รีวิว : Mitsubishi Triton 2014 ( มิตซูบิชิ ไทรทัน ) พร้อมหน้าจอใหม่ที่มี Navi คอยบอกเส้นทางในการเดินทาง

ถึงแม้จะเป็นตำนานที่ยาวนานของ MITSUBISHI สำหรับกระบะ 1 คันภายใต้ชื่อ Triton แต่ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงพัฒนาผลิตภัณฑ์ก็มีให้ลูกค้าใหม่ได้ตื่นตา ตื่นใจอยู่เสมอ ก่อนงาน Motor Expo ปีนี้ก็เช่นกัน ส่ง Mitsubishi Triton เวอร์ชั่น 2014 ( มิตซูบิชิ ไทรทัน ) ที่มีสีใหม่ พร้อมหน้าจอใหม่ที่มี Navi คอยบอกเส้นทางในการเดินทางที่ง่ายและสะดวกขึ้น

Mitsubishi Triton 2014

การเดินทางของ Mitsubishi Triton 2014 ในครั้งนี้ ถือว่าเป็น Test Drive แบบสบายๆ เหมือนไปหาที่ชิวเอ้าท์กับพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชน ช่วงเช้าตรู่สื่อมวลชน 7 หนุ่มบอยแบรนด์ พร้อมกันที่ฐานทัพใหญ่ของค่าย MITSUBISHI ย่านรังสิต โดยมีน้องๆ PR และพี่ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายผลิตภัณฑ์มาแนะนำ Mitsubishi Triton 2014 ว่ามีอะไรต่างจากเดิมบ้าง รถที่ใช้ทดสอบในครั้งนี้ตัวเด่นๆ ต้องยกให้ Triton PLUS Double Cab ที่มีความเปลี่ยนแปลงภายนอกด้วยสีพิเศษ “ไทเทเนียม” นอกจากนั้นยังคงใช้พื้นฐานความแข็งแกร่ง ดุดันเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นกันชนหน้าขนาดใหญ่ที่อาศัยกระจังหน้าแบบรังผึ้งสามารถมองเห็นอินเตอร์คูลเลอร์ที่ซ้อนอยู่ด้านใน ตัดขอบชายล่างของกระจังด้วยคิ้วโครเมี่ยม ขนาบไว้ด้วยไฟตัดหมอกเพื่อเพิ่มความปลอดภัยยามค่ำคืนทั้งด้านซ้ายและขวา มุมมองด้านข้างแต่งเติมความหรูหราด้วยกระจกมองข้างขนาดใหญ่สีโครเมี่ยมพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ในส่วนของคิ้วข้างประตูมีการดีไซน์ให้ดูคมเข้ม เพื่อให้ตัดกับความโค้งมนของตัวรถด้านข้าง และยังมีกันชนท้ายพร้อมบันไดขึ้น – ลง ที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

 

การออกแบบภายใน

เมื่อชมภายนอกกันไปแล้วออกเดินทางสู่ จ. จันทบุรีดีกว่า ระหว่างทางผมขอบรรยายเรื่องการออกแบบภายใน Triton Double Cab หรือในรุ่น 4 ประตู ที่มีตำแหน่งที่นั่งตอนหลัง เพราะลักษณะการออกแบบที่กว้างขวาง เบาะนั่งตอนหลังที่มีการวางองศาเอียงเล็กน้อยให้คล้ายกับการนั่งรถซีดานทั่วไป ทำให้การเดินทางไกลๆ ไม่เกิดอาการเมื่อยล้าแต่อย่างใด เพราะภายในรถ Triton ใหม่ ถือเป็นการพลิกโฉมภายในให้ออกมาในรูปแบบ “Luxury Pick Up” ด้วยอาศัยการคุมโทนสีดำตัดสลับความหรูกับสีโครเมียม ไล่มาดูที่พวงมาลัยแบบสามก้านสามารถปรับขึ้น – ลงได้ มีมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียงในก้านด้านซ้าย ด้านขวา และยังมีระบบควบคุมความเร็วคงที่อัตโนมัติ Cruise Control เพื่อลดความเหนื่อยล้าเวลาเดินทางไกล แต่พระเอกของความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ต้องยกให้จอภาพแบบ Wide Screen ขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบ IMT (Intelligent Magic Touch) และช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อม iPHONE & iPOD ได้อย่างง่ายดาย พร้อมระบบ Navigation คอยบอกเส้นทาง ตรงคอนโซลเกียร์จะเห็นเกียร์อัตโนมัติพร้อมระบบ Sportronic สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์แบบ (+) – (-) ด้วยตัวคุณเอง ขยับลงมาจะเป็นที่วางแก้ว 2 จุดพร้อมเบรกมือที่วางในตำแหน่งที่ใช้งานง่าย ที่สำคัญยังมีกล่องเก็บของที่สามารถเป็นที่เท้าแขนในตัว ด้านหลังเป็นเบาะหนังเช่นกัน ตรงกลางมีที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 จุดในตัว หากเราดูจากออฟชั่นที่ Triton ใหม่ ให้มา จะเห็นได้ว่าไม่ต่างอะไรกับรถซีดานหรูมากนัก ไม่นานเราก็เดินทางถึงคุ้มวิมาน อีกหนึ่งความงดงามของทะเลจันทบุรี

 

เครื่องยนต์

ระยะทางที่เราทดสอบกันมาประมาณเกือบ 300 กม. เจ้าเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic ที่สามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ ทำงานได้ดีมาตลอดเส้นทาง ในส่วนของอัตราเร่ง แม้จากหยุดนิ่งถึงรอบกลางจะไม่หนักหน่วงมากนัก แต่พอความเร็วถึง 90 กม./ชม. คราวนี้แหล่ะ…ไหลเป็นพายุเลยทีเดียว หันมองเรือนไมล์อีกทีปาเข้าไป 170 กม./ชม.แบบไม่ยากเย็น ที่สำคัญการปรับเปลี่ยนจังหวะของเกียร์ราบรื่นไม่กระชากให้รู้สึกรำคาน แต่เสน่ห์ที่มีมากกว่านั้น คือ ระบบ Sportronic เพราะนอกจากคุณจะปรับจังหวะของเกียร์ได้เอง โดยการผลักไปที่ด้านซ้ายจากตำแหน่ง “D” แล้วดันลงเป็นการลดเกียร์ และดันขึ้นเป็นการเพิ่มเกียร์ คุณยังสามารถเพิ่มความปลอดภัยจากระบบชุดนี้ได้อีกด้วย เช่น เวลาที่คุณขับด้วยความเร็วสูง แล้วมีรถตัดหน้าอย่างกระทันหัน หากคุณกระแทกเบรกแรงๆ เหมือนรถกระบะทั่วๆ ไป รถจะต้องเกิดอาการหมุนแน่นอน แต่หากคุณใช้ Sportronic ลดเกียร์ลงในลักษณะของเกียร์ธรรมดาที่ใช้แรงหน่วงจากเครื่องยนต์ เข้ามาช่วยเบรกก่อนที่จะเสริมแรงเบรกเข้าไป จะทำให้ตัวรถไม่มีการถ่ายเทน้ำหนักมาด้านหน้าเร็วเกินไปจนเกิดอาการท้ายเบาและปัดครับ หลังจากที่เราชื่นชมความงดงามคุ้มวิมานกันแบบอิ่มใจแล้ว เราก็เดินทางเข้าเมืองเพื่อไปชมโบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล

 

ระบบช่วงล่าง

แต่ระหว่างทางเป็นโค้งรูปแบบต่างๆ ระบบช่วงล่างอิสระ แบบปีกนกสองชั้น คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลงในด้านหน้า แหนบแผ่นซ้อนพร้อมช็อคอัพไขว้ในด้านหลังเป็นมนต์เสน่ห์ที่ MITSUBISHI วางไว้ให้ Triton ก็โชว์สมรรถนะให้เราเห็นทั้งความนิ่มนวลในการเดินทาง การยึดเกาะในทางตรง ทางโค้งที่ดี ที่สำคัญยังโชว์วงเลี้ยงได้แคบเพียง 5.9 เมตร เวลาที่เราต้องกลับรถอีกด้าน ระบบเบรกแบบดิสก์เบรกแบบมีช่องระบายความร้อนในด้านหน้า ดรัมเบรกในด้านหลัง เติมระบบป้องกันล้อล็อค ABS และระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรก EBD เข้าไป เท่านี้ก็สามารถหยุดรถได้อย่างมั่นใจแล้ว

 

สุดท้ายต้องขอบคุณ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เรา iAMCAR ได้ร่วมกิจกรรมดีๆ เช่นนี้เสมอมาครับ