SPARK PLUGS หรือ หัวเทียน ทำไมถึงมี 2 เเบบ มันต่างกันยังไง

หรือ หัวเทียน เป็นอุปกรณ์ทำหน้าที่เพื่อการจุดระเบิดของเครื่องยนต์ โดยปล่อยกระแสไฟแรงดันสูง อันเป็นกลไกสำคัญต่อเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง เบนซิน หรือ ก๊าซ ซึ่งโดยทั่วไปหัวเทียนจะรับแรงดันกระแสไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 10,000 โวลต์ และทนความร้อนไม่ต่ำกว่า 2,000 องศาเซลเซียส ลักษณะของหัวเทียนจะมีเปลือกนอกเป็นโลหะและมีกระเบื้อง หรือเซรามิคเป็นฉนวนเคลือบอยู่ภายใน ขั้วกลางของหัวเทียน จะได้รับแรงไฟมาจาก สายไฟแรงดันสูง หรือ สายหัวเทียน

SPARK PLUGS

   

ซึ่งหัวเทียนจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท หรือภาษาบ้านๆ ทั่วไปจะเรียกกันก็คือ หัวเทียนร้อน กับ หัวเทียนเย็น โดยหัวเทียน ทั้ง  2 แบบ จะมีผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์โดยตรง หากเลือกใช้ผิด อาจจะส่งผลต่อเครื่องยนต์ ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์นั้น ไม่สมบูรณ์

SPARK PLUGS ประเภทแรกก็คือ  “หัวเทียนร้อน” 

“หัวเทียนร้อน”  ตัวหัวเทียนจะระบายความร้อนได้ช้า คือ หัวเทียนได้รับความร้อนจากการจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ จะมีความร้อนสะสมอยู่ที่ตัวหัวเทียนค่อนข้างมาก ซึ่งหัวเทียนร้อน จะเหมาะกับ เครื่องยนต์ที่ไม่ได้ผ่านการโมดิฟาย เนื่องจากอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ จะต่ำกว่าเครื่องยนต์ที่ผ่านการโมดิฟายมา ซึ่งมาตรฐานของเบอร์หัวเทียนร้อนนั้น เบอร์ของหัวเทียนจะเป็นเบอร์  7  ลงมา

ประเภทต่อมาคือ  “หัวเทียนเย็น” 

สำหรับ “หัวเทียนเย็น” นั้น ตัวหัวเทียนจะมีการถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะหายร้อนเลยทีเดียว  ซึ่งตามจริงแล้ว ทั้ง  หัวเทียนร้อน และ หัวเทียนเย็น จะมีความร้อนสะสมไม่มาก เพื่อประสิทธิภาพในการจ่ายไฟ  โดย หัวเทียนเย็น จะเหมาะกับเครื่องยนต์ที่ผ่านการโมดิฟายมา หรือ รถที่ใช้ความเร็วตลอด โดยเบอร์หัวเทียนจะเริ่มตั้งแต่เบอร์ 8 ขึ้นไป  และบางทีก็เหมาะสำหรับรถที่ใช้แก๊ส เนื่องจากห้องเผาไหม้ของรถที่ใช้แก๊ส จะร้อนกว่ารถใช้น้ำมัน เพราะแก๊สให้ความร้อนที่สูงกว่าน้ำมันมาก การใช้หัวเทียนเบอร์เย็น อย่าง 8 หรือ 9 น่าจะช่วยอาการสะดุด หรือ Back fire ได้

ก็พอจะรู้ความแตกต่างของ หัวเทียนร้อน กับ หัวเทียนเย็น กันแล้ว ทีนี้ก็อยู่ที่การเลือกใช้ให้เหมาะสมเท่านั้นเอง