ปัญหา “ระบบเบรค” สังเกตุได้ง่ายๆ

คนใช้รถใช้ถนนแบบเรา ควรให้ความใส่ใจเกี่ยวกับระบบเบรคให้มากเป็นพิเศษ เพราะมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับความปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนนท่านอื่นๆ เพราะจากอุบัติเหตุหลายๆ ครั้งที่เกิดขึ้น มักจะสืบเนื่องกับระบบเบรคที่มีปัญหา ผมจึงอย่างนำวิธีการสังเกตุอาการผิดปกติของระบบเบรคมาแนะนำกันครับ

 “อาการเบรคต่ำ” คือ เมื่อเราเหยียบเบรคแล้วรู้สึกว่าต่ำกว่าปกติ หรือถ้าเป็นเบรคหลัง (ในบางรุ่น) จะรู้สึกว่าต้องดึงเบรคมือสูงกว่าปกติ นั่นแสดงว่าผ้าเบรคสึกหรอมากแล้ว 
 “มีไฟเตือนโชว์ (ไฟเบรคมือ)” ถ้าที่ตัวเรือนไมล์ มีไฟเบรคมือติดค้างเป็นสีแดง เกิดจากผ้าเบรคที่จับอยู่กับจานเบรคซึ่งทำหน้าที่หยุด มีอาการสึกหรอจนบางลงทำให้น้ำมันเบรคในกระปุกต่ำกว่าขีด  MIN ทำให้หน้าคอลแทคของสวิตช์ไฟในกระปุกน้ำมันเบรคไม่ต่อเนื่องกันไฟจึงโชว์ค้าง
 “มีเสียงดังเหมือนเหล็กสีกัน” ขณะเหยียบเบรค นั่นคือ ผ้าเบรคได้บางจนถึงตัวเตือนแล้ว (ผ้าเบรคฝั่งที่อยู่ติดกับลูกสูบเบรคจะมีแผ่นเหล็กทำหน้าที่เป็นตัวเตือน) ซึ่งถ้าผ้าเบรคบางน้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร แผ่นเหล็กตัวเตือนนี้จึงจะสีกับจานเบรค ทำให้ต้องรีบเปลี่ยนผ้าเบรคทันที

 

เมื่อคุณรู้ว่าเบรคใกล้จะหมดหรือหมดแล้ว ควรนำรถเข้ารับบริการเปลี่ยนผ้าเบรค และในการเปลี่ยนผ้าเบรค อาจต้องมีการเจียรจานเบรคเพิ่มขึ้นอีกด้วย หากช่างตรวจพบว่าตัวจานเบรคสึกเป็นร่อง เพื่อป้องกันอาการเสียงดังขณะเบรคตามมา หรือถ้าไม่เจียรจานอาจทำให้มีอาการสั่นขณะเบรคอีกด้วย ข้อควรปฏิบัติหลังจากเปลี่ยนผ้าเบรคแล้ว ไม่ควรขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง หรือขับตามคันหน้าอย่างกระชั้นชิด เพราะระบบเบรคยังได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรืออาจเบรคไม่ค่อยอยู่ เนื่องจากผ้าเบรคต้องมีการปรับหน้าสัมผัสให้เข้ากับจานเบรคสักระยะหนึ่งก่อน หรือต้อง Run in ผ้าเบรคก่อนนั้นเอง จึงควรใช้เบรคปกติ ไม่เบรคอย่างรุนแรง เพื่อให้เนื้อผ้าเบรคได้ปรับตัวอย่างช้าๆ ผ้าเบรคจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดอายุการใช้งานและลดปัญหาเรื่องเสียงดังด้วย
   

ฉะนั้นคุณควรหมั่นตรวจความพร้อมของระบบเบรคและหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของรถยนต์ให้ติดเป็นนิสัยเพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทางนะครับ


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |