มาแล้ว … จ้า สดๆ ร้อนๆ “The GLA” โฉมใหม่ล่าสุด พร้อม “ของแรง” ประจำตระกูล Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวโมเดลล่าสุด The GLA รถอเนกประสงค์ SUV ระดับ Premium Compact Car ซึ่งมาพร้อมการ “ชุบตัว” ใหม่ ในด้านดีไซน์ที่สปอร์ตเร้าใจ, เทคโนโลยีล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยล่าสุด ตามด้วยการ “ส่งของแรง” สู่ตลาดอีกระลอกด้วย Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC ยนตรกรรมตัดแต่งพันธุกรรม ที่ผสมผสานความ “หรู” และความ “แรง” ให้เข้ากันอย่าลงตัว
ขึ้น “ขาหยั่ง” ตั้งแนวดีไซน์ใหม่ เน้นงานอากาศพลศาสตร์
The GLA โฉมใหม่ ได้รับการพัฒนา และปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ในทุกรายละเอียดจากอุโมงค์ลม ณ โรงงานประกอบในเมืองซินเดลฟิงเก้น ประเทศเยอรมนี เพื่อยกระดับคุณสมบัติในจุดนี้ ซึ่งรายละเอียดของการปรับปรุง เริ่มจากรูปร่างของ A-Pillar ที่ลาดเป็นแนวโค้ง ตลอดจนกรอบกระจกรอบตัวถัง บริเวณใต้ท้องรถ, ขอบตัวถังส่วนล่าง
- GLA 250 AMG
- GLA 200 Urban
รวมถึงการปรับแต่งส่วนกลางของเพลาหลัง และท่อเก็บเสียงด้านหลัง ซึ่งเชื่อมต่อกับดิฟฟิวเซอร์ ตามด้วยการติดตั้งสปอยเลอร์หลังคา พร้อมสปอยเลอร์ที่ด้านข้างตัวรถ เพื่อควบคุมการไหลเวียนของอากาศทางด้านหลังของตัวรถ ปิดท้ายด้วยจุดเด่นกับการติตตั้งไฟท้ายที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ
“เป๊ะปังอลังเวอร์” บนพื้นฐานอนุกรม The GLA
ดีไซน์ภายนอกยังคงเอกลักษณ์ในแบบฉบับรถยนต์ Compact ที่มีความสปอร์ต, อเนกประสงค์ พร้อมด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม เหมาะสมทั้งการขับภายในเมือง และนอกเมือง ซึ่งทั้ง The GLA 200 Urban และ GLA 250 AMG Dynamic มากับการยกตัวถังให้สูงขึ้น ตลอดจนตำแหน่งเบาะนั่งที่ยกสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
- GLA 250 AMG
- GLA 200 Urban
ทำให้ภาพรวมนั้นนำเสนอความสมบุกสมบันมากกว่าที่เคย ด้วยกันชนแบบใหม่, ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance แทนระบบเดิมแบบ Bi-Xenon ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าในเรื่องของการส่องสว่าง ที่ใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์ เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าทางสายตาของผู้ขับขี่ เมื่อต้องขับรถในเวลากลางคืน โดยมาพร้อมกับระบบ Adaptive Highbeam Assist ที่ช่วยปรับไฟสูงอัตโนมัติ เพื่อลดการบดบังทัศนวิสัยของผู้ร่วมใช้ถนน ทั้งยังส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืดอีกด้วย
ตามด้วยการติดตั้งไฟ Daytime Runing Lights สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ในชุดไฟหน้า ซึ่งรวมถึงไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง, ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เสริมความด้วยสะดวกสบายในใช้งาน จากกระจกมองข้างปรับระดับ และพับเก็บด้วยระบบไฟฟ้า, กระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้า ติดตั้งราวหลังคาอะลูมิเนียม และปลายท่อไอเสียโครเมี่ยม 2 ท่อมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
- GLA 200 Urban
- GLA 250 AMG
โดยในรุ่น GLA 200 Urban มาพร้อมกับไฟตัดหมอกหน้า และล้ออัลลอยด์แบบ 5 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว ส่วนในรุ่น GLA 250 AMG Dynamic จะมาพร้อมกับหลังคาแบบ Panoramic Sunroof ระบบไฟฟ้า, ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้มือ เสริมหล่อด้วยชุดแต่ง AMG Bodystyling (กันชน หน้า-หลัง และสเกิร์ตข้าง), ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน จับคู่คาลิปเปอร์เบรกหน้าประทับตรา Mercedes -Benz ครอบทับโดยล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi – spoke ขนาด 19 นิ้ว
อัพเกรดสไตล์ และฟังค์ชั่นการใช้งาน
ดีไซน์ภายในของ The GLA รุ่นมาตรฐานทั้ง 2 รุ่นมากับการความต่างในสไตล์ โดยรุ่น GLA 200 Urban ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO ส่วนรุ่น GLA 250 AMG Dynamic เน้นความสปอร์ตด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA Microfibre สีดำด้ายสีแดง ซึ่งมาพร้อมชุดคันเร่ง และแป้นเบรกแบบสปอร์ต ซึ่งทั้ง 2 รุ่นได้ติดตั้งไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 12 สี และกาบบันไดเรืองแสง พร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
- GLA 250 AMG
- GLA 250 AMG
- GLA 250 AMG
- GLA 250 AMG
ส่วนฟังค์ชั่นการใช้งานต่างๆ ของทั้ง 2 รุ่น จะประกอบด้วย ระบบมัลติมีเดียมาตรฐานรุ่นใหม่ เช่น หน้าจอขนาด 8 นิ้ว, มาตรวัดรุ่นใหม่แบบเข็มสีแดง ที่ช่วยให้อ่านค่าต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ตามด้วยเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ และเบาะนั่งด้านหลังปรับองศาได้ ทั้งยังมากับความอเนกประสงค์ในการปรับพับได้แบบ 1:3 หรือ 2:3 ตลอดจนกล่องเก็บของ, ตาข่ายสัมภาระซ้าย-ขวา และช่องจ่ายไฟขนาด 12 โวลต์
นอกจากนี้ยังพกพาความสะดวกสบาย และความบันเทิงมาให้เต็มพิกัด ด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 2 โซน, ระบบพวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น สำหรับควบคุมระบบเครื่องเสียง MB Audio 20 ซึ่งรองรับ วิทยุ-ซีดี, , ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (BlueTooth), โทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS (Apple CarPlay™), MB Apps และระบบนำทาง (Pre-installation SD-Card Navigation) โดยในรุ่น GLA 250 AMG Dynamic ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO และระบบ HANDFREE ACCESS ที่สามารถเปิดประตูท้ายได้โดยไม่ใช้มือในรุ่น GLA 250 AMG Dynamic
- GLA 200 Urban
- GLA 200 Urban
- GLA 200 Urban
- GLA 200 Urban
“ครบเครื่อง” ด้วยความปลอดภัย และเทคโนโลยี
The GLA ทั้ง 2 รุ่น ได้รับการติดตั้งระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) เป็นระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ซึ่งจะทำงานโดยการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่ระยะห่าง ระหว่างรถยนต์ที่ขับอยู่กับรถยนต์คันข้างหน้านั้นมีน้อยเกินไป และหากจำเป็นระบบนี้สามารถสั่งชะลอ หรือหยุดรถให้โดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะที่เหมาะสมได้ หากเกิดสถานการณ์อันตราย ทั้งยังสามารถสั่งหยุดรถได้โดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันการเฉี่ยวชน

GLA 250 AMG
โดยมาพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ อาทิ ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง ป้องกันศีรษะ 4 ตำแหน่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่ง, กล้องแสดงภาพด้านหลังสำหรับถอยรถ, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
ตามมาด้วยระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชั่น HOLD และ Hill-Start Assist, ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light), ระบบรักษาระดับความเร็ว (cruise control) และจำกัดความเร็ว (SPEEDTRONIC), ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator), ระบบเตือนแรงดันยาง (tyre pressure loss warning system) และระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)

GLA 200 Urban
Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC “Beauty and the Beast”
GLA 45 4MATIC คือ โมเดล GLA ที่ตัดแต่งพันธุกรรมใหม่โดย AMG เพื่อยกระดับความดุดัน ตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก ที่โดดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้ารูปแบบใหม่ที่ลู่ลมกว่าเดิม เปลี่ยนลวดลายช่องรับอากาศด้านหน้าใหม่ และยังคงใช้ระบบไฟหน้าแบบ LED High Performance พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist)
- GLA 45 4MATIC
- GLA 45 4MATIC
ตามด้วยการสวมชุดรบ AMG Night Package และ AMG Aerodynamic Package ประกอบด้วยชุดตกแต่งกันชนหน้า และกันชนหลังสีดำ High-Gloss ที่มากับ Diffuser ดีไซน์ใหม่ เช่นเดียวกับชุดสปอยเลอร์หลังคา และปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน โดดเด่นด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังแบบสปอร์ต มากับระบบปรับระดับด้วยไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ และระบบอุ่นร้อนในคู่หน้า เน้นความเร้าใจขึ้นอีกขั้นด้วยชุดคันเร่ง และแป้นเบรกแบบสปอร์ต, พวงมาลัยแบบพิเศษ AMG Performance Steering Wheel หุ้มหนัง Nappa / DINAMICA
- GLA 45 4MATIC
- GLA 45 4MATIC
- GLA 45 4MATIC
- GLA 45 4MATIC
ตกแต่งภายในด้วยสไตล์ AMG ด้วยโทนสีดำ-แดง ผสมผสานด้วยชิ้นงานจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์, เข็มขัดนิรภัยสีแดง, กาบบันไดเรืองแสงประตูหน้าแบบ AMG ตามด้วยการติดตั้งอุปกรณ์มัลติมีเดียมาให้อย่างเต็มอัตราศึก เช่น หน้าจอแบบยกตัวขนาด 8 นิ้ว, ชุดเครื่องเสียง Harman Kardon® Logic 7®, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Bluetooth), ระบบนำทาง GARMIN MAP PILOT และหลังคา Panoramic Sunroof ระบบไฟฟ้า
Performance By Mercedes-AMG
Mercedes-AMG GLA 45 4MATIC มากับเครื่องยนต์เบนซินพิกัด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ Twin-Scroll และอินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงโดยตรงแบบ Piezo Injector แรงดันสูงถึง 200 บาร์ ตามด้วยการติดตั้งระบบไอเสีย AMG Performance Exhaust System® พร้อมวาล์วควบคุมไอเสียที่ปรับแต่งขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างชัดเจน และเร้าใจในทุกการขับขี่ ทั้งยังเลือกเสียงเครื่องยนต์ที่ต่างกันได้เมื่อเปลี่ยนโหมดการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT 4 แบบ คือ INDIVIDUAL, COMFORT, SPORT และ SPORT+ หรือแค่กดปุ่มเปิด-ปิดการทำงานของระบบที่คอนโซล

GLA 45 4MATIC
ส่วนพละกำลังนั้นมากับตัวเลข 381 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 475 นิวตันเมตรที่ 2,250-5,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แบบสปอร์ต AMG SPEEDSHIFT DCT 7 สปีด ที่ปรับอัตราทดเกียร์ 3 ถึงเกียร์ 7 ให้สั้นลง พร้อมฟังค์ชั่นออกตัว RACE START ที่ช่วยให้รถสามารถออกตัวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยการันตีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. เอาไว้ที่เวลา 4.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม./ชม.
ระบบช่วงล่างมากับสไตล์ AIRMATIC พร้อมระบบ ADS (Adaptive Damping System) สำหรับปรับแต่ง และขับเคลื่อนด้วยระบบ AMG Performance 4MATIC แบบ 4 ล้อ ซึ่งให้การขับเคลื่อนที่มั่นใจด้วยการส่งถ่ายแรงบิดคงที่ต่อเนื่อง และกระจายสู่ล้อคู่หน้า และคู่หลังอย่างเท่ากัน

GLA 45 4MATIC
นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งระบบ Rear Axle Differential with Integrated Multi-Disc Clutch เพื่อควบคุมการทำงานของเพลาขับหลังที่ปรับตั้งค่าโดย AMG เพื่อให้เครื่องยนต์ส่งแรงบิดไปที่ล้อคู่หลังในกรณีที่ล้อคู่หน้าไม่สามารถยึดเกาะพื้นผิวถนนได้อีกด้วย อีกทั้งผู้ขับขี่ยังสามารถปรับตั้งโหมดการทำงานของระบบขับเคลื่อนได้ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหรือแบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ จะมีอัตราการถ่ายเทกำลังเท่ากันที่หน้า/หลังแบบ 50/50

GLA 45 4MATIC
ปิดท้ายด้วยความระบบความปลอดภัยที่นอกจาฟังค์ชั่นมาตรฐาน และลูกใหม่ เช่น ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist) และไฟเบรกกระพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light), กล้องแสดงภาพด้านหลังสำหรับถอยรถ, ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot) แล้ว GLA 45 ยังเพิ่มสมรรถนะการหยุดยั้งด้วยระบบเบรก AMG High Performance Braking System ประสิทธิภาพสูง มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานอีกด้วย
ราคารถใหม่ Mercedes-Benz The GLA -Class
ราคารถ Mercedes-Benz รุ่น GLA 200 Urban ราคา 2,090,000 บาท
ราคารถ Mercedes-Benz รุ่น GLA 250 AMG Dynamic ราคา 2,390,000 บาท
ราคารถ Mercedes-Benz รุ่น GLA 45 4MATIC ราคา 4,840,000 บาท