MG VS HEV ถือกำเนิดเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่
เรียกได้ว่าเป็นการทำ “เซอร์ไพรส์” ผู้บริโภคชาวไทยไม่น้อย กับการมาของ MG VS HEV ซึ่งจะเข้ามาทำตลาดแทนที่ MG ZS พร้อมการอัพเกรดขึ้นใหม่หมดจด เพื่อแสดงจุดยืนในการเป็นยนตรกรรม Sport Hybrid SUV รุ่นแรกของแบรนด์ MG ภายใต้แนวคิด “Absolute” เพื่อบ่งบอกถึง “ความสมบูรณ์แบบ”
![MG VS HEV](https://www.iamcar.net/wp-content/uploads/2023/02/4-1.jpg)
และจุดเด่นที่ไม่อาจละสายตาได้ ก็คือรูปลักษณ์ภายนอกที่สะกดสายด้วยภาษางานดีไซน์สุดล้ำสมัย และเฉียบคม เช่น ชุดกระจังหน้าที่มีชื่อเรียก Electrified Matrix Grille Design, ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ, ไฟส่องสว่าง Daytime Running Light, ไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้วแบบ Aero Wheel Cover ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดแรงต้านทานอากาศ ส่วนภายในห้องโดยสารก็มากับงานออกแบบใหม่ด้วยแนวทางแบบ Modern & Stylish เช่น คอนโซลกลางแบบ Double Layer ตกแต่งด้วยวัสดุ Piano Black รวมถึงลวดลาย Laser Pattern ในส่วนของพวงมาลัยหุ้มหนัง และคันเกียร์
![MG VS HEV](https://www.iamcar.net/wp-content/uploads/2023/02/MG-ZS-EV76.jpg)
รวมไปถึงครั้งแรกของยนตรกรรมในกลุ่ม B-SUV ที่มีการติดตั้งหน้าจอ Dual Widescreen Cockpit หน้าจอคู่ขนาดใหญ่ 2 จอ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ประกอบด้วยหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ความคมชัดระดับ HD ขนาด 12.3 นิ้ว จับคู่กับหน้าจอ Infotainment แบบ Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ตลอดจน Apple CarPlay และAndroid Auto ควบคุมการทำงานผ่าน Illuminated Touch Panel
![MG VS HEV](https://www.iamcar.net/wp-content/uploads/2023/02/2-1.jpg)
ทั้งยังมีเทคโนโลยีล้ำสมัยอีกหลายอย่าง เช่น ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบใหม่ พร้อมคันเกียร์แบบ Electric Shift และโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco Comfort และ Sport เสริมด้วยระบบ Hybrid ที่มาพร้อม KERS Mode ให้เลือกปรับตั้งค่าการชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ขณะชะลอรถได้ 3 ระดับ
ซึ่งหากนึกภาพไม่ออกว่ารายละเอียดที่พูดมาเป็นอย่างไร งั้นตามไปชมกันที่คลิปนี้ครับ !!!
ในส่วนของสมรรถนะ MG VS HEV จะมากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมสูงสุดที่ 177 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT เสริมด้วยจุดเด่นสำคัญ คือ ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Synchronized Protection System ซึ่งประกอบด้วย ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBA
![MG VS HEV](https://www.iamcar.net/wp-content/uploads/2023/02/3.jpg)
ตามด้วยการยกระดับความมั่นใจ จากระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS, ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB, ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH ไปจนถึงกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย ซึ่งเรียกได้ว่าจัดมาให้อย่างครบครัน
![MG VS HEV](https://www.iamcar.net/wp-content/uploads/2023/02/5.jpg)
ซึ่งเท่าที่เราได้ลองขับแบบเต็มสเกลการใช้ชีวิตประจำวันเป็นเวลาราวหนึ่งสัปดาห์ สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือในภาพรวมนั้น MG VS HEV ถูกสร้างสรรค์ออกมาได้ดีมาก หากเทียบกับ MG ZS ทั้งในเรื่องของงานดีไซน์ และสมรรถนะ โดยเฉพาะเรื่องของอัตราเร่ง และเรื่องของอารมณ์การขับขี่ที่มีความสปอร์ตเด่นชัด จากในส่วนของพวงมาลัย และการทำงานของช่วงล่าง
แต่เชื่อหรือไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วก็ยังคงมี “คำถาม” ในใจอยู่ดี … เพราะงั้นเราจึงหาคำตอบมาให้บางส่วน ตามไปดูกันได้เลยครับ กับคลิปนี้ !!!
ราคารถใหม่
MG VS HEV รุ่น X ราคา 919,000 บาท
MG VS HEV รุ่น D ราคา 859,000 บาท