รีวิว : New Nissan Almera แรงจูงใจสำคัญ ต้องยกให้ ออพชั่น และราคา

โพสต์เมื่อ 13th พฤษภาคม 2023 หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย Poyee Poyee

หลังจากปล่อยให้แฟนๆ รอคอยกันมานาน ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ การทำตลาดของ New Nissan Almera เวอร์ชั่นล่าสุดซักที โดยก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด ก็ได้เชิญสื่อมวลชนบางส่วน ร่วมสัมผัสความเปลี่ยนแปลงเบื้องต้น

พร้อมการ Test Drive เบาๆ เพื่อตอกย้ำด้านสมรรถนะ ก่อนที่ “ราคา” ซึ่งเป็น “จิ๊กซอว์” ตัวสุดท้ายจะปรากฏขึ้น เพื่อสร้างบทสรุปที่สมบูรณ์แบบ อันชัดเจนในเรื่องของ “ความคุ้มค่า” และเราจะมาเล่าให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง

ไล่มาจากความเปลี่ยนแปลงหลักๆ คือ “รูปลักษณ์” ที่สะดุดตามากขึ้นจากแนวคิด V-Motion ใหม่ หรือ Next Generation V-Motion ที่ผสมผสานทั้งความหรูหรา ความสปอร์ต และความทันสมัย เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เช่น มุมมองด้านหน้า ที่ประกอบขึ้นด้วย ชุดกระจัง, ฝากระโปรงหน้า ต่อเนื่องไปจนถึงเสา A – Pillar พร้อมด้วยอีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ โทนสีตัวถังใหม่อย่าง สีเทา Gray Sky Pearl ตัดกับหลังคาสีดำ ให้ออกมาเป็นสไตล์ทูโทน ที่โดดเด่น

นอกจากนี้ คอนเซ็ปต์ V-Motion ยังถูกนำไปใช้กับภายในห้องโดยสาร ด้วยการตกแต่งบนคอนโซลหน้า กับดีไซน์ลักษณะคล้ายรูปปีกที่สยายออก ตกแต่งด้วยวัสดุสีน้ำเงินเข้ม (ในรุ่น V และ VL) เพื่อช่วยเพิ่มอารมณ์ความสปอร์ต ทั้งยังมีในส่วนของ “ออพชั่น” ที่มีมาให้มากขึ้น เพื่อการตอบโจทย์ที่ครบครัน ตั้งแต่ Wireless Charger และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)

ตลอดจนกุญแจรีโมทอัจฉริยะดีไซน์ใหม่ทันสมัย ที่เห็นแล้ว “ว้าว” ทันที เช่นเดียวกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น เบาะนั่งคู่หน้าพรีเมี่ยมแบบ Quole Modure ที่ไม่สะสมความร้อน ซึ่งช่วยให้นั่งได้สบาย รวมถึงการเพลิดเพลินไปกับ ระบบ Infotainment ล่าสุดอย่าง Nissan Connect ที่รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay ไปจนถึงระบบนำทาง Google Map ผ่านจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

ไม่เท่านั้น เพราะ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ยังมากับ แอพพลิเคชั่นอัจฉริยะในชื่อ Nissan Connect Services ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุม หรือสั่งการรถได้จากระยะไกล ผ่านสมาร์ทโฟน จนถึงสามารรถขอความช่วยเหลือได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ด้วยฟังค์ชั่น SOS ที่มีมาให้เป็นครั้งแรก เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน

ความปลอดภัย ยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ด้วยเทคโนโลยี 360° Safety Shield ที่อัพเกรดขึ้นอีกขั้น เช่น การติดตั้งเทคโนโลยีเซนเซอร์ตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tire Pressure Monitoring System – TPMS) มาให้เป็นครั้งแรก หากเทียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน เสริมด้วยเทคโนโลยีเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (High Beam Assist – HBA) และเทคโนโลยีแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW)

เข้ามาเสริมการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ เช่น ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA), ระบบกล้องอัจฉริยะมองรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitoring – IAVM), ระบบตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD), ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Intelligent Forward Collision Warning – IFCW), ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW) และระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)

ส่วนขุมพลังยังคงมากับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.0 ลิตร เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ Turbocharger เสริมด้วยเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ลูกสูบแบบ Delta Cylinder Head ที่มากับเทคโนโลยีการเคลือบแบบ Mirror Bore Coating แบบเดียวกับตัวแรงระดับตำนาน GT-R ต่อเนื่องด้วยหัวฉีดแบบ Central Injector และระบบไอเสียที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งยังมีการปรับปรุงเรื่องการระบายความร้อน และการเผาไหม้ให้ดียิ่งขึ้น

โดยกำลังสูงสุดที่มีมาให้ใช้ คือ 100 แรงม้า พร้อมแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) ที่ 152 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT พร้อม D-Step Logic ตลอดจนเสริมด้วยระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ด้วยตัวเลขที่การันตีเอาไว้ถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร เลยทีเดียว

และแม้ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ จะไม่ได้ทำการปรับแต่งเพิ่มเติมในส่วนของสมรรถนะ แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังคงมอบความประทับใจได้ดี โดยเฉพาะกับการใช้ในเมือง ด้วยความชัดเจนที่เกิดขึ้นจากแต่ละสถานีทดสอบ ที่หลักๆ คือ จำลองสถานการณ์ที่ต้องใช้คันเร่ง, เบรก และพวงมาลัย มากกว่าการขับขี่แบบเดินทางไกล ช่วยสร้างความมั่นใจให้การใช้งานได้อย่างชัดเจน ต่อการขับขี่ในชีวิตประจำวัน

ขณะที่การอัพเกรดออพชั่นชุดใหญ่ ที่ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ก็สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการใช้งานได้อย่างครบถ้วน รวมไปถึงเรื่องของระบบความปลอดภัยที่มีมากขึ้น และไว้วางใจได้เป็นอย่างดี … จนสารภาพตามตรงว่า “วันนั้น” แอบหวั่นเล็กๆ ในเรื่องของ “ราคา” จนกระทั่งในที่สุดเผยออกมาอย่างเป็นทางการค่อย “โล่งใจ” และได้คำตอบว่า “คุ้มค่า น่าคบหา” มากๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้จริงๆ