Mercedes-benzเปิดตัว The new E-Class ครั้งแรกในอาเซียน

The new E-Class

พบกับ The new E-Class ถึงสามรุ่นใหม่ ได้แก่ E 200 Executive, E 300 BlueTEC HYBRID Executive และ E 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่เร้าใจมากขึ้นและเต็มไปด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่า The new E-Class มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินใหม่และ เครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้เทคโนโลยี BlueTEC HYBRID ที่ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด พบกับ Concept Style Coupé ต้นแบบนวัตกรรมพรีเมี่ยมคอมแพ็คคาร์คูเป้สี่ประตู ลุ้นรับ CLS 500 Shooting Brake มูลค่า 9.45 ล้านบาท สำหรับทุกท่านที่จองรถในงาน 

 

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสานต่อความเป็นผู้นำตลาดรถหรู เผยโฉมยนตรกรรมใหมล่าสุด The new E-Class ครั้งแรกในอาเซียน และรถยนต์ต้นแบบ Concept Style Coupé พร้อมด้วยขบวนรถเมอร์เซเดส-เบนซ์อีก 22 รุ่นครบทุกเซ็กเม้นท์ ซึ่ง The new E-Class จะเปิดตัวในงานนี้ถึง 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ E 200 Executive, E 300 BlueTEC HYBRID Executive และ E 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic โดย The new E-Class มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินใหม่ และเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี BlueTEC HYBRID ที่ให้สมรรถนะและขุมพลังมากขึ้น พร้อมระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย รวมถึงการออกแบบดีไซน์รูปลักษณ์ใหม่ตอกย้ำให้รถยนต์ E-Class ใหม่ยังคงครองความเป็นผู้นำในตลาดรถหรูอย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบ ช่วยเตือนการขับรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping Assist) จะช่วยปกป้องจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการขับข้ามเลน ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นรถยนต์ที่ขับขี่ปลอดภัยอย่างชาญฉลาดหรือ intelligent drive
ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทย เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอรถยนต์ที่หลากหลายและตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภค โดยในปีนี้เราได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับการจัดแสดงสุดยอดยนตรกรรมที่เปี่ยมไปด้วยดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรูหรา สง่างามมีระดับ และประหยัดพลังงาน ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ไว้อย่างยิ่งใหญ่ในฐานะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นผู้นำนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต โดยบูธของเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้สะท้อนถึงปรัชญาของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ว่า “The best or nothing” นอกจากนั้นในปีนี้ภายในบูธยังได้คงคอนเซ็ปต์ให้ดูทันสมัย สะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกความเป็นสปอร์ต โฉบเฉี่ยว มีสไตล์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา โดยไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในปีนี้ คือ การเปิดตัว The new E-Class สุดยอดยนตรกรรมหรูซีดานให้คนไทยได้ยลโฉมกันเป็นครั้งแรกในอาเซียน ได้แก่ E 200 Executive E 300 BlueTEC HYBRID Executive และ E 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic โดยมาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ทั้งเบนซินและดีเซลไฮบริด ซึ่งเป็นครั้งแรกของรถยนต์พรีเมี่ยมในไทย พร้อมกับการนำเสนอรถยนต์ต้นแบบ Concept Style Coupé ซึ่งนับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในกลุ่มรถยนต์พรีเมี่ยมคอมแพ็คคาร์ในสไตล์คูเป้สี่ประตูในประเทศไทย ซึ่งเราหวังว่าทุกท่านคงตื่นตาตื่นใจและเพลิดเพลินไปกับการสัมผัสยนตรกรรมใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยดีไซน์อันล้ำสมัย และยังคงไว้ซึ่งความหรูหราในแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์”

 

 

 The new E-Class: สุดยอดยนตรกรรมซีดานหรูอัจฉริยะโฉมใหม่

เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new E-Class ยนตรกรรมหรูที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน เน้นความเป็นสปอร์ตมากขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกด้านหน้าที่ปรับเปลี่ยนมากที่สุดคือแผงกระจังหน้าและโคมไฟคู่หน้า โดยกระจังหน้าในรุ่นตกแต่งแบบ Executive เป็นแบบลาย 3 แถบพร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บนฝากระโปรงหน้า และในรุ่นที่ตกแต่งแบบ AMG Dynamic จะเป็นกระจังหน้าลาย 2 แถบพร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ดวงใหญ่ตรงกลาง ส่วนลายเส้นนูนด้านข้างได้รับการดีไซน์ใหม่ให้เกิดพริ้วไหวและมิติด้านข้างสวยงาม ทำให้สัดส่วนรถดูยาวและหรูหราขึ้น พร้อมกับโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียวในขณะเดียวกัน ที่โดดเด่นคือการนำไฟแบบ LED มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ไฟหน้าเป็นแบบ LED High Performance ไฟท้ายแบบ LED fibre-optic โคมไฟคู่หน้าได้รับการออกแบบใหม่หมด โดยรวมชุดไฟ LED ทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวอาทิ ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟเลี้ยว และไฟ daytime ทำให้เกิดลายเส้นกราฟฟิคสวยงามสะดุดตามากขึ้นซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกด้วยเช่นกันที่โคมไฟแบบ LED ได้รับการออกแบบให้อยู่รวมในกรอบเดียวกัน และยังคงเป็นการสื่อถึง “ไฟคู่หน้า” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ดั้งเดิมของ E-Class ไว้เหมือนเดิมอีกด้วย
ภายในห้องโดยสารมีการปรับให้มีความผสานกลมกลืนสวยงามเข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกที่ปรับเปลี่ยนไป โดยการคัดสรรค์วัสดุชั้นดีมีคุณภาพสูงมาใช้ให้ดูหรูหราขึ้น ส่วนเบาะหุ้มหนัง พร้อมด้วยพนักพิงศีรษะคู่หน้าแบบ NECK-PRO head restraints รวมถึงแผงคอนโซลหน้าพร้อมลายไม้แบบ high-gloss brown eucalyptus, high-gloss brown burr walnut หรือ high-gloss black ash wood นาฬิกาได้รับการดีไซน์เป็นแบบอนาล็อกอยู่ระหว่างช่องระบายความเย็นเครื่องปรับอากาศ ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบ THERMATIC นอกจากนั้นยังมีระบบมัลติมีเดีย COMAND Online ควบคุมการทำงานของวิทยุและดีวีดี สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พร้อม controller และระบบนำทาง (navigation system) ในรุ่น E 300 BlueTEC HYBRID Executive และ E 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic เพื่อให้ความเพลิดเพลินบันเทิงใจขณะขับขี่ รวมทั้งระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านบลูทูธ เพื่อให้ความสะดวกสบายในการสื่อสารมากยิ่งขึ้น

 

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ The new E-Class มาพร้อมกับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยใหม่ที่ผสานความสะดวกสบายและความปลอดภัยเข้าไว้ด้วยกันซึ่งเรียกว่าระบบ “Intelligent Drive” เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รับความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบการช่วยเหลือและระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้ The new E-Class เป็นยานยนต์ที่มีความปลอดภัยมากที่สุดคันหนึ่งในเซ็กเม้นท์นี้ โดยระบบดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากแนวคิดการปกป้องก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกันภายใต้ระบบควบคุมอัจฉริยะเพียงหนึ่งเดียวที่ทำงานสอดประสานกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE® system) เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 5 ที่นั่งทั้งคู่หน้าและคู่หลังแบบผ่อนแรงและรั้งกลับอัตโนมัติ พนักพิงศีรษะคู่หน้าแบบ NECK-PRO head restraints ที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บกรณีที่ถูกชนจากด้านหลัง ถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง พร้อมเซ็นเซอร์วัดแรงปะทะและการคาดเข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 4 ตำแหน่ง ม่านถุงลมนิรภัยป้องกันศีรษะ ถุงลมนิรภัยบริเวณสะโพก 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ซึ่งช่วยเสริมการปกป้องให้มีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนั้นยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบช่วยเตือนการขับรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping Assist) และระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Active Parking Assist)
 

เครื่องยนต์ใหม่ : โดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
The new E-Class มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินใหม่ แถวเรียง 4 สูบ ที่ทรงพลังเต็มไปด้วยสมรรถนะและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยมีหัวฉีดชนิด piezo ซึ่งฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรง ด้วยแรงดันเชื้อเพลิงสูงสุดอยู่ที่ 200 บาร์ และเป็นเทคโนโลยีแบบเดียวกันที่ใช้กับเครื่องยนต์ V6 และ V8 รุ่นใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยได้นำมาใช้กับเครื่องยนต์ 4 สูบเป็นครั้งแรก นอกจากนี้เทคโนโลยีที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่นี้รวมถึงจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงและจุดระเบิดแบบหลายครั้งติดต่อกันตรงสู่ห้องเผาไหม้ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ขึ้น ระบบช่วยประจุอากาศด้วยเทอร์โบชาร์ทเจอร์ เพลาลูกเบี้ยวที่สามารถปรับองศาการเปิด-ปิดของวาล์วไอดีและ ไอเสีย รวมถึงการควบคุมแรงดันของปั๊มน้ำมันเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ ส่งผลให้เครื่องยนต์ใหม่มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นโดยจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 16.39-17.24 กม. /ลิตร หรือคิดเป็น 2.31-2.43 บาท/กม. (คำนวณจากราคาน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 ณ วันที่ 11 มีนาคม 2556) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 135-142 กรัม/กม.

