ใหม่ Lexus RX 350 F Sport (เลกซัส อาร์เอ็กซ์ 350 เอฟ สปอร์ต) 2017-2018 ดุดันด้วยรูปลักษณ์ สมรรถนะ และราคาเคาะเบาๆ ที่ 6.8 ล้าน

โพสต์เมื่อ 30th กรกฎาคม 2017 หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย Poyee Poyee

Lexus RX 350 F Sport (เลกซัส อาร์เอ็กซ์ 350 เอฟ สปอร์ต) เต็มขั้นความสปอร์ตบนเรือนร่างยนตรกรรมอเนกประสงค์อนุกรม RX ซึ่งต่อยอดความเร้าอารมณ์ด้วยเวอร์ชั่น F Sport ที่หล่อเหลาในทุกมุมมอง พร้อมนำเสนอความแรง บนพื้นฐานขุมพลังเบนซิน เทอร์โบ 300 แรงม้า ที่ต้องแลกมาด้วยราคา 6.8 ล้านบาท

ขีดสุดแห่งความเร้าใจ ในแบบฉบับ F Sport

เลกซัส อาร์เอ็กซ์ 350 เอฟ สปอร์ต อีกหนึ่งยนตกรรมอเนกประสงค์ระดับหรูอนุกรม RX ซึ่งถูกอัพเกรดให้ดุดันด้วยขึ้นเวอร์ชั่น F Sport เพื่อสร้างความโดดเด่นสะดุดตาขึ้นอีกระดับ พร้อมการขยับขยายมิติตัวถังให้ใหญ่โตขึ้น ด้วยการขยายความยาวช่วงล้อเพิ่มขึ้น 2 นิ้ว ตามด้วยการเสริมความหล่อเหลาในเวอร์ชั่น F Sport ให้รูปลักษณ์ที่ประกอบด้วยกระจังหน้าแบบ Spindle Grille ที่รับกับดีไซน์ของชุดไฟหน้า LED รูปทรงตัว L – Shaped

ซึ่งมาพร้อมระบบปรับองศาการส่องสว่างในมุมต่ำ และปรับระดับสูง – ต่ำอัตโนมัติ พร้อมระบบทำความสะอาดไฟหน้า รวมถึงการติดตั้งชุดไฟตัดหมอกหน้า, ชุดไฟ Daytime Running Lights, ไฟส่องมุมหน้ารถ และการเสริมด้วยความสปอร์ตจากหลังคา Moonroof, สปอยเลอร์หลัง, ไฟเบรกดวงที่ 3, ชุดไฟท้ายขนาดใหญ่ดีไซน์เฉี่ยว และล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้ว ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับเวอร์ชั่น F Sport

สะดวกสบายด้วยมาตรฐานรถอเนกประสงค์อนุกรม RX

ภายในมากับความกว้างขวางด้วยการขยายความยาวช่วงล้อ หรูหรา และลงตัวกับความสปอร์ตด้วยงานดีไซน์ และวัสดุที่เลือกสรร เช่น เบาะนั่งสไตล์ F Sport ออกแบบตามหลัก Ergonomic Seats หุ้มหนังสี Dark Rose เอกลักษณ์เฉพาะของ F Sport พร้อมระบบปรับไฟฟ้า, ระบบปรับอากาศ และระบบรองรับแผ่นหลังในเบาะคู่หน้า พร้อมด้วยปุ่มบันทึกตำแหน่งเบาะ 3 ตำแหน่งเฉพาะที่นั่งผู้ขับขี่

ในขณะที่เบาะหลังสามารถเลื่อน และปรับระดับพนักพิงหลังได้ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมพับเก็บพนักพิงแบบ 60/40 เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ ทั้งยังสะดวกสบายด้วยระบบ Touchless Back Door เปิดประตูหลังอัตโนมัติโดยไม่ต้องสัมผัส ส่วนหัวเกียร์ และพวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มหนังออกแบบพิเศษสไตล์ F Sport พร้อมระบบมัลติฟังค์ชั่น, แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift และระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control พร้อมระบบ Milli-wave Radar และรวมถึงแป้นเหยียบอลูมิเนียมแบบพิเศษเฉพาะในเวอร์ชั่น F Sport เช่นกัน

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกของ RX 350 F Sport ประกอบด้วย กุญแจแบบการ์ด และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ, ระบบ HUD Heads-Up Display ที่สะท้อนข้อมูลทุกอย่างลงบนกระจก เพื่อที่จะไม่ต้องละสายตาไปจากถนน, หน้าจอ Multi-Information Display ขนาด 12.3 นิ้วบนคอนโซลหน้า และหน้าจอ TFT ขนาด 8 นิ้ว

