[bsa_pro_ad_space id=14]

รีวิว Ford Ranger Raptor 2020 Arabian in Mui Ne

ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดประสบการณ์สุดท้าทายอีกครั้ง กับการทดสอบ Ford Ranger Raptor รุ่นปี 2020 ในประเทศเวียดนามเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ในบรรยากาศเมืองดาลัดต่อด้วยความสวยงามของมุยเน่ ที่เป็นเมืองแถบชายฝั่งทะเล ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม จบสุดท้ายแห่งความท้าทายที่ ทะเลทรายขาวมุยเน่ หรือ White Sand Dunes ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของเวียดนาม

สำหรับ Ford Ranger Raptor 2020 มีสิ่งแตกต่างจากรุ่นเดิมก็คือภายนอก ได้ตัดลวดลายของสติ๊กเกอร์ช่วงท้ายรถออกไป ไฟฟ้ามาเป็น LED เต็มระบบ และเมนูแสดงผลหน้าจอเป็นภาษาไทย

โดยยังคงความเป็น Ford Performance ด้วยโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX เพื่อซับแรงกระแทกเมื่อขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง อีกทั้งช่วงล่างที่ถูกยกสูงขึ้นและระยะช่วงล้อที่กว้างขึ้น มุมไต่และมุมจากเพิ่มขึ้น จึงช่วยเรื่องการทรงตัว ทำให้ขับขี่ออฟโรดขั้นสุดได้อย่างมั่นใจ มีระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อคทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง จึงช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น


เครื่องยนต์ Ford Ranger Raptor 2020 แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด อัดอากาศเทอร์โบ 2 ลูกและอัตราทดเกียร์ที่แคบลง ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร

พร้อมแล้ว “ลุย” ได้

เริ่มต้นวันแรก กันที่เมืองดาลัด ที่มีความสุดยอดตรงที่เป็นเมืองที่มีอากาศเย็นทั้งปี ซึ่งเป็นสถานีการทดสอบในแบบออฟโรด ที่ทางฟอร์ดได้จัดไว้ 7 สถานี ได้แก่
-HDC MODE – ทางลงเนินยาว
-SUSPENSION – ทางลงบ่อโคลน
-SLOPE – ขึ้น – ลง เนินชัน เอียง 45 องศา
-REBOUND REBUMP – ไต่ขอบบ่อ
-BAJA MODE – ทางฝุ่นยาว
-DIFF LOCK – ร่องน้ำธรรมชาติ ยาว ลึก
-GRAVEL MODE – เนินชัน

ทั้งนี้ด้วยระบบ Terrain Management System (TMS) โหมดการขับขี่อันล้ำสมัยถึง 6 รูปแบบไม่ว่าจะเป็น
• โหมดหญ้า/กรวดหิน/หิมะ – ออกแบบมาให้ขับขี่บนทางออฟโรดที่มีพื้นผิวลื่นและเป็นหลุมบ่อ โดยระบบจะทำการเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวลขึ้นพร้อมทั้งออกตัวด้วยเกียร์ที่สอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดอัตราการลื่นไถลของล้อรถ
• โหมดโคลน/ทราย – ระบบจะปรับการตอบสนองของระบบควบคุมการลื่นไถลให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีความลึกและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างพื้นทรายและโคลน ด้วยการใช้เกียร์ต่ำที่มีแรงบิดสูง
• โหมดหิน – ใช้เมื่อขับขี่บนพื้นผิวในเขตภูเขาที่ลาดชัน ต้องใช้ความเร็วต่ำ และเน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ
• โหมดบาฮา – ระบบจะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ โดยระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะถูกตัดการทำงาน เพื่อไม่ให้แทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ รวมทั้งเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ระบบจะค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

ในการขับขี่ที่หลากหลายของ Ford Ranger Raptor 2020 ลุยทุกสภาพพื้นผิวอันสมบุกสมบัน ก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับการทดสอบของวันนี้ โดยสามารถผ่านในทุกๆสถานีได้อย่างเหลือเชื่อ แม้ว่าจะเป็นรถเดิมๆจากโรงงานที่ไม่ได้ไปตกแต่งเพิ่มสมรรถนะแต่อย่างใด
จากนั้นได้ทดสอบโหมดกรวด ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลขึ้นพร้อมทั้งออกตัวด้วยเกียร์ที่สอง ลดโอกาสการลื่นไถลของล้อรถให้น้อยที่สุด ทั้งยังมอบความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดที่ทั้งลื่นและพื้นผิวไม่เท่ากัน

ลุยต่อวันที่ 2 ที่เมืองมุยเน่

ในวันต่อมา เป็นการเดินทางแบบคาราวาน มุ่งหน้าไปยังเมืองมุยเน่ ด้วยระยะทางประมาณ 205 กิโลเมตร ที่แม้จะเดินทางไกลประกอบกับถนนที่ไม่ค่อยจะดีนักในบางช่วง

การขับเดินทางก็ยังมีความสบาย มีความนุ่มนวลของช่วงล่าง Fox ที่คอยซับแรงได้เป็นอย่างดี จนเดินทางถึง ทะเลทรายขาวมุยเน่ หรือ White Sand Dunes ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของเวียดนาม

โดยในวันนี้ได้ทดสอบสมรรถนะของ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ด้วยการใช้ โหมดทราย ในการขับรถในทะเลทรายที่ทั้งลึกและยวบ ข้ามภูมิทัศน์อันแห้งแล้งของสิ่งมหัศจรรย์ทางภูมิศาสตร์ของที่นี่

ซึ่งระบบ TMS ของ Ford Ranger Raptor 2020 ให้การตอบสนองของรถ เพื่อป้องกันการลื่นไถลและรักษาโมเมนตัมที่ดีที่สุดด้วยการรักษาเกียร์ต่ำและแรงบิดให้อยู่ในระดับสูง

สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ น่าจะเป็นรถกระบะที่คุ้มค่าเงิน สำหรับใครที่ต้องการ รถกระบะสมรรถนะสูง จากโรงงาน ซึ่งไม่ต้องไปแต่งอะไรเพิ่มอีกแล้ว

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Ford

แท็กฮิต : , , , , , , ,

[bsa_pro_ad_space id=15]
[bsa_pro_ad_space id=16]