Mercedes-Benz Thailand ส่ง Mercedes-AMG GT S ขึ้นเวที เปิดตัวน้องใหม่ในตระกูล กับค่าตัว 14.9 ล้านบาท

โพสต์เมื่อ 30th พฤศจิกายน 2018 หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย Poyee Poyee

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Mercedes-Benz Thailand) ในงาน Motor Expo 2018 ปีนี้นอกจากเหล่ายนตรกรรมพื้นฐานแล้วที่นำมาจัดแสดงแล้ว ยังเพิ่มความดุเดือดให้ตลาดด้วย 2 ยนตรกรรมสมาชิกใหม่ล่าสุดจาก Mercedes-AMG คือ CLS 53 4MATIC+ และไฮไลต์เด็ดกับสปอร์ตตัวล่าสุดในชื่อ Mercedes-AMG GT S

Mercedes-AMG GT S น้องใหม่ แห่งอนุกรมโหด

ด้วยชื่อเสียงเรียงนาม และฐานะสมาชิกลำดับล่าสุดแห่งอนุกรมโหด คือ หลักฐานชั้นดีในการการันตีความสปอร์ตเต็มขั้น ที่มาพร้อมการผสานความหรูหราในสไตล์ Mercedes-Benz ซึ่งสัมผัสได้ตั้งแต่โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบาแบบ Spaceframe ขึ้นรูปด้วยวัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียม, แม็กนีเซียม และเหล็กกล้า เสริมด้วยเหล็กคานขวางอลูมิเนียม

ตามด้วยการปูพรมจากงานดีไซน์สุดเร้าใจ เช่น ฝากระโปรงทรงยาวอันโดดเด่นด้วยงานดีไซน์แบบ Jet Wing เพื่อการนำเสนอความกว้าง และปราดเปรียว เสริมด้วยจุดเด่นจากชุดกระจังหน้า AMG และช่องดักอากาศขนาดใหญ่ ตลอดจนชุดไฟหน้าแบบ LED High Performance

ในขณะที่มุมมองด้านข้างนั้นสะดุดตาด้วยล้ออัลลอยด์ AMG ต่างขนาด คือ 19 นิ้วในด้านหน้า และ 20 นิ้วในด้านหลัง พร้อมด้วยการนำเสนองานดีไซน์ตัวรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อขับเน้นอารมณ์ความสปอร์ต เช่นเดียวกับงานออกแบบด้านท้าย

ดีไซน์ภายใน ผสมผสานด้วยความหรู และความสปอร์ต เช่น การเลือกใช้วัสดุหนัง Nappa ในส่วนของเบาะนั่งที่ออกแบบให้โอบกระชับสร้างความรู้สึกราวกับอยู่ในรถแข่ง รวมถึงงานดีไซน์ชุดคอนโซลหน้าทรงกว้าง ทำให้ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรู้สึกราวกับถูกโอบล้อมอยู่ใน Cockpit อีกทั้งยังสามารถยกระดับอารมณ์ได้มากชึ้นด้วยออพชั่นเบาะนั่ง AMG เพื่อให้รับกับพวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

Performance สุดเร้าใจ สืบเชื้อสายจากตระกูล AMG GT

Mercedes-AMG GT S ส่งตรงความแรงด้วยขุมพลังเบนซินแบบ V8 ความจุ 3,982 ซีซี พ่วงระบบอัดอากาศแบบ Bi Turbo ที่สร้างสรรพละกำลังสูงสุดได้ถึง 522 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 670 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,900 รอบต่อนาที ซึ่งมีระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ AMG Speedshift DCT 7-Speed Sport Transmission ที่ได้รับการปรับแต่งให้สนองตอบได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น พร้อมด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift หลังพวงมาลัย สำหรับสร้างความมันส์ในการขับขี่ขึ้นอีกระดับ

ตามด้วยการติดตั้งฟังค์ชั่นเพื่อเพิ่มความสะใจมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ระบบ AMG Ride Control สำหรับปรับแต่งการทำงานของช่วงล่าง รวมถึงระบบการขับขี่ AMG Dynamic Select ซึ่งมีให้เลือกใช้ถึง 5 โหมด คือ Comfort, Sport, Sport+, RACE และ Individual โดยทางต้นสังกัดได้การันตีความ “สุด” มาให้ ด้วยตัวเลขอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที และตัวเลขความเร็วสูงสุดที่ทำได้ถึง 310 กม./ชม.