รีวิว : HONDA Accord Minorchange ปรับรูปลักษณ์ขยับความหรูหรา

สวัสดีทุกท่านครับ ต่อจากนี้เรามาเข้าโหมดการทดสอบสมรรถนะรถยนต์ในคอลัมน์ iAMTEST กันดีกว่า ในปี 54 ที่ผ่านมา ผมดูยอดขายรถยนต์อยู่รุ่นหนึ่งในตระกูลของ HONDA ที่หลังจากทำการ  Minorchange ไปแล้ว สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าอย่างน่าสนใจ ผมจึงอยากลองพิสูจน์อีกครั้งหลังจากได้ ไปทดสอบเป็นกลุ่มมาแล้วครั้งหนึ่ง รถที่ผมพูดถึงคือ  HONDA Accord Minorchange 2011 ลองไปชมกันครับว่าเค้ามีดีอะไรถึงได้โดนใจผู้บริโภคอย่างเราๆ

 

ปรับ..นิดหน่อย แต่หรูหรา

ความงดงามของเจ้า HONDA Accord  บอดี้นี้ยังคงไว้เช่นเดิม แต่ก็มีการปรับรูปลักษณ์ขยับความหรูหราขึ้น ตั้งแต่กันชนหน้าที่ให้มุมมองความรู้สึกถึงความกลมกลืนกับตัวรถมากขึ้น พร้อมกระจังหน้าแบบใหม่ที่ลงตัวกับตัวรถมากกว่าเดิม ในส่วนของด้านท้ายบริเวณฝากระโปรงหลังมาใหม่ทั้งชุด โดยถอดมาจาก HONDA Inspire ที่ขายอยู่ที่ญี่ปุ่น (ในญี่ปุ่นใช้ชื่อรุ่น “Inspire” ในเมืองไทยใช้ชื่อรุ่น “Accord” ) แบบยกมาทั้งชุดเลยก็ว่าได้ สุดท้ายเป็นการเพิ่มแผงทับทิมไฟท้ายที่เน้นกรอบแบบโครเมี่ยม เพื่อยกระดับ New Accord ให้เป็นรถหรูอย่างเต็มตัว ในความรู้สึกผมโดยรวมไม่ได้แตกต่างออกไปมากนัก แต่ถ้ามองเป็นจุดๆของตัวรถ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ผมว่ามันทำให้รถดูหรูขึ้นครับ

 

ใส่ออฟชั่นตัว TOP

เปิดประตูเข้ามาชมภายในแล้วนั่งลงบนเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางที่มีมาให้ใหม่ ส่วนของโทนสีภายในและคอนโซลยังเป็นโทนสีดำ เพิ่มความหรูด้วยลายไม้สไตล์ Black Walnut  ตัดด้วยโครเมี่ยมเพิ่มความโดดเด่น ในจุดการตัดของโครเมี่ยมผมชอบมากครับ มันทำให้ดูมีอะไรมากขึ้น ไม่จืดชืด ส่วนพวงมาลัยจับถนัดมือดีครับ มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และควบคุมเครื่องเสียงมาให้ด้วย ที่โดดเด่นมี NAVI เป็นระบบนำทางเนวิเกเตอร์ ที่มาพร้อมกับเครื่องเล่น DVD และกล้องส่องภาพด้านหลังและฮาร์ดดิสก์สำหรับบันทึกไฟล์เพลง (HDD Audio) และระบบเครื่องเสียงแบบ Premium Sound System พร้อมความปลอดภัยถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ และระบบเซ็นเซอร์แบบ OPDS พร้อมกุญแจรีโมทแบบพับเก็บได้ สัญญาณกันขโมยในตัว นอกนั้นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ยังมีให้ครบเช่นเดิม

 

ไม่ร้อนแรง..แต่เพียงพอ

มาครับ..ได้เวลาแล้วกับการพิสูจน์สมรรถนะอีกครั้ง เครื่องยนต์เป็นแบบซิงเกิล โอเวอร์เฮด แคมชาฟท์ (SOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมวาล์วแปรผัน i-VTEC ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบอยู่ที่ 81 มม. ช่วงชักจะอยู่ที่ 96.9 มม. เมื่อคำนวณแล้วจะมีความจุอยู่ที่ 1,997 ซี.ซี. ส่วนแรงม้าจะอยู่ที่ 156 แรงม้า ซึ่งเครื่องยนต์ตัวนี้จะทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ 5 สปีด ซึ่งควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grade Logic Control พร้อมด้วย Direct Control และ New Shift Hold System ซึ่งก็เป็นแบบเดียวกับ 2.4 กับ 3.5 ลิตร ซึ่งจะแตกต่างกันก็ตรงที่ อัตราทดที่ต้องมาไล่เรียงใหม่ให้เหมาะสมตามขนาดเครื่องยนต์

 

การทดสอบแรงม้า

ในช่วงแรกของการทดสอบแรงม้าขนาด 150 ตัวโดยประมาณ ที่ขับเคลื่อนขนาดน้ำหนักรถประมาณตันครึ่ง เมื่อขับวิ่งวนเวียนใช้งานอยู่ในเมือง ยังให้ความคล่องตัวดี ไม่ช้าอืดอาด ในขณะเดินทางไกลเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ก็ให้พละกำลังในการเดินทางได้ดีทีเดียว การเดินทางของผมใช้ความเร็วอยู่ที่ 100-120 กม./ชม. จะใช้รอบเครื่องอยู่ที่ 2,000 และ 2,500 รอบ/นาที ส่วนความเร็วสูงสุดที่ทำได้นั้นอยู่ที่ 205 กม./ชม. ความเร็วปลายจะน้อยลงกว่ารุ่นก่อนนิดหน่อยเพราะล้อเปลี่ยนขนาดเป็น 17 นิ้ว ความเร็วขนาดนี้ก็ถือว่าเหลือเฟือและสวยหรูมากแล้วในการเดินทาง มาดูเรื่องอัตราการบริโภคน้ำมันนั้น ผมใช้ระยะทางการทดสอบ 412 กม. (นอกเมืองความเร็วเฉลี่ยประมาณ 100 กม./ชม.) เติมน้ำมันไป 1,390 บาท (E 20 ราคาลิตรละ 35.44 บาท) ซึ่งถือว่าอยู่ในอัตราที่รับได้ครับ

 

ปรับขนาดยาง..เพิ่มความมั่นใจ

มาทดสอบช่วงล่างดูบ้างครับ ในกลุ่มนักวิจารณ์รถยนต์ในเมืองไทย จะบอกว่าในรุ่นก่อนนี้เป็นล้อขอบ 16 นิ้ว หน้ายางยังแคบเกินไป แต่ในรุ่นนี้เป็นขอบ 17 แล้วเพิ่มขนาดยางเป็น 225/50 โดยใช้ระบบช่วงล่างเดิม คือ ด้านหน้านั้นจะเป็นแบบอิสระ แบบดับเบิลวิชโบน พร้อมเหล็กกันโคลง และในด้านหลังจะเป็นแบบอิสระ มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ฉะนั้นเราไปลองกันว่าจะดีขึ้นไหม

 

 

 

ประสิทธิภาพช่วงล่่าง

จริงๆแล้วผมไม่ห่วงในเรื่องของประสิทธิภาพช่วงล่่าง มากนัก เพราะช่วงล่างที่มารองรับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร นั้น เป็นช่วงล่างเดียวกันกับเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร ฉะนั้น..ชิวมากๆ แต่พอได้ลองขับแล้วก็ดีขึ้นจริงๆครับ แต่จะมีก็นิดนึงในส่วนของยางรถที่ให้มา ขออธิบายนิหน่อยแล้วกันครับว่า…เวลาที่เราเข้าโค้งไปด้วยความเร็วสูงๆ ช่วงล่างยังสามารถที่จะควบคุมได้ แต่ยางกลับทำให้รถไถลหลุดโค้งไป แต่อย่างว่าครับทางวิศวกรเค้าออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานแบบประหยัดน้ำมัน ฉะนั้นจึงต้องใช้ยางตระกูล “ประหยัดน้ำมัน”  แต่ถ้าความเร็วไม่สูงเกิน 160 ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ ในส่วนระบบเบรคไว้ใจได้แน่นอนครับ เพราะเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในตัวรถ V6 3.5 ซึ่งด้านหน้าจะเป็นดิสก์เบรคแบบมีช่องระบายความร้อน และในด้านหลังจะเป็นดิสก์เบรคแบบจานธรรมดา เพราะฉะนั้นก็หายห่วง ขนาด 275 แรงม้ายังเอาอยู่ แค่ 156 ม้าจะเบรคไม่อยู่ได้อย่างไร

 

   HONDA Accord Minorchange ราคาค่าตัว 1,420,000 บาท สิ่งที่คุณจะได้ คือ รถคันใหญ่นั่งสบาย ห้องโดยสารกว้างขวาง การขับขี่ก็ถือว่าดี เครื่องยนต์แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่เมื่อเปรีบเทียบกับรถไซด์เดียวกัน เครื่องยนต์ขนาด 2 ลิตรเหมือนกันก็ไม่เป็นรองใคร และยังให้อุปกรณ์เสริมใหม่ๆ เทียบเท่ากับตัว  TOP ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม ที่เหลือเป็นหน้าที่ของคุณที่จะเปรียบเทียบว่า “มันใช่..ที่คุณต้องการหรือไม่”

แท็กยี่ห้อรถยนต์ : Honda

แท็กฮิต : , , , , ,