 

ในขณะที่เครื่องยนต์แบบดีเซลไฮบริด ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทยเป็นเจ้าแรกของรถยนต์หรูที่นำ เทคโนโลยี BlueTEC HYBRID มาเปิดตัวในตลาดรถยนต์ในไทย โดย BlueTEC HYBRID เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งเป็นการผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลกับมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานและให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ด้วยเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง การออกสตาร์ทที่เงียบ และช่วยลดการสันดาปของเครื่องยนต์ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง 23.81-24.39 กม./ลิตร หรือคิดเป็น 1.23-1.26 บาท/กม. เท่านั้น (คำนวณจากราคาน้ำมันดีเซล ณ วันที่ 11 มีนาคม 2556) และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 107-110 กรัม/กม. โดยเครื่องยนต์ทั้งแบบเบนซินและดีเซลไฮบริดถ่ายทอดผ่านกำลังเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ (7G-TRONIC PLUS) พร้อมด้วยฟังก์ชั่น ECO Start/Stop โดยใช้พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ DIRECT SELECT พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย 

 

 

 

Concept Style Coupé: ต้นแบบนวัตกรรมพรีเมี่ยมคอมแพ็คคาร์คูเป้สี่ประตู

Concept Style Coupé เป็นยนตรกรรมที่ฉีกกฎเซ็กเม้นต์คอมแพ็คคาร์แบบเดิม ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ในสไตล์สปอร์ตคูเป้ 4 ประตู แสดงออกถึงพลังแห่งความคล่องแคล่วปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว ทรงพลังในทุกอณู ด้วยมุมมองด้านข้างที่ดึงดูดสายตาด้วยแนวเส้นที่เฉียบคม 3 เส้นให้ความรู้สึกพริ้วไหว อิสระ รวมถึงหลังคาแบบพาโนรามิค ส่วนกระจังหน้าเป็นแบบ diamond grille ที่นำมาจาก Concept A-Class ยังคงความดุดัน ประกอบกับดีไซน์ฝากระโปรงที่ดูเฉียบคมและโคมไฟหน้าใหม่ที่มีความงดงามในทุกมิติและดูราวกับดวงตาของนักล่า บวกกับการตกแต่งภายในที่ โดดเด่นด้วยแผงคอนโซลด้านหน้าที่บุด้วยหนังนูบัคสีขาว ตัดกับผิวของแผงหน้าปัดเคลือบผิวด้วยวัสดุผสม Alcantara® ในขณะที่รูปทรงของช่องปรับอากาศที่อยู่บนแผงคอนโซลถูกออกแบบมาให้มีลักษณะคล้ายกับเครื่องยนต์ไอพ่นขนาดเล็ก รวมทั้งยังมีระบบ COMAND Online ที่ได้เพิ่มนวัตกรรมใหม่ cloud computing ที่สามารถประมวลผลอิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดย Concept Style Coupé มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบไดเรคอินเจคชั่นและเทอร์โบชาร์จ ที่พัฒนาให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 155 กิโลวัตต์/211 แรงม้า ใช้ระบบส่งกำลังแบบคลัชท์คู่เดินหน้า 7 จังหวะ (7G-DCT) และระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โดยล่าสุด Concept Style Coupé เพิ่งได้รับรางวัล “iF product design award 2013” ซึ่งเป็นรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมระดับโลก ซึ่งเป็นเสมือนตราสัญลักษณ์รับรองงานออกแบบที่สำคัญและตอกย้ำความสำเร็จรวมถึงความโดดเด่นในผลิตภัณฑ์ด้วย
ยนตรกรรมอื่นๆ ในบูธเมอร์เซเดส-เบนซ์
นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังได้เตรียมขนขบวนสุดยอดยนตรกรรมรวมทั้งสิ้นกว่า 22 คันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล รวมถึงเครื่องยนต์ดีเซลไฮบริด ไม่ว่าจะเป็นตระกูล C-Class, E-Class, S-Class และรถนำเข้ารุ่นอื่นๆ อาