รีวิว : PROTON Preve PREMIUM ( โปรตอน เพรเว่ ) ซีดานที่ซ่อนความสปอร์ตในทุกอนู

ปลายปีที่ผ่านมา PROTON ได้ส่ง PROTON Preve PREMIUM ( โปรตอน เพรเว่ ) รถซีดานระดับพรีเมี่ยม ออกสู่สายตาคนไทย ซึ่งได้รับการตอบรับ จากผู้บริโภคที่หลงไหลนวัตกรรมจากประเทศมาเลเซีย ที่พัฒนาก้าวสู่ระบบสากล โดยอาศัยแนวคิดร่วมกับ Lotus ผมเองจึงอยากจะพิสูจน์ว่า Preve PREMIUM รุ่น Top ซีดานที่ซ่อนความสปอร์ตในทุกอนูจะมีสมรรถนะที่ดีขนาดไหน?

 

PROTON Preve’

อาจเป็นรุ่นที่ออกเสียงยากสักหน่อย “Preve : Pray-vay” หรือ “เพรเว่” เป็นคำที่มาจากภาษาอังกฤษ ให้ความหมายเดียวกับคำว่า “Prove” ซึ่งหมายถึง “การพิสูจน์” ภายนอกได้รับการออกแบบให้เส้นสายของตัวรถคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ เน้นการลดแรงเสียดทานจากอากาศ เพิ่มแรงกดเพื่อเสถียรภาพในการทรงตัวที่ดีขึ้น ในสไตล์สปอร์ตซีดานโดดเด่นด้วยกระจังหน้าสไตล์ใหม่ผสานความสปอร์ตและ ความหรูหราไว้อย่างลงตัว ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ พร้อมไฟ Day Time แบบ LED และ ไฟตัดหมอก ซึ่งสร้างความโดดเด่นให้มุมมองด้านหน้าได้ดีเยี่ยม กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้าที่สามารถพับเก็บเองเมื่อคุณล็อครถ และเปิดเองเมื่อคุณวิ่งที่ความเร็ว 5 กม./ชม. พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ส่วนในด้านท้ายเน้นความโฉบเฉี่ยวมีสปอยเลอร์ท้ายที่ช่วยสร้างแรงกดอากาศอากาศในความเร็วสูง ที่เก็บสัมภาระท้ายมีขนดความจุถึง 508 ลิตร

ได้รับคะแนนห้าดาวจากโครงการประเมินยานยนต์แห่งมาเลเซีย

Proton Preve’ เป็นรถโมเดลแรกที่ได้รับคะแนนห้าดาวจากโครงการประเมินยานยนต์แห่งมาเลเซีย (Malaysian Vehicle Assessment Programme -MyVAP) โดยสถาบันความปลอดภัยของท้องถนนแห่งมาเลเซีย (Malaysian Institute of Road Safety -MIROS) พร้อมทั้งได้ใบรับรองที่ได้มอบอย่างเป็นทางการแก่โปรตอนในงานเปิดตัว โดยศาสตราจารย์ ดร. วอง เชา วูน (Wong Shaw Voon ) ผู้อำนวยการของ MIROS ส่วนตัวผมการออกแบบในรุ่นนี้ถือว่าสร้างความต่างบนท้องถนนได้ดี ออกมาในแนวของสปอร์ตซีดานเต็มขั้น ยิ่งเรื่องความใส่ใจในหลักอากาศพลศาสตร์ มีอยู่ทุกจุดแม้กระทั่งแป้นกระจกมองข้างที่ทำเป็นครีบเพื่อลดการหมุนวนของอากาศ ทำให้สามารถลดแรงต้านจากลมปะทะได้มาก นอกจากช่วยในเรื่องการทรงตัวแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงอีกด้วย

 

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง

เบาะนั่งหน้า-หลังสามารถพับแยก 60:40 ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพิ่มความหรูหราด้วย พวงมาลัยหุ้มหนัง 3 ก้าน พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่น ระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ และ Paddle Shift โดดเด่นด้วยปุ่ม Push Start-Stop มาตรวัดเรือนไมล์แบบอนาล็อกทรงกลม 2 วง เว้นช่องตรงกลางให้กับหน้าจอดิสเพลย์ Smart Information Display system(SID) สามารถแสดงผลการใช้น้ำมันโดยเฉลี่ย คุณภาพแบตเตอรี่ และแสดงไฟเตือน สัญญาณการล็อคเกียร์ ไฟเตือนเมื่อจอด โดดเด่นทุกมุมมอง อ่านข้อมูลได้ง่ายในทุกสภาพแสง ซึ่งมาพร้อมชุดเครื่องเสียงวิทยุ CD/MP3 พร้อมช่องเสียบ USB/I Pod และยังสามารถเชื่อมต่อระบบ Bluetooth หน้าจอ LED ที่เชื่อมต่อระบบ GPS ระบบปรับอากาศแบบออโต้

 

 ความปลอดภัย

นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยรอบด้านประกอบไปด้วย ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยข้างเบาะโดยสารคู่หน้า ม่านถุงลม รวมแล้ว 6 จุด เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ Pre-tensioner ให้ความปลอดภัยสูง โดยรวมของภายในผมว่าเป็นซีดานที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ประทับใจเบาะนั่งที่ให้ความสบายสูง ที่สำคัญอุปกรณ์ต่างๆ ที่ให้มา Paddle Shift Navigator ใช้งานได้ง่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ดีครับ

เครื่องยนต์

วิจารณ์ทั้งภายใน ภายนอก ไปแล้ว แต่หัวใจสำคัญคงเป็นเรื่องเครื่องยนต์ ในรุ่น PREMIUM จะมีเครื่องยนต์ที่ต่างจากรุ่นอื่นๆ คือ เครื่องยนต์บล็อค CAMPRO CFE ( CamPro Charge Fuel Efficiency) แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงถึง 138 แรงม้า ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 205นิวตัน –เมตร ที่ 2,000-4,000 รอบต่อนาที ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 7 สปีด ดูจากสเป็คถือว่าน่าสนใจไม่น้อย และยังมีระบบเทอร์โบเข้ามาช่วยเรียกแรงม้าเพิ่มจากรุ่นปกติถึง 29 แรงม้า “เทอร์โบ” มีประโยชน์นอกจากจะช่วยให้สมรรถนะดีขึ้นแล้ว ยังสามารถเข้ามาช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมัน ในการใช้ความเร็วรอบต่ำอีกด้วย ซึ่งใน Proton Preve’ แสดงสมรรถนะออกมาอย่างชัดเจน เพราะในเรื่องอัตราเร่งดีขึ้นกว่ารุ่นไม่มีเทอร์โบอย่างชัดเจน ส่งผลต่อความสนุกในการขับขี่ขึ้นมามาก จนความเร็วปลายทะลุไปถึง 205 กม./ชม. ยิ่งคุณปรับโหมดเป็น “S” แล้วใช้ Paddle Shift ในการควบคุมเกียร์ อรรถรสในการขับขี่เร้าใจน้องๆ สปอร์ตเลยทีเดียว ในเรื่องความนิ่มนวลก็มีอยู่มาก เพราะระบบส่งกำลังเป็นแบบ CVT 7 สปีด ทำให้การเปลี่ยนจังหวะเกียร์ไม่กระชาก เปลี่ยนอย่างราบรื่น แต่รถหนึ่งคันจะไม่มีข้อเสียเลยคงเป็นไปไม่ได้ ในเรื่องของเครื่องยนต์ตัวนี้อาจจะมีเสียงเครื่องที่ดังไปหน่อย คิดในแง่ดี ก็ช่วยให้คุณสัมผัสความเร้าใจจากเสียงเครื่องยนต์ได้ด้วย เรื่องอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน วิ่งความเร็วเฉลี่ย 90 กม./ชม. สามารถทำได้ 16.20 กม./ลิตร ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจ

 

ช่วงล่าง

ช่วงล่างมาตรฐานในแบบเฉพาะของ Proton สร้างชื่อเสียงมานานนม ซึ่งเป็นระบบแม็กเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงด้านหน้า มัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลงด้านหลัง ระบบพวงมาลัย ไฮโดรลิคเพาเวอร์ ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ระบบ ควบคุมการทรง ESC (Electronic Stability Control ) ทำให้สมรรถนะและการทรงตัวยอดเยี่ยม บังคับควบคุมได้ง่าย พร้อมระบบความปลอดภัยสูงสุดระบบเบรก ABS และระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brakeforce Distribution) ทำหน้าที่กระจายแรงเบรกระหว่างล้อคู่หน้าและหลังได้อย่างสมดุลและแม่นยำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและหยุดรถได้อย่างปลอดภัยในทุกสภาวะบนท้องถนน ในเรื่องของช่วงล่างต้องยกให้ Proton อยู่แล้วครับว่าดี แต่ที่เพิ่มมาในรุ่นนี้ คือ ความนิ่มนวลที่เข้ามาช่วยยกระดับ PROTON Preve’ ให้พรีเมี่ยมมากขึ้น

ราคา 759,000 บาท สำหรับ PROTON Preve’ PREMIUM สำหรับผมถือว่าเป็นรถที่มี ช่วงล่างที่ดีเป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ร้อนแรง และบอดี้ยังสะท้อนถึงความหรูหรามีเอกลักษณ์ และออฟชั่นที่ให้มาเกินราคา แค่นี้ก็มีความคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย แต่จะดีสำหรับคุณหรือไม่ ลองไปสัมผัสเองทุกๆ โชว์รูมของ PROTON ทั่วประเทศ

 


บทความแนะนำ