Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic พลังเบนซิน และไฟฟ้า ราคายั่วๆ ที่ 3,350,000 บาท

โพสต์เมื่อ 26th ตุลาคม 2022 หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย Poyee Poyee

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic” เวอร์ชั่น Plug-in Hybrid รุ่นใหม่ในตระกูล The C-Class เจนเนอเรชั่นล่าสุด นำเสนอจุดเด่นสำคัญด้านสมรรถนะที่เร้าใจ กับการผสมผสานความสามารถของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1,999 ซีซี เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 25.4 kWh ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4ให้พละกำลังสูงสุดรวมอยู่ที่ 313 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร

ซึ่งประสิทธิภาพที่ออกมาก็คือ C 350 e AMG Dynamic สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 245 กม. / ชม. ทั้งยังขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กม. ทำความเร็วสูงสุดจากโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วน (EL) ได้ถึง 140 กม./ชม. ขณะที่การชาร์จไฟเข้าระบบ 100% เต็มนั้น หากเป็นการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC charger) ใช้เวลาเพียง 30 นาที ส่วนการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC charger) จะใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากขีดความสามารถที่เหนือชั้นแล้ว C 350 e AMG Dynamic ยังมากับงานดีไซน์ใหม่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นภายใต้คอนเซ็ปต์ Sensual Purity สร้างเป็นส่วนผสมลงตัวระหว่างความสปอร์ต และความหรูหรา ผ่านจุดเด่นเช่น กระจังหน้าใหม่พร้อม Star Pattern อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz, ชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่เน้นความสปอร์ต เช่นเดียวกับชุดกันชนหลังดีไซน์ ที่ลงตัวกับไฟท้าย LED และกรอบท่อไอเสียคู่ 2 ฝั่ง ตามด้วยล้ออัลลอยด์ AMG ที่มากับขนาด 18 นิ้ว ลาย 5 ก้าน Twin-Spoke

ส่วนไฮไลต์อันเหนือชั้นต้องยกให้กับชุดไฟหน้าแบบ Digital Light กับความละเอียดที่มีมากกว่า 1 ล้านพิกเซลในแต่ละข้าง โดยรายละเอียดของการทำงานจะ ประกอบด้วยฟังค์ชัน Adaptive Highbeam Assist Plus ที่ควบคุมไฟ LED ให้สอดรับกับสถานการณ์บนท้องถนนแบบอิสระ ขณะที่ Ultra Range Highbeam ที่จะช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้เข้ากับแต่ละสถานการณ์อย่างเหมาะสม

ภายในห้องโดยสารก้าวไปอีกขั้นกับการตกแต่งซึ่งถอดแบบมาจาก S-Class เช่น เบาะนั่งสปอร์ตหุ้มหนังคุณภาพสูง และส่วนรองรับศีรษะที่ออกแบบใหม่, หน้าจอ LCD สำหรับผู้ขับขี่ที่ขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว ความละเอียดสูงคมชัด อ่านภาพที่ได้ง่ายในทุกสภาพแสง และปรับรูปแบบการแสดงผลได้ทั้งหมด 3 แบบ คือ “Discreet”, “Sporty” และ “Classic” พร้อม 3 โหมดการใช้งาน ได้แก่ Navigation, Assistance และ Service

ส่วนคอนโซลกลางมากับดีไซน์ใหม่ และจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ 11.9 นิ้ว ที่ออกแบบให้เอียงเข้าหาผู้ขับขี่เล็กน้อย พร้อมระบบความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) รุ่นล่าสุด ที่สามารถควบคุมได้จากทั้งพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น 3 ก้านหุ้มหนัง, ระบบสั่งงานด้วยเสียง หรือ ฟังค์ชั่นสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Scanner) เพื่อเข้าสู่การตั้งค่าเฉพาะบุคคลที่สะดวก และปลอดภัย ซึ่งระบบจะช่วยเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่ด้วยระบบ AI เพื่อช่วยปรับการตั้งค่าของรถให้เหมือน Comfort Zone ของผู้ขับขี่

แล้วก็ยังมีระบบปรับอากาศที่สามารถควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติอิสระ 2 โซน, ระบบรองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย และไฟล้อมรอบห้องโดยสาร Premium Ambient Lighting ที่มีให้เลือกมากถึง 64 เฉดสี

เหนืออื่นใดก็คือความโดดเด่นจากระบบความปลอดภัยชั้นสูง ตั้งแต่ ห้องโดยสารที่แข็งแรงเป็นพิเศษ และโครงสร้างตัวรถที่ออกแบบมาเพื่อให้การปกป้องที่ดีที่สุด สำหรับผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ตามมาด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ อาทิ ระบบรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC), ฟังค์ชั่น Lane Tracking package ที่มีทั้งระบบ Active Lane Keeping Assist ที่ช่วยดึงรถกลับเข้าช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติหากตรวจพบความเสี่ยงในการชน และระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดบอดสายตา (Blind Spot Assist) รวมถึงระบบช่วยจอดด้วย PARKTRONIC ที่ตรวจจับพื้นที่จอดรถว่าง พร้อมกล้องถอยหลัง และเซ็นเซอร์ระดับอัลตราโซนิกที่แม่นยำ สำหรับช่วยทำให้เข้าจอดเป็นเรื่องง่ายดายแบบคิดไม่ถึง