รีวิว : New NISSAN March VL CVT ( นิสสัน มาร์ช ) เติมเต็มด้วยคอนเซ็ปต์ “ชีวิตคุณง่ายขึ้นได้อีก”

สัญลักษณ์ความเป็นผู้นำของ ECO Car เจ้าแรก NISSAN March สามารถทำให้คนไทยประจักษ์ด้วยสายตาและคุณภาพเป็นที่เรียบร้อย ด้วยยอดจำหน่ายที่ท่วมท้น แต่วันนี้ผู้นำต้องมีการพัฒนาเพื่อให้ครองใจผู้บริโภคเอาไว้ให้ได้ จึงเติมเต็มด้วยคอนเซ็ปต์ “ชีวิตคุณง่ายขึ้นได้อีก” ให้ New NISSAN March VL CVT ( นิสสัน มาร์ช ) มีความครบสมบรูณ์แบบในทุกๆ ด้าน แต่จะเติมเต็มในส่วนไหนบ้างตามผมมาชมกันครับ

 

ได้อีก…หนึ่งมุมมองที่เฉียบคม

ถ้ามองภายนอกขอจะเห็นได้ว่ามีความเปลี่ยนแปลงที่มากมาย สอดแทรกมิติที่ทันสมัยผ่านกระจังหน้าแบบ V-shape ขนาบไว้ด้วย ไฟหน้าแบบทูโทนและโครเมียม เพิ่มความสว่างยามค่ำคืนมากขึ้น กันชนหน้าออกแบบใหม่ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม พร้อมไฟตัดหมอกที่เน้นความหรูหรา ส่วนด้านท้ายเติมความงดงามด้วยสปอยเลอร์ที่ปลายหลังพร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED กันชนท้ายใส่เส้นสายที่คมกริบพร้อมซ่อนเซ็นเซอร์ถอยหลังไว้ด้านใน เน้นมนต์เสน่ห์ส่วนมุมมองด้านท้าย ด้วยไฟท้ายแบบ LED ซึ่งสามารถเพิ่มความสวยงามได้มาก คำถามสุดฮิตที่ผู้ใช้ March รุ่นก่อนหน้าถามถึงบ่อยๆ คือ ต้องการเปลี่ยนใส่ไฟท้าย LED ให้เหมือนรุ่นใหม่ ทำได้หรือไม่ คำตอบ คือ สามารถนำมาใส่กันได้นะครับ แต่ต้องเปลี่ยนกันชนตามไปด้วย ส่วนตัวผมการออกแบบเป็นการปรับโฉมที่สามารถสร้างความต่างได้มาก จากที่เคยเป็นรถเล็กๆ น่ารักๆ กลับกลายมาเป็นรถที่มีความหรูหรา และหล่อเท่ห์ มาดเข้มขรึม ขึ้นมาเลยทีเดียว ทำให้โดนใจหนุ่มๆ หลายคนมากขึ้น ทำให้เจาะกลุ่มลูกค้าคุณผู้ชายได้มากขึ้นไปอีก

 

ได้อีก…หลากหลายฟังก์ชั่น

ภายในใหม่คุมโทนด้วยสีเบจสอดรับความหรูหราของแผงคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black แผงแสดงผลหน้าจอล้อมกรอบด้วยโครเมี่ยม เพิ่มสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย และช่องเชื่อมต่อ USB ที่ใต้ช่องเก็บของด้านผู้โดยสารตอนหน้า ส่วนเบาะนั่งนอกจากได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นในด้านของวัสดุแล้ว ยังเพิ่มพนักผิงศรีษะเข้ามาให้ด้วย พื้นที่เก็บสัมภาระจุของได้ถึง 251 ลิตร เติมไฟในห้องเก็บสัมภาระ และเบาะหลังปรับแยกพับได้ 60:40 ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กระจายความเย็นให้ผู้โดยสารได้ทั้งคัน พร้อมฟังก์ชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กุญแจอัจฉริยะ ระบบป้องกันภัยโจรกรรมรถยนต์ Immobilizer กระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติ เมื่อล็อครถ เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุด และมาตรวัดอัจฉริยะที่มีความน่ารักซ้อนเอาไว้ตั้งแต่คุณสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะเมื่อคุณกดปุ่มสตาร์ทจะมีคำว่า “Hello” ขึ้นมาทักทาย เมื่อคุณกดปุ่มดับเครื่องยนต์ จะขึ้นเป็นคำว่า “Good Bye” มาบอกลาคุณก่อนลงจากรถ ที่สำคัญด้านความปลอดภัยมีโครงสร้าง Zone Body Concept ดีไซน์พิเศษให้รองรับแรงกระแทกจากการชน พร้อมกับถุงลม SRS คู่หน้า นอกจากนี้ยังคงจุดเด่นเรื่องทัศนวิสัยดีเยี่ยม ฟังก์ชั่นใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นถือว่าตอบโจทย์ในสิ่งที่ขาดหายไปในสิ่งที่ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการอย่างพอดิบพอดี

 

ได้อีก…ความคุ้มค่าของการใช้พลังงาน

เครื่องยนต์ HR12DE แบบ 3 สูบแถวเรียง DOHC 1,198 ซีซี. ที่สามารถสร้างแรงม้าสูงสุดได้ 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ที่ทำงานประสานกับระบบส่งกำลังเป็นระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT ยังประจำการณ์อยู่ใต้ฝาประโปรงหน้าเช่นเดิม เรื่องสมรรถนะการขับขี่หรืออัตราเร่ง ผมยังไม่ต้องทดสอบมากนัก เพราะผู้บริโภครู้จักพิษสงของเครื่องยนต์ HR12DE ที่ทำงานร่วมกับ XTRONIC CVT ว่าสามารถทำความเร็วปลายได้เกิน 170 กม./ชม. พร้อมความไหลลื่น นุ่มนวลที่ย่านความเร็ว แต่ที่ผมอยากทราบในการทดสอบครั้งนี้ คงเป็นเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองมากกว่า แต่จะให้วิ่งที่ความเร็วคงที่ 90 กม./ชม. คงทะลุ 20 กม./ลิตรแน่นอน แต่ถ้าเป็นคนเท้าหนักแบบผมล่ะ จะยังประหยัดน้ำมันอยู่หรือไม่ ผมจึงวางแผนการทดสอบเอาไว้ 322 กม. โดยเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดระยองและเดินทางกลับ ผมใช้ความเร็วคงที่ประมาณ 110 กม./ชม. ผลปรากฎออกมาว่าใช้เงินเติมน้ำมันไป 653 บาท (แก๊สโซฮอล 91 ลิตระ 38.58 บาท) ถ้าเปรียบเทียบแล้วก็ประมาณ 19 กม./ลิตร แต่มีเทคนิคการขับอยู่เล็กน้อยครับ เหยียบคันเร่งน้อยๆ ค่อยๆ ไต่ความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ พอได้ความเร็วที่ต้องการแล้วค่อยๆ ถอนเท้าออก แตะๆ เอาไว้แค่พอเลี้ยงความเร็วให้คงที่ไปเรื่อยๆ แค่นี้ก็จะได้สุดยอดความประหยัดจากเครื่องยนต์บล็อคนี้แล้วครับ

 

ได้อีก…หนึ่งวงเลี้ยวที่แสนแคบ

ระบบช่วงล่างที่อาศัยกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทและระบบกันสะเทือนด้านหลัง แบบทอร์ชั่นบีม ช่วยให้การขับขี่ของคุณนุ่มนวล พร้อมทั้งการทรงตัวที่ดี ที่สำคัญมีรัศมีวงเลี้ยวที่แคบมากเพียง 4.5 เมตรเท่านั้นเอง ทำให้การกลับรถที่แคบทำได้ง่ายมากขึ้น ในส่วนระบบเบรกมีการเสริม ABS ป้องกันล้อล็อค และระบบกระจายแรงเบรก EBD เพิ่มให้ด้วย และยังมีล้อลอยขนาด 15 นิ้วใหม่ที่ให้ทั้งความสวยงามและการเกาะถนนที่มากกว่าเดิม แถมขนาดหน้ายางที่เพิ่มมากขึ้นด้วยครับ

ราคารถยนต์ใหม่

New NISSAN March VL CVT ในราคา 555,000 บาท สำหรับผมแล้วเมื่อเปรียบเทียบในจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมถือว่าไม่มากจนเกินไปครับ เพราะฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นมาทั้งภายนอก ภายใน ถือว่าคุ้มเกินราคาครับ ที่สำคัญยังคงข้อดีที่มีอยู่เดิมไว้อย่างครบถ้วน