ติดตั้งในบริเวณกึ่งกลางมาตรวัดแบบ F Sport ส่วนคอนโซลกลางนั้นติดตั้งที่ชาร์จแบบไร้สาย Wireless Charging รองรับระบบการชาร์จไฟแบบ Qi เพียงวางสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนถาดชาร์จ โดยระบบชาร์จไฟนี้ใช้ควบคู่กับอุปกรณ์เสริมของโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่น ตามด้วยการติดตั้งระบบปรับอากาศพร้อมปุ่มควบคุมอุณหภูมิแบบแยกอิสระ สำหรับบริเวณที่นั่งตอนหน้า พร้อมระบบกรองอากาศ และปรับสภาพอากาศแบบ Nano-e

สปอร์ตเต็มขั้นกับเครื่องยนต์บล็อคใหญ่ในรถอเนกประสงค์

Lexus RX 350 F Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซินแบบ V6 พิกัด 3.5 ลิตร Dual VVT-i ซึ่งให้พละกำลังสูงสุด 300 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 4,600 – 4,700 รอบต่อนาที โดยมีเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด 8-speed Automatic + Electromagnetic Control Coupling ทำหน้าที่ถ่ายกำลังสู่ล้อขับเคลื่อนทั้ง 4 แบบ All-Wheel Drive โดยมีระบบ Active Torque Control คอยจัดการแรงบิดอย่างสมดุลย์ในทุกสถานการณ์การขับขี่

โดยเสริมความเร้าใจในขณะขับขี่ด้วยฟังค์ชั่น Performance Driving Modes ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งหมด 4 โหมด คือ Normal, Eco, Sport S และSport S+ ซึ่งเสริมความเร้าใจในโหมดการขับขี่ Sport S และ Sport S+ ด้วยระบบ G AI-Shift เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อีกทั้งยังมีฟังค์ชั่น Gravity Ball Sensor มาให้ เพื่อแสดงผลการขับขี่ในโหมด Sport S เพื่อดูความสมดุลในด้านการเบรค, เร่งเครื่อง, ควบคุม และปรับเปลี่ยนเกียร์ตามความเหมาะสม ส่วนระบบช่วงล่างของ RX 350 F Sport นั้นมากับด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมด้วยการติดตั้งระบบ AVS – Adaptive Variable Suspension เพื่อช่วยในการดูดซับแรงกระแทก และเพิ่มความมั่นใจด้วยชุดดิสก์เบรก 4 ล้อ

ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ตามสไตล์ยนตรกรรมชั้นหรู

Lexus RX 350 F Sport มากับระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ตั้งแต่โครงสร้างของตัวรถที่มีความแข็งแกร่งสูง Absords Impacts ตามด้วยถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS สำหรับที่นั่งคนขับ, ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS แบบคู่ (Twin-chamber) สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า, ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS บริเวณหัวเข่า, ด้านข้าง และใต้เบาะโดยสารสำหรับที่นั่งตอนหน้า และม่านถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS, ระบบป้องกันการบาดเจ็บบริเวณกระดูกต้นคอ เมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง สำหรับที่นั่งตอนหน้า (WIL)

ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับ และลดแรงกระชากสำหรับที่นั่งตอนหน้า, เข็มขัดนิรภัย ELR แบบ 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับสำหรับที่นั่งตอนหลัง, แท่นยึดสำหรับติดตั้งที่นั่งเด็กแบบ ISOFIX-Compliant สำหรับที่นั่งตอนหลัง และระบบป้องกันการโจรกรรมแบบ Immobiliser และ Intrusion Sensor พร้อมสัญญาณเตือนอัตโนมัติ

ทั้งยังเสริมสมรรถนะความปลอดภัยในขณะขับขี่ ด้วยระบบเตรียมพร้อมก่อนการชน (Pre-crash Safety), ระบบปรับองศาของไฟส่องสว่างอัจฉริยะ, ระบบลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ สำหรับกระจกมองหลังและกระจกข้าง, ระบบจัดการรวมไดนามิคของตัวรถ (VDIM), ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ (VSC), ระบบป้องกันการลื่นไถล (TRC), ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อค (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรกไฟฟ้า (EBD) และระบบช่วยเบรก (BA)

ตามด้วยระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist), ระบบ Blind Spot Monitor สำหรับทำหน้าที่ตรวจสอบรถเลนข้างๆ ในตำแหน่งที่ไม่อาจสังเกตุได้จากกระจกมองข้าง เพื่อส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ เพิ่มความปลอดภัย, ระบบ Lane Departure Alert ที่จะแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อหลุดออกจากเลน โดยไม่มีการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว

รวมถึงระบบช่วยจอด Parking Assist แสดงผลให้เห็นบนจอภาพจากกล้องที่ติดอยู่หลังรถ ช่วยให้สามารถจอดรถได้อย่างไร้ความกังวล พร้อมสัญญาณเตือนด้านท้ายรถ ขณะถอยหลัง (RCTA), ไฟเบรกฉุกเฉิน และสุดท้ายกับระบบเตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Alert ที่จะแสดงความปกติของลมยางให้ทราบทันที เพื่อเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่มากยิ่งขึ้น