รีวิว : บทสรุป 4 ข้อ เมื่อได้ลองขับ Ford EcoSport 1.5L Titanium จาก “หนุงหนิง…สวิงแรง” ที่เล่าให้ฟังในสไตล์บ้านๆ แบบ First Impression เหมือนลูกค้าเดินไปขอลองขับตามโชว์รูม

เคยมั้ยครับ กับการเดินเข้าโชว์รูมซักแห่ง เพราะอยากซื้อรถซักคัน (อยากไปทดสอบ อยากขับ อยากเปรียบเทียบกับรีวิว) ในขณะที่พนักงานขายก็คะยั้นคะยอให้ลองขับ ซึ่งสุดท้ายก็ทำได้แค่วิ่งออกจากโชว์รูมแล้ววนอยู่ซัก 2-3 ยูเทิร์น เพื่อกลับมานั่งฟังพนักงานขาย “พร่ำพรรณา” ว่ารถดีอย่างนั้น อย่างนี้ ในขณะที่ความรู้สึกของเราเองบอก “อีกอย่าง”

เหมือนที่พนักงานขายของ Ford พยายามจะบอกข้อดีของ EcoSport ในขณะที่ความคิดเราเถียงแทบตายว่า “มันไม่ใช่” ทั้งหมดนะ เพราะนี่คือสิ่งที่ “หนุงหนิง…สวิงแรง” สัมผัสได้จากการลองขับ Ford EcoSport 1.5L Titanium รุ่นท็อป  แล้วนำมารีวิวในลักษณะคล้ายๆ กับการเดินไปขอทดลองขับตามโชว์รูม แต่โชคดีกว่าตรงไม่ต้องนั่งฟังพนักงานขาย “บ้าน้ำลาย” ก็แค่นั้น

 

1. Ford EcoSport กับดีไซน์โดนๆ และสีสันสะดุดตา

รีวิวอันดับแรกเลยต้องยกความดีความชอบให้กับงานดีไซน์ ที่เรียกว่าผสมผสานความน่ารักของขนาดตัวถังที่กะทัดรัด บนพื้นฐานของรถ 5 ประตูสไตล์ Compact SUV ซึ่งนำเสนอผ่านโทนสีตัวรถได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะสีสันสดๆ ทั้งหลาย ที่มันทำให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นบนท้องถนน แต่ก็ไม่ใช่จะมีแต่โทนสีสันสดใสเพียงอย่างเดียว เพราะ EcoSport ก็มีโทนสีเรียบๆ เอาไว้ตอบรับความต้องการของลูกค้าที่มีรสนิยมแตกต่างได้เช่นกัน

2. ห้องโดยสารกว้าง ห้องเก็บสัมภาระใหญ่ ขนกันไปได้เต็มที่

แม้จะรีวิวว่ารูปร่างมีขนาดกะทัดไปแล้ว แต่จุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือการบริหารจัดการพื้นที่ภายในห้องโดยที่ทำได้ดี ด้วยความกว้างขวางของส่วนโดยสาร แถมด้วยด้านหลังที่มากับห้องเก็บสัมภาระอย่างจุใจในพิกัด “346 ลิตร” ที่สามารถเพิ่มเป็น “705 ลิตร” ได้เมื่อพับพนักพิงเบาะหลัง ซึ่งพนักพิงด้านหลังนี้ก็พับได้แบบ 60:40 หรือจะพับทั้งชุดเพื่อให้ขนของอย่างเต็มเหนี่ยวก็ทำได้ดีเลยทีเดียว แต่ที่ “ไม่โอเค” ก็คือลักษณะการเปิดบานประตูฝาท้าย ที่ผมคิดว่าเปิดขึ้นด้านบนน่าจะสะดวกกว่า เพราะลองนึกสภาพว่าต้องจอดริมถนนแล้วขนของดูสิครับ ถ้าเป็นของชิ้นเล็กก็ว่าไป แต่ถ้าชิ้นใหญ่ๆ หนักๆ อันนี้น่าจะเหนื่อย

3. ทัศนวิสัยดี ขับขี่สบาย ลุยได้เบาๆ

EcoSport มากับฐานะของรถ Compact SUV ฉะนั้นหายห่วงเรื่องตำแหน่งผู้ขับที่อยู่ในตำแหน่งสูง ทำให้มีทัศนวิสัยเบื้องหน้าที่กว้างไกล ทั้งยังช่วยภายในห้องโดยสารรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย นอกจากนี้ก็ถือว่าเหมาะสมกับสภาพถนนเมืองไทยที่ “สุดจะห่วย” เพราะด้วยระยะ “ความสูงใต้ท้องรถระดับ 200 มม.” และการออกแบบเพื่อให้ “ลุย” ได้จริง เลยทำให้มันสามารถ “รูด” ได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะลุยน้ำ หรือปีนฟุตบาทก็ทำได้ แถมด้วยขนาดของตัวรถที่เหมาะสม ยังช่วยให้ขับขี่ได้อย่างคล่องตัวอีกด้วย

Ford EcoSport

 

4. ต้นถึงกลางไปไหว แต่จะให้ “ดันสูง” ก็ไม่โอเคนะ

EcoSport มากับเครื่องยนต์เบนซินพิกัด 1.5 ลิตร โดยมีพละกำลังอยู่ 110 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุดก็ 142 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Powershift 6 สปีด ซึ่งส่วนตัวผมรู้สึกว่าน่าจะเป็นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก เพราะด้วยความเร็วต่ำๆ ถึงความเร็วกลาง ถือว่าทำได้ดี  ในขณะระดับความเร็วสูงๆ ผม “ไม่ค่อย Happy เท่าไหร่” ทั้งจากช่วงล่างที่ค่อนข้างนุ่ม ความสูงของตัวถังรถ และน้ำหนักพวงมาลัยที่ยังรู้สึกว่าเบาไป จนทำให้เวลาหักเลี้ยวแบบรวดเร็วแล้วรู้สึก “สาวแตก”

แล้วก็จุดสำคัญเลยที่ทำให้รู้สึกว่า “มีความน่ากลัว” เมื่อใช้ความเร็วสูง ก็คือ “เสียง” เพราะด้วยการเก็บเสียงที่ “ไม่โอเค” เมื่อต้องใช้ความเร็วสูงก็เลยทำให้มีเสียงลมปะทะที่ค่อนข้างชัดเจน กลายเป็นมากดดันความรู้สีกทั้งตัวเอง และผู้โดยสารที่น่าจะคิดตรงกันว่า “มันเร็วไป” จนทำให้เหงื่อชื้นมือทีเดียว หากต้องจุ่มด้วยความเร็วเกินกว่า 140 กม./ชม. เพราะงั้นส่วนตัวผมจึงฟันธงให้ไปเลยว่า “เจ้านี่เหมาะที่จะเป็นรถสำหรับพ่อบ้าน แม่บ้าน ที่เท้าไม่หนัก และชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ในเมืองดีกว่า”

Ford EcoSport

 

5. ราคารถใหม่ Ford EcoSport

Ford EcoSport รุ่น Ambiente   ราคา 714,000 บาท
Ford EcoSport รุ่น Trend   ราคา 751,000 บาท
Ford EcoSport รุ่น Titanium   ราคา 847,000 บาท

 

บทความข้างต้น เป็นรีวิวจาก “หนุงหนิง…สวิงแรง”  ที่เค้าว่าไว้
ส่วนต่อไปคือความเห็นจาก “ป๋าซุ่ม…ขยุ้มหัวใจ” นะจ๊ะ

 

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Ford

แท็กฮิต : , , , , , , , , ,