น้ำฉีดกระจก ใช้น้ำยา หรือใช้น้ำเปล่าดี

ปัญหาที่ถกเถียงกันบ่อยครั้ง ก็มาจากสิ่งละเล็กละน้อย อย่างเช่น น้ำฉีดกระจก ควรใช้น้ำยา หรือน้ำเปล่า หรือน้ำผสมแชมพู ดีกว่ากัน เพราะบางเสียงก็จะให้ใช้อย่างนั้น บางเสียงก็แนะนำให้ใช้อย่างนี้ บางทีเจ้าของรถเองก็ปวดหัวเหมือนกันว่า จะเลือกทางไหนดี เอาเป็นว่าผู้เขียนจะขอเล่าจากประสบการณ์ที่ใช้มาแล้วทุกอย่างที่คลุกคลีกับรถมา 30 ปี ทั้งรื้อทั้งแก้ปัญหา ทั้งซ่อมด้วยตัวเองมาก็พอสมควรแล้ว เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกใช้กับรถคุณผู้อ่านก็แล้วกัน

ก่อนอื่นเลยเราไปดูกันว่า ทำไมถึงต้องมาถกเถียงกันเรื่องนี้ ซึ่งผลของเรื่องการใช้ น้ำฉีดกระจก แบบไหนดีกว่ากัน นั่นเป็นเพราะ การเกิดการอุดตัน หรือบางกรณีก็มาจากการรั่วซึม เราไปไล่ดูกันอีกทีว่า ส่วนประกอบของชุดฉีดกระจกมีอะไรบ้าง

ส่วนประกอบนั้นน้อยชิ้นมาก ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย เริ่มตั้งแต่ต้นทางคือ กระบอกบรรจุน้ำ วัสดุเป็นอื่นไปไม่ได้เพราะยังไม่เคยเห็นรถไหนไม่ใช้พลาสติก และจะมีมอเตอร์ไว้สร้างแรงดันน้ำติดตั้งอยู่ด้านนอกของกระบอกบรรจุน้ำ โดยจะมีสายยางต่อจากกระบอกเข้ามอเตอร์ แล้วสายยางออกไปยัง หัวฉีด ที่ติดตั้งบนฝากระโปรง เท่านี้เอง

รถยนต์ที่ออกจากโรงงานมา โดยมากน้ำในกระบอกฉีดกระจก จะเป็นน้ำเปล่าแทบทั้งนั้น ใสๆ ไร้สิ่งเจือปน แต่เราไม่มีทางรู้เหมือนกันว่า เป็นน้ำเปล่าที่มาจากกรรมวิธี หรือแหล่งผลิตไหน แต่ขออธิบายเปรียบเทียบนิดนึงว่า ในระบบหล่อเย็น (ระบายความร้อนเครื่องยนต์) จากโรงงาน ยังต้องใช้น้ำยาหล่อเย็น แทนน้ำเปล่า เพราะน้ำเปล่า โดยเฉพาะน้ำประปา (หาง่าย) จะเกิด ตระกัน เมื่อใช้ไปนาน ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับ วาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ เกิดการอุดตัน ดังนั้นระบบหล่อเย็นจึงไม่ควรใช้น้ำเปล่า หรือจะไปสังเกตจาก กาต้มน้ำ ในครัวก็ได้ จะเห็นว่าเมื่อใช้ไปนานๆ จะมีตระกันเกาะที่กาต้มน้ำ นี่คือผลของน้ำเปล่า

แต่น้ำเปล่าที่มีคุณภาพขึ้นมาหน่อย ก็ต้องเป็น น้ำที่ผ่านระบบการกรองที่มีประสิทธิภาพ หรือไม่ก็ต้องเป็นน้ำกลั่น ซึ่งจะมีความบริสุทธิ์กว่า แร่ธาตุ และสารต่างๆ เจือปนน้อยกว่า เมื่อใช้ไปนานๆ การเกิดตระกันจะมีน้อยกว่าอย่างชัดเจน

น้ำยาเช็ดกระจกเป็นเคมีเสียส่วนใหญ่ เลือกใช้ที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย ซึ่งจะมีฤทธิ์กัดกร่อน จึงไม่แนะนำให้ใช้ ในท้องตลาดก็มีขายแบบเติมผสม (ส่วนใหญ่สีฟ้าๆ) อย่างไรลองดูฉลากข้างขวดก่อนก็ได้ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง

สุดท้ายเพื่อความลื่น และมีความรู้สึกว่ากระจกจะสะอาด และหาง่าย คงเป็นพวกแชมพูล้างรถผสมลงไป ถามว่าใช้ได้ไหม ก็ใช้ได้ แต่รับรองว่าต้องมีคราบตกค้างที่ใบปัด ส่วนจะอุดตันที่หัวฉีดไหม ขึ้นอยู่การผสม

สรุปจากประสบการณ์ส่วนตัว บอกเลยว่าใช้น้ำเปล่าที่เป็นน้ำกรอง RO หรือน้ำขวดมียี่ห้อ (เว้นยี่ห้อที่เป็นสัตว์ยกขาหน้านะ) เพราะมีแร่ธาตุผสมอยู่ อันนี้ก็ไม่แพง แต่ถ้าโอเคสุดก็น้ำกลั่น แต่แพงหน่อยเติมเต็มทีน่าจะเกือบร้อยบาท ส่วนถ้าใครจะผสมน้ำยาล้างกระจก หรือผสมแชมพูด้วย ส่วนตัวผู้เขียนถือว่าไม่ผิดกติกา แต่พื้นฐานต้องไม่ใช่น้ำประปา และควรจะผสมในปริมาณที่ไม่มาก เอาแค่พอมีฟองก็พอ ควรผสมนอกกระบอกฉีด แล้วค่อยกรอกลงกระบอก ถ้าถามว่าจะมีโอกาสอุดตันไหม..ก็มี แต่กว่าจะตันก็นานมาก ส่วนประกอบของระบบฉีดล้างกะจกมีไม่มาก ไม่รู้ว่าอะไรจะพังก่อนตันกันแน่ หัวฉีดตันก็ใช้เข็มแยงกันไป ขนาดหัวฉีดเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ขนาดใช้ทุกวันยังมีโอกาสตันเลย อย่าซีเรียสมากครับ ค่าใช้จ่ายไม่สูงหรอก