สายกินตะลุย ตลาดหัวมุม ตลาดนัด ตอนค่ำย่านเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทราเพียง…สองร้อยบาท!! ก็สามารถ “อิ่มคุ้ม อร่อยเว่อร์”

โพสต์เมื่อ 10 มิถุนายน 2017 เวลา 19:58 น. หมวดหมู่: อร่อยริมทาง โดย iAMCAR Team

ตลาดหัวมุม ตลาดนัด ตอนค่ำย่านเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา ที่นี่เลื่องลือในเรื่องของอาหารการกิน ที่สายชิมไม่ควรพลาด ว่ากันว่าแม้เมนูอาหารและร้านค้าที่ตลาดหัวมุมนั้นจะมีหลากหลาย ซ้ำเมนูแต่ละอย่างก็ยั่วยวนชวนให้ลิ้มลอง แต่ว่า! ราคานั้นก็สูงงงงงงง (เสียงสูง) ใช้ได้อยู่เหมือนกัน iAMCAR จึงอยากชวนเพื่อนๆ ไปลองดู ว่าถ้าเราใช้งบประมาณ 200 บาท จะสามารถอิ่มอร่อยกับอะไรได้บ้างที่ตลาดหัวมุม

ขาแรง ปิ้งย่างหม่าล่า

: ขาแรงปิ้งย่างหม่าล่า

: เผ็ด…ร้อน…ถึงใจ

ขาแรงปิ้งย่างหม่าล่า

มาโดนกันที่ร้านแรกก่อนเลย เคยเห็นเพื่อนๆ ที่อยู่เชียงใหม่ โพสต์รูปอาหารปิ้งย่างที่คลุกเคล้าด้วยหม่าล่า ลงในโซลเชียลอยู่บ่อยๆ แต่ก็ยังไม่เคยได้ลองลิ้มรสชาติสักที โอกาสดีที่ตลาดหัวมุมแห่งนี้มีขาย ร้าน ปิ้งย่างหม่าล่าตั้งอยู่ต้นๆ ซอย โซนเวทีกิจกรรมของตลาดหัวมุม ฝั่งถนนประตูทางออกฝั่งถนนเกษตร-นวมินทร์ นั่นเอง

มาทำความรู้จักกับ หม่าล่า กันหน่อย “หม่า” แปลว่า “ชา” คำว่า “ล่า” แปลว่า “เผ็ด” ดังนั้น “หม่าล่า” จึงหมายถึงอาหารที่ทั้งเผ็ดทั้งชา หม่าล่า เป็นสูตรเครื่องเทศที่มาจากทางตอนใต้ของประเทศจีน ลักษณะเหมือนพริกป่นในไทยดีๆ นี่เอง สำหรับชาวจีนนั้น หม่าล่าสามารถนำไปกินได้กับทุกเมนู ทั้ง ต้ม ผัด ย่าง และชาวจีนนิยมนิยมกินหม่าล่ากับพวกเนื้อ โดยเฉพาะเนื้อแกะ เพราะหม่าล่าสามรถลดความคาวของเนื้อแกะ และชูรสให้แซ่บถึงทรวงนั้นเอง

ร้านขาแรง ปิ้งย่าง หม่าล่า ที่ตลาดหัวมุม จะนำหม่าล่ามาคลุกเคล้ากับ หมู, เนื้อ,ไส้กรอก, ไส้หมู, ลูกชิ้น, เห็ดเข็มทองพันเบคอน ฯลฯ ทางเราเลยขอจัด ไส้หมู, เบคอนพันเห็ดเข็มทอง และ หมู มาชิมให้ได้เข้าถึงรสชาติของหม่าล่ากันดู จึงรับรู้ได้ถึงความเผ็ดร้อน และชาลิ้น เหมือนสรรพคุณที่กล่าวอ้างไว้จริงๆ เป็นอีกประสบการณ์ใหม่ที่คนชอบกินเผ็ดน่าจะมีความสุข สนนราคาหม่าล่า 3 ไม้ 36 บาท คิดว่าเป้าหมายต่อไปควรจะต้องไปหาน้ำมาดับความเร้าร้อนในปากด่วน!!

มะพร้าวน้ำหอมปั่นนมสด

เดินตรงจากร้านหม่าล่า มุ่งหน้าไปยังโซนอาหาร เราก็จะพบร้านขายน้ำมะพร้าวปั่น ซึ่งร้านนี้เค้าบอกว่าใช้มะพร้าวน้ำหอมที่หวานชื่นใจเท่านั้น นำมาปั่นกับนมสดให้ได้ความมันกลมกล่อมและมีกลิ่มหอมของมะพร้าวเข้ามาเตะจมูก สามารถเลือกระดับความหวานได้ 3 ระดับ หวานน้อย, หวานปกติ และหวานพิเศษ ระดับราคาก็มีให้เลือก ไซส์ S ราคา 35 บาท, ไซส์ M ราคา 45 บาท และ ไซส์ L ราคา 60 บาท เลือกขนาดตามกำลังของกระเพาะได้เลย ทางเรานั้นเป็นเพียงคนตัวเล็กๆ น่าถนอม ขอลองไซส์ S มาดื่มให้ชื่นใจดูก่อน จ่ายพ่อค้าหน้าหวานไป 35 บาท พร้อมเดิมไปหาเป้าหมายต่อไปในตลาดหัวมุมต่อเลยเพราะน้ำย่อยเริ่มทำงานแล้ววววว…

โจอี้ ไข่เจียวซิ่ง

เดินตรงจากร้านมะพร้าวปั่นนมสดมาอีกหน่อย ก็ได้กลิ่นหอมลอยมาเตะจมูก เดินไปดูใกล้ก็พบชายหนุ่มคมเข้มยืนเจียวไข่แบบคล่องแคล่ว ร้านโจอี้ ไข่เจียว แห่งตลาดหัวมุมนี้ มีคนมายินรอคิวแน่นแทบทุกวัน แม้ใครจะบอกว่าเป็นเมนูง่ายๆ ทำกินเองที่บ้านก็ได้ แต่จะบอกว่า ถ้ามาทานที่ร้านโจอี้ ไข่เจียงซิ่ง แห่งนี้ คุณจะสามารถเลือกท็อปปิ้งใส่ไข่ได้หลากหลาย และทีเด็ดของร้านคือ หมูทอด บอกเลยว่าต้องเพิ่มมาในจาน ทานคู่กับไข่เจียวร้อนๆ กลิ่มหอมๆ จะฟินมากเลยทีเดียว แถมที่ร้านยังจัดน้ำพริกกะปิ, น้ำจิ้มแจ่ว, น้ำพริกน้ำปลา ให้เติมเพิ่มอรรรถรสในการรับประทานไข่เจียวให้เอร็ดอร่อยไปอีกขั้น รับรองเลยว่ามันดีจริงๆ ไม่ต้องไปยุ่งยากทำเองให้เหนื่อย จ่ายๆ เค้าไปเถอะ เพราะจานนี้เพียง 35 บาทเท่านั้น เพิ่มหมูทอดเข้าไปก็เพิ่มเงินไปอีก10-20 บาท อิ่มไปถึงพรุ่งนี้เช้าเลยค่าคุณณณณ

แต่กระเพาะเราขยายแล้ว เราคิดว่าเราต้องไปต่อ เพราะมีสำนวนไทยกล่าวไว้ว่า “กินคาวไม่กินหวาน…สันดานไพร่” ดังนั้นจึงต้องจัดของหวานล้างปาก ให้ครบสูตรกันไปตามแบบฉบับสายกินตัวแม่!

I’am Toasted I’am Toasted

ร้านขนมปังเก๋ไก๋สไตล์อินดี้ อยู่ติดกับร้าน โจอี้ ไข่เจียวซิ่ง นี่แหละ กลิ่นขนมปังปิ้งช่างยั่วยวนใจยิ่งนัก มีให้เลือกความอร่อยนับสิบๆ หน้า หรืออยากออกแบบหน้าที่คุณชอบก็สั่งได้ พ่อค้าใจดีมีแต่รอยยิ้ม ในส่วนทางเราขอสั่งหน้ายอดนิยม กล้วยหอมช็อคโกแลต ราดด้วยนมข้นและช็อคโกแลตเข้มๆ มันช่างเข้ากั๊น…เข้ากัน ร้านนี้เค้าเลือกใช้แต่วัตถุดิบที่ดี และยังมีเมนูเครื่องดื่มหลากหลายให้เลือกมาทานคู่กับขนมปังปิ้งด้วยนะ แต่น้ำมะพร้าวปั่นนมสดยังไม่หมด ต้องรับผิดชอบก่อน เพราะสายกินตัวแม่ต้องไม่กินทิ้งกินขว้าง มันเสียของ เสียดายตังค์! ว่าแล้วก็จ่ายเงินค่าขนมปังปิ้งกล้วยหอมช็อคโกแลตไป 30 บาท นั่งชิวเพลินๆ สักพัก สายตาก็อดไปโฟกัสที่ร้านฝั่งตรงข้ามไม่ได้ คิวจะยาวไปไหนนักหนา ว่าแล้วเดินไปดูหน่อยซิ๊!!!

หนังไก่กรอบ ซุปเปอร์ฮีโร่

โอ้ว…แม่เจ้า เป็นอีกหนึ่งร้านของตลาดหัวมุม ที่ประชาชนจะนิยมอะไรขนาดนี้ ส่วนเรา…พอรู้ตัวอีกทีก็เผลอไปต่อคิวกับเค้าซะแล้ว ร้านนี้เค้าการันตีเรื่องความกรอบของหนังไก่ ด้วยสูตรการทอดของทางร้านที่กล้ารับประกันว่าหนังไก่นั้นสามารถคงความกรอบได้เป็นเดือนๆ เชียวน๊าาา…สามารถเพิ่มความอร่อยด้วยการเลือกคลุกเคล้ากับรสชาติที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็น รสชีส, รสลาบ, รสต้มยำ และรสสมุนไพร สนนราคา 50 บาท เราเลือกทานรสดั้งเดิม รสชาตินั้นก็ออกจะเค็มนิดๆ มันหน่อยๆ แต่ความกรอบนั้นเป็นดั่งคำโฆษณานี่คืออีกมิติใหม่ของเมนูคบเคี้ยวที่พลิกแพลงสูตรและเติมความน่าสนใจจนเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้าได้ดีทีเดียว…ไม่น่าเชื่อว่าเดินไป ชิมไป แค่นี้ก็ทำให้ท้องหนักหน่วงเหมือนถ่วงไว้ด้วยหิน สายกินตัวแม่คงต้องรามือแต่เพียงเท่านี้