู่บนตัวถังมากที่สุด จึงเกิดการหักล้างกันของคลื่นเสียง ผลที่ออกมาจึงดีเกินคาด

13. ต่อเนื่องจากเส้นทางออนโรด เข้าสู่ Ford Ranger Ville หรือสนามออฟโรดที่ฟอร์ดจัดเตรียมสถานีขับเคลื่อน 4 ล้อเอาไว้ให้ถึง 8 สถานีด้วยกัน ทั้งเนินชันขึ้น และลง ขับผ่านแอ่งน้ำ ทางลื่น ทางโคลน ทางหิน ทางทราย มีหมดครบรส พร้อมกับโหมดที่หลากหลายให้เลือกใช้งานตามสภาพของเส้นทางที่กล่าวมา

14. การปรับระบบขับเคลื่อนจาก 2H ไป 4H สามารถปรับเปลี่ยนไปโดยไม่ต้องจอด เพียงแค่กดปุ่มเลือกเท่านั้น ส่วนถ้าจะเปลี่ยนไปเป็น 4L แค่จอดเข้าเกียร์ว่าง แล้วกด 4L ระบบจะปรับเปลี่ยนให้ด้วยไฟฟ้า ซึ่งการข้าวของระบบ 4L นั้นค่อนข้างทำได้แม่นยำ เข้าง่าย และเร็ว ถ้าเทียบกับค่ายอิ่นๆ แล้วตรงจุดนี้ต้องยกให้ เนกซ์ เจน เรนเจอร์ เค้าเลย

 

15. ระบบ Hill Descent Control ทำงานได้ฉับไว ตั้งแต่หัวรถเริ่มเอียงลง ปรับแรงดันเบรกให้เองอย่างละเอียด รู้สึกว่าสมูธมากในการลงทางชัน พร้อมกับการทำงานที่แทบจะหยุดคาเวลาลงทางชัน ทำให้คนขับใช้เพียงคันเร่งเท่านั้นควบคุมการเคลื่อนตัว

16. กล้องรอบทิศทางกดใช้ง่ายด้วยระบบสัมผัส แต่จะตัดเมื่อความเร็วเกิน 10 กม./ชม.รวมไปถึงเมนูต่างๆ บนหน้าจอกลาง และมาตรวัด ที่ใช้ง่าย ขนาดมีเวลาเพียงเล็กน้อยที่ได้สัมผัสกับ เรนเจอร์ใหม่ แต่ก็รู้สึกว่าการเข้าใช้เมนูต่างๆ ไม่ยากเลย พร้อมเลือกภาษาไทยได้ด้วย

17. เครื่องยนต์ไม่ได้แรงมาก แต่แรงไม่ต่างจากเดิม การเล่นเกียร์ 10 สปีด ยังใช้งานเหมือนเดิม การเปลี่ยนเกียร์ไม่ถึงกับเรียบเนียนแบบกริ๊บนัก แต่จัดว่าเนียนละมุนเอาเรื่องอยู่ วิ่งลอยๆ เติมคันเร่งเมื่อไหร่ก็มา น่าจะถูกใจสายกระบะที่ชอบถามหาความแรง

18. ยิ่งช่วงล่างที่เซ็ตมาแบบ นุ่มเนียน จนลืมคิดไปว่าขับรถกระบะอยู่ ตอนรูดลูกระนาด ก็ทำได้แบบรูดนิ่งๆ ไม่มีเด้งสวนให้รู้สึก บอกได้คำเดียวว่า เป็นความแปลกใหม่ของรถกระบะ ถ้าจะทำให้นิ่งใกล้เคียง SUV ก็ทำได้นี่ ดังนั้น Ford Next Gen Ranger จึงน่าจะเป็นกระบะที่ขับในเมืองก็สบาย เดินทางไกลก็ผ่อนคลายไม่ต่างจากเก๋ง เป็นความใหม่ที่ฟอร์ดทำได้โดดเด่น แตกต่างอย่างชัดเจน…บอกได้คำเดียวว่าให้ไปลอง แล้วจะรู้ว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงของกระบะที่ขายในไทย

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Ford

แท็กฮิต :