Nissan Motor Thailand (นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย) จัดให้งามๆ กับการมาถึงเมืองไทยของ Nissan GT-R (นิสสัน จีที-อาร์) 2018

โพสต์เมื่อ 23rd มีนาคม 2018 หมวดหมู่: รถใหม่ต่างประเทศ โดย Poyee Poyee

สิ้นสุดการรอคอยของสาวก “รถสปอร์ตสมรรถนะสูง” ซักที เมื่อ Nissan Motor Thailand (นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย) “เล่นใหญ่” นำของแรง Nissan GT-R (นิสสัน จีที-อาร์) 2018 มาทำตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ ส่วนสนนราคาเท่าไหร่ รอลุ้นได้หลังงานเปิดตัว

ปรับโฉม Nissan GT-R (นิสสัน จีที-อาร์) สู่เวอร์ชั่นปี 2018

สำหรับในเวอร์ชั่นนี้รูปลักษณ์ภายนอกได้รับการปรับโฉมใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสต์ ภายใต้ Keyword สำคัญ 3 ข้อ คือ Downforce Generation, Drag Reduction แล  Improved Cooling ทำให้ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศนั้นต่ำลงเหลือเพียง 0.26 Cd

ส่วนความเปลี่ยนแปลงหลักๆ ของรูปลักษณ์จะประกอบด้วย กระจังหน้า V-Motion อันเป็นสัญลักษณ์สำคัญของแบรนด์ ที่มีการปรับขยายขนาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุโครเมี่ยมแบบด้าน ตามด้วยฝากระโปรงหน้าที่ได้รับการดีไซน์ใหม่ เน้นความสปอร์ตด้วยเส้นสายที่คมชัด และเอื้ออำนวยต่อการไหลผ่านของกระแสลมได้ดีขึ้น ตามด้วยการเสริมสปอยเลอร์ใต้กันชนหน้าใหม่ที่ปรับขนาดให้ “บาง” ลง รับกับสเกิร์ตด้านข้างที่ออกแบบใหม่ ซึ่งทั้งหมดนั้นได้ช่วยลดแรงยก (Lift Force) ได้ดีขึ้น

ในขณะเดียวกันด้านหลังก็มีการออกแบบเสา C-Pillars ใหม่ เพื่อลดการเกิดกระแสลมหมุนวนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมด้วยการอัพเกรดความโดดเด่นเพิ่มเติมด้วยชุด Diffuser สี Silver, ช่องระบายอากาศด้านข้าง และท่อไอเสียทรงกลมคู่ทำจากวัสดุไททาเนียม เสถียรภาพการขับขี่ที่ดีขึ้นอีกระดับ โดยเฉพาะบนความเร็วสูง

ภายในห้องโดยสารนั้นมากับการเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อให้เป็นสปอร์ตสมรรถนะสูงแบบ Daily Use รวมถึงมีความหรูหรา ด้วยการเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยม เช่น หนัง Nappa พร้อมกับฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ยังคงติดตั้งมาให้อย่างครบครัน และใช้งานง่ายดายด้วยสวิทช์ควบคุมทั้งหมด 27 ปุ่ม ที่รวมเหลือเพียง 11 ปุ่ม โดยควบคุมผ่านฟังค์ชั่น NissanConnectSM บนหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว

อัพเกรดสมรรถนะใหม่ บนพื้นฐานขุมพลังเดิม

VR38DETT ยังคงเป็นรหัสเครื่องยนต์ของ นิสสัน จีที-อาร์ เวอร์ชั่นปี 2018 กับพื้นฐานขุมพลังเบนซินพิกัด 3.8 ลิตร แบบ V6 พร้อมระบบอัดอากาศ Twin-Turbo แต่ได้รับการอัพเกรดใหม่ จนได้พละกำลังใกล้เคียงกับเวอร์ชั่น Nissan GT-R NISMO โดยมีเรี่ยวแรงเพิ่มเติมมาอีก 20 แรงม้าเป็น 565 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 633 นิวตันเมตร

ระบบส่งกำลังยังคงเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด คลัทช์คู่ แต่ได้รับการปรับแต่งใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับพละกำลัง และครอบคลุมสไตล์การขับขี่ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ATTESA E-TS ด้วยเช่นกัน โดยระบบขับเคลื่อนนี้ในโหมดขับขี่แบบปกติ พละกำลังทั้งหมดจะถูกจัดสรรในอัตราส่วนหน้า-หลังแบบ 0:100 และจะแปรผันไปตามเงื่อนไขของการขับขี่ โดยมีอัตราส่วนสูงสุดอยู่ที่หน้า-หลัง 50:50

ระบบช่วงล่างของ ด้รับการพัฒนาโดย Bilstein โดยมาพร้อมระบบ DampTronic ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ด้วย 3 โหมดพื้นฐาน คือ Normal, Comfort และ R เสริมด้วยประสิทธิภาพของล้ออัลลอยด์น้ำหนักเบาจากค่าย RAYS ขนาด 20 นิ้ว พร้อมระบบเบรกจาก Brembo® ด้านหน้าขนาด 15.35 นิ้วจับคู่กับคาลิปเปอร์ 6 Pot และด้านหลังขนาด 15 นิ้ว คู่กับคาลิปเปอร์ 4 Pot

นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยที่เพิ่มเติมเข้ามา คือ ฟังค์ชั่น Advanced Vehicle Dynamic Control (VDC) สำหรับคอยควบคุมเสถียรภาพการขับขี่, ระบบ Electronic Traction Control System (TCS) กับหน้าที่ป้องกันล้อหมุนฟรี และการลื่นไถล ซึ่งทำงานควบคู่กับตัวช่วยมาตรฐาน

เรียกว่าจัดมาให้ “แน่น” ขนาดนี้ คงถูกใจเหล่าสาวกไม่น้อย สำหรับเวอร์ชั่นต่างประเทศ … แต่สำหรับเวอร์ชั่นไทย โดย Nissan Motor Thailand (นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย) ที่กำลังอุ่นเครื่องเตรียมจะเปิดตัวในอีกไม่กี่วันนี้จะเป็นยังไง เอาเป็นว่า “อดใจรอ” อีกนิดล่ะกัน