ขับขี่บนทางเส้นออฟโรดอย่างปลอดภัยไปกับเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์

โพสต์เมื่อ 19 มิถุนายน 2015 เวลา 8:06 น. หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

ขับขี่บนทางเส้นออฟโรดอย่างปลอดภัยไปกับเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ลูกค้าร่วมพิสูจน์สมรรถนะเต็มพิกัดของรถเอนกประสงค์พีพีวีขนาดใหญ่ที่ จ.กาญจนบุรี
 

การขับขี่บนเส้นทางออฟโรดเป็นกิจกรรมแนวไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ผู้ที่เป็นเจ้าของรถเอนกประสงค์ (SUV, PPV) และรถกระบะจึงสามารถออกเดินทางเพื่อไปสัมผัสความเป็นธรรมชาติในพื้นที่ป่าเขาที่ยากจะเข้าถึงได้

เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย จัดกิจกรรมมอบประสบการณ์ทดสอบขับแบบเต็มพิกัดใน “ดิ อัลติเมท เทส ไดร์ฟวิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์” สำหรับลูกค้าเชฟโรเลตที่ไม่เคยขับรถเอนกประสงค์มาก่อน ให้ได้มาสัมผัสกับ เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ที่สนามทดสอบออฟโรดในจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีคุณสุรมิส เจริญงาม พิธีกรและนักทดสอบยานยนต์ชั้นนำของประเทศไทยเป็นผู้ฝึกสอนเทคนิคการขับออฟโรด อย่างปลอดภัย

ทดสอบระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

รถกระบะ รถเอนกประสงค์ (SUV, PPV) ที่มีอุปกรณ์พร้อมสมบูรณ์จะทำงานด้วยระบบขับเคลื่อนสองล้อในการขับขี่ปกติ แต่ก็สามารถเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อบนเส้นทางออฟโรดหรือในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างช่วงฝนตกหนักได้ สำหรับกิจกรรมประสบการณ์ทดสอบขับแบบเต็มพิกัด “ดิ อัลติเมท เทส ไดร์ฟวิ่ง เอ็กซ์พีเรียนซ์” ลูกค้าเชฟโรเลตได้สัมผัสกับศักยภาพของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อในเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์อย่างเต็มที่

ท่านั่งที่เหมาะสม

หัวใจของการขับขี่คือการควบคุมรถ สิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ต้องทำคือการปรับเบาะให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับสรีระของแต่ละบุคคล มุมของเบาะต้องพอดีกับระยะแขนและที่นั่งต้องไม่ชิดกับพวงมาลัยมากเกินไป เพื่อให้มองเห็นทัศนวิสัยรอบข้างได้อย่างชัดเจน และต้องปรับระยะให้ขาสามารถควบคุมแป้นเบรก คันเร่งและคลัทช์ได้ดี ตำแหน่งการนั่งไม่ดี เมื่อรถเกิดการเคลื่อนไหวหรือสั่นสะเทือน จะทำให้ตัวผู้ขับขี่เคลื่อนไปมาจนไม่สามารถควบคุมบังคับรถได้ดีเท่าที่ควร สุดท้าย ควรปรับกระจกมองหลังและกระจกมองข้างให้ได้ระดับพอดีแนวสายตา ถึงแม้ในเส้นทางออฟโรดจะไม่สามารถใช้ความเร็วสูงมากนัก แต่ยังจำเป็นต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลา เพราะจะช่วยรั้งตัวผู้ขับขี่ให้อยู่กับที่ได้ในช่วงที่มีมุมเอียงหรือลงทางลาดชัน

การจับพวงมาลัยสไตล์ออฟโรด

สำหรับการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดสามารถวางตำแหน่งมือบนพวงมาลัยที่ 3 นาฬิกาและ 9 นาฬิกา (หรือที่ 2 นาฬิกา และ 10 นาฬิกา ตามความถนัด) เหมือนการขับขี่บนถนนทางเรียบธรรมดาได้เช่นกัน ควรจับพวงมาลัยอย่างมั่นคงขณะขับขี่ในเส้นทางทุรกันดาร และห้ามจับโดยการให้นิ้วมือเข้าไปอยู่ด้านในวงพวงมาลัย เนื่องจากในเส้นทางแบบออฟโรดนี้ รถอาจตกหลุมหรือปีนก้อนหิน ซึ่งจะทำให้พวงมาลัยตีกลับอย่างรวดเร็วจนทำให้นิ้วหรือข้อมือได้รับบาดเจ็บได้

รู้จักรถและรู้จักใช้

บางครั้งคุณอาจคิดว่ารถของคุณสามารถข้ามหรือผ่านอุปสรรคเบื้องหน้าได้ แต่บางครั้งคุณอาจไม่แน่ใจ ดังนั้นจึงไม่ควรเสี่ยงโดยไม่จำเป็น การรู้ถึงขีดความสามารถของตัวรถ แรงบิดของเครื่องยนต์ มุมไต่ มุมคร่อม ความสูงของใต้ท้องรถและระบบช่วยเหลือต่างๆ จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจได้ถูกต้องและใช้งานรถได้อย่างเหมาะสม

เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์มาพร้อมระบบความปลอดภัย 9 ระบบที่ทำงานเชิงรุกตลอดเวลา อย่างระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวที่ช่วยควบคุมเสถียรภาพของตัวรถให้สามารถใช้ความเร็วสูงบนเส้นทางปกติและขับขี่อย่างปลอดภัยบนเส้นทางออฟโรด

การใช้คันเร่ง

ความผิดพลาดที่พบเห็นบ่อยครั้งบนเส้นทางออฟโรดคือการเร่งเครื่องยนต์มากเกินไป ทำให้ล้อหมุนฟรีและสูญเสียการควบคุม บางครั้งล้อจมลงในทรายหรือโคลนซึ่งทำให้ยากต่อการที่จะขับผ่านไปได้หรือยากต่อการควบคุมตัวรถ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS) ของเทรลเบลเซอร์จะลดพละกำลังของเครื่องยนต์และสั่งงานให้เบรกจับล้อที่หมุนฟรี ทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อให้สามารถขับขี่ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

ควบคุมขณะลงทางลาดชัน

การขับขี่ลงทางลาดชันบนเส้นทางออฟโรดอาจเป็นอันตราย ซึ่งจำเป็นต้องใช้ระบบพิเศษ อย่างระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (HDC) เมื่อลงทางลาดชันของเทรลเบลเซอร์ ซึ่งจะควบคุมการลงทางลาดชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าผู้ขับขี่กดเบรกมากเกินไป เบรกอาจล็อกและลื่นไถลทำให้ยากต่อการควบคุม ผู้เชี่ยวชาญในอดีตมักแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้เบรกและให้ใช้เครื่องยนต์เบรกหรือเกียร์อัตราทดความเร็วต่ำ (เกียร์ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4Lo) แต่สำหรับเทรลเบลเซอร์ ผู้ขับขี่เพียงกดสวิทช์ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อลงทางลาดชันเพื่อควบคุมตัวรถ ระบบนี้จะบังคับเบรกล้อทั้งสี่อย่างอิสระเพื่อจำกัดความเร็วไม่เกิน 7 กม./ชม. โดยผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมทิศทางได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย

ติดตั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสม

ผู้เชี่ยวชาญการขับขี่ออฟโรดแนะนำเครื่องมือและอุปกรณ์เสริมสำหรับการขับออฟโรด ในเส้นทางที่ทุรกันดารมากๆ ดังนี้

• ยางแบบ A/T ออฟโรด (และยางอะไหล่ขนาดเดียวกับล้อที่ใช้จริง)

• ที่วัดลมยาง ตัวปล่อยลมยางและชุดปั๊มเติมลมไฟฟ้า

• แม่แรง

• ชุดปฐมพยาบาลและถังดับเพลิง

• ชุดวินช์

• สายลากจูงและตัวลากจูง

• เครื่องมืออเนกประสงค์ พลั่วและขวาน

• วิทยุสื่อสาร

• เข็มทิศ

 ไฟฉายนำทาง

“บางคนอาจคิดว่าการใช้งานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและอุปกรณ์ต่างๆ ไม่จำเป็นสำหรับการขับขี่บนทางออฟโรด แต่ถ้าคุณทราบถึงวิธีการใช้งานอย่างถูกต้องและเหมาะสม คุณจะสามารถขับขี่บนทางออฟโรดได้อย่างปลอดภัยและนำพาคุณเปิดประสบการณ์บนเส้นทางใหม่ๆ ได้” คุณสุรมิสกล่าว

หลังเสร็จสิ้นกิจกรรมการขับออฟโรด ลูกค้าได้แบ่งปันความประทับใจในประสบการณ์ที่ได้รับ

“เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์มีสมรรถนะที่พร้อมในทุกโอกาส หลังจากได้ลองขับในเมืองและบนทางออฟโรดซึ่งต้องไต่ขึ้นทางชันเกือบ 90 องศา ผมพูดได้เลยว่าเทรลเบลเซอร์ถือเป็นรถพีพีวีที่น่าประทับใจครับ” กรธรา พุทธรักษา ลูกค้าเชฟโรเลต ครูซกล่าว

ขณะที่ร.ต.กัมปนาท ศรีคำ ลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถเชฟโรเลต ออพตร้า อาวีโอและโคโลราโดกล่าวว่า “ถือเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก ผมประทับใจทั้งทีมงานและผู้ร่วมทดสอบ โดยสิ่งที่ประทับใจที่สุดคือรถเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ซึ่งตอบโจทย์ที่ค้างคาใจผมได้ทั้งหมด และตอนนี้เทรลเบรเซอร์เข้ามานั่งในหัวใจผมเรียบร้อยแล้วครับ”