BMW in International Engine of the Year Award 2010

โพสต์เมื่อ 10 กรกฎาคม 2010 เวลา 6:54 น. หมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์ โดย ป๋าซุ่ม..ขยุ้มหัวใจ

BMW Group กวาด 4 รางวัลชนะเลิศในงาน International Engine of the Year Award 2010

มิวนิค/สตุ๊ตการ์ต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้รับรางวัลชนะเลิศถึง 4 รางวัลจากทั้งหมด 8 รางวัล ในงาน International Engine of the Year Award 2010 ที่จัดขึ้นที่เมืองสตุ๊ตการ์ต ประเทศเยอรมนี 

นี่เป็นอีกครั้งที่เครื่องยนต์เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics ที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของบีเอ็มดับเบิ้ลยู กรุ๊ป ได้คว้ารางวัลอันทรงเกียรติของงานประกวดเครื่องยนต์ที่สำคัญที่สุดในโลก ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 12 แล้ว 

ในปีนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ถึง 4 รางวัล ได้แก่:

(1) รางวัลชนะเลิศ – เครื่องยนต์คลาสความจุ 1.4-1.8 ลิตร: เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาดความจุ 1.6 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีระบบอัดอากาศ Twin Scroll Turbo สามารถผลิตกำลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ติดตั้งอยู่ในรถ MINI Cooper S

(2) รางวัลชนะเลิศ – เครื่องยนต์คลาสความจุ 1.8-2.0 ลิตร: เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาดความจุ 2.0 ลิตร พร้อมเทคโนโลยีระบบอัดอากาศ TwinPower Turbo สามารถผลิตกำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ติดตั้งอยู่ในรถ BMW X1 xDrive23d และ BMW 123d

(3) รางวัลชนะเลิศ – เครื่องยนต์คลาสความจุ 2.5-3.0 ลิตร: เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาดความจุ 3.0 ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีระบบอัดอากาศ TwinPower Turbo ที่ทำงานร่วมกับระบบวาล์แปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC และระบบฉีดน้ำมัน HPI High Precision Injection สามารถผลิตกำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ตั้งแต่ซีรีย์ 1 จนถึงซีรีย์ 7 ภายใต้รหัส 35i 

o ส่วนรางวัลรองชนะเลิศของคลาสนี้ก็เป็นเครื่องยนต์จากบีเอ็มดับเบิลยูเช่นกัน ได้แก่เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง ขนาดความจุ 3.0 ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผัน สามารถผลิตกำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ตั้งแต่ซีรีย์ 1 จนถึงซีรีย์ 7 ภายใต้รหัส 30d

(4) รางวัลชนะเลิศ – เครื่องยนต์คลาสความจุ 3.0-4.0 ลิตร: เครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 สูบ ขนาดความจุ 3.0 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ M Power สมรรถนะสูง สามารถผลิตกำลังสูงสุด 420 แรงม้า ที่ติดตั้งอยู่ในรถ BMW M3

ด้วยสมรรถนะและความประหยัดที่เหนือชั้นของเทคโนโลยี Efficient Dynamics ทำให้เครื่องยนต์ทั้งในระดับ 4 สูบ 6 สูบและ 8 สูบ สามารถชนะใจกรรมการได้อย่างขาดลอย สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาดความจุ 1.6 ลิตร ที่อยู่ในรถ MINI Cooper S นี้ ได้รับรางวัล International Engine of the Year Award นี้มาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และในฤดูร้อนที่ผ่านมา เครื่องยนต์นี้ได้รับการอัพเกรดให้มีสมรรถนะสูงยิ่งขึ้น พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันมากขึ้นและคายไอเสียน้อยลง ด้วยการนำเทคโนโลยีวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC ผนวกเข้ากับระบบอัดอากาศแบบ Twin Scroll Turbo เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ให้ดียิ่งขึ้นในทุกช่วงรอบเครื่องยนต์ โดยเครื่องยนต์ใหม่สามารถผลิตกำลังสูงสุดถึง 184 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 9 แรงม้า หรือ 5%) ในขณะที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 17.2 กิโลเมตรต่อลิตร (ดีขึ้น 7%) และค่าเฉลี่ยอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 149 กรัมต่อกิโลเมตร (ดีขึ้น 7%) ตามมาตรฐานการวัดค่าเฉลี่ย EU 

ส่วนเครื่องยนต์รหัส 35i ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาดความจุ 3.0 ลิตร ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศสำหรับคลาสความจุ 2.5-3.0 ลิตรนั้น จัดเป็นหนึ่งใน ‘เครื่องยนต์เบนซินที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก’ มันถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นจากเครื่องยนต์รหัส 35i ตัวเดิม ซึ่งเคยได้รับรางวัล International Engine of the Year Award มาแล้วถึง 3 ปีรวด ตั้งแต่ปี 2007, 2008 และ 2009 เครื่องยนต์ใหม่นี้ใช้เทคโนโลยีระบบอัดอากาศ TwinPower Turbo ที่ทำงานร่วมกับระบบวาล์แปรผันอัจฉริยะ VALVETRONIC และระบบฉีดน้ำมัน HPI High Precision Injection สามารถผลิตกำลังสูงสุด 306 แรงม้า และสามารถสร้างแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบเครื่องยนต์เพียง 1,200 รอบ เรื่อยไปจนถึง 5,000 รอบ 

สำหรับเครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่ติดตั้งอยู่ในรถ BMW M3 ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในคลาสความจุ 3.0-4.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบ V8 ขนาดความจุ 4.0 ลิตร สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 420 แรงม้านี้ ซึ่งได้รับรางวัล International Engine of the Year Award เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน นอกจาก BMW M3 จะโดดเด่นในด้านของสมรรถนะแล้ว ยังมีประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเป็นเลิศด้วยเทคโนโลยี EfficientDynamics เช่น ฟังก์ชั่น Auto Start / Stop, ระบบ Brake Energy Re-generation ที่นำพลังงานจากการเบรกมาปั่นไฟฟ้ามาเก็บสำรอง เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานที่ต้องผลิตโดยเครื่องยนต์ 

International Engine of the Year Award

ปีค.ศ. 2010 เป็นปีที่ 12 ของรางวัล International Engine of the Year Award ซึ่งจัดเป็นรางวัลที่สำคัญที่สุดในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ การตัดสินประกอบด้วยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ 65 ท่านจาก 35 ประเทศ โดยมีการจัดแบ่งการให้รางวัลเป็น 8 คลาส โดยแบ่งตามขนาดความจุของเครื่องยนต์และมีรางวัลพิเศษอีก 3 รางวัล

ในรอบ 12 ปีตั้งแต่มีการเริ่มจัดการประกวดเครื่องยนต์ของ International Engine of the Year Award บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ได้คว้ารางวัลชนะเลิศมาแล้วกว่า 50 รางวัล ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเหนือชั้นด้านวิศวกรรมของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปในด้านการพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี