PORSCHE 918 Spyder Prototype

เรื่องรักษ์สิ่งแวดล้อมในตอนนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องตระหนักกันให้มากๆ แต่หัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเร็ว พร้อมจะโบยบินกับความแรงที่เรียกร้องอยู่ทุกลมหายใจ PORSCHE ไม่รอช้าที่จะสนองตัณหากลุ่ม “รักษ์โลก รักความแรง” จึงส่ง 918 Spyder Prototype ขุมพลัง HYBRID 770 แรงม้า ออกมาเรียกน้ำย่อยก่อนขายจริงปลายปี 2013

PORSCHE เริ่มทดสอบ Supercar พลังไฮบริด Porsche 918 Spyder Prototype กันแล้ว โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตัวแข่ง 917 ตัวรถเป็นแบบ 2 ที่นั่ง หลังคา Targa 2 ชิ้น นำมาพัฒนาเส้นสายเกือบทั้งหมดตามสไตล์ Monocoque สร้างจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เรซิ่นพลาสติก ปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัยเล็กน้อย เช่น ไฟหน้า ชุดล้อ รวมถึงกระจกมองข้างที่ใหญ่ เช่นเดียวกับด้านท้ายที่ทันสมัยมีสไตล์มากยิ่งขึ้น และหลังคายังสามารถถอดออก โดยนำมาเก็บที่ช่องสัมภาระทางด้านหน้าของตัวรถได้ ส่วนความปลอดภัยติดตั้งโรลบาร์แบบตายตัว Fixed Roll-Over ป้องกันการบาดเจ็บยามพลิกคว่ำ ในขณะเปิดหลังคา
 
ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดแบบ Parallel ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ V8 วางกลางลำ ขยับความจุขึ้นเป็น 4.6 ลิตร จากเดิม 3.4 ลิตรในตัวคอนเซปท์ โดยกำลังสูงสุดจะมากกว่า 570 แรงม้า  จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ติดตั้งเอาไว้ที่เพลาหน้า – หลัง ด้านหน้ากำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (107 แรงม้า ) ด้านหลังกำลังสูงสุด 90 กิโลวัตต์ (121 แรงม้า ) กำลังรวมทั้งระบบ 770 แรงม้า 
 
โดย มอเตอร์ไฟฟ้าจะรับกระแสไฟจากแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 6.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ระบายความร้อนด้วยของเหลว พร้อมออฟชั่นระบบชาร์จไฟแบบปลั๊ก-อิน สามารถชาร์จเต็มได้ภายใน 2 ชม. ด้วยที่ชาร์จขนาดกะทัดรัด แน่นอนว่าระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรคที่ PORSCHE เรียกว่า Brake Energy Recuperation ต้องมีให้ใช้งานในขณะขับขี่ด้วยเช่นกัน
 
อัตราเร่งขณะออกตัวจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาที่ต่ำกว่า 3 วินาที และจากการทดสอบในเรื่องความเร็วสูงสุด ก็สามารถทำได้ถึง 325 กม./ชม. ส่วนในเรื่องความประหยัดก็สุดยอดเช่นกัน ประหยัดกว่าอีโค่คาร์ซะอีก  อัตราสิ้นเปลืองบริโภคน้ำมันก็อยู่ที่ 33.3 กิโลเมตร/ลิตร และยังปล่อยก๊าชมลพิษต่ำเพียง 70 กรัม/กม. อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนกำลัง 6.8 กิโลวัตต์/ชม. ยังสามารถขับเคลื่อนเจ้า 918 Spyder Prototype Version ให้ไปได้ไกลกว่า 25 กิโลเมตรด้วยความเร็วสูงสุดที่ 150 กม./ชม. ด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว 100%
 
ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ Double-wishbone พร้อมระบบ Electro-pneumatic lift ส่วนด้านหลังแบบ multi-link rear พร้อมระบบ Adaptive electromechanical ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าความเร็วระดับ 300 กม./ชม. จะรับไหวหรือไม่
 
  เซเลบฯ ไฮโซ “รักษ์แรง รักษ์โลก” คงต้องเตรียมเงินกันเอาไว้ เพราะคันจริงเตรียมเปิดสายการผลิตในช่วงเดือนกันยายน 2013 เพื่อให้ลูกค้าที่สั่งจองล๊อตแรกได้รับรถก่อนสิ้นปี 2013 นะครับ
 
{gallery}/article/2013/speeddycar/46{/gallery}

 

ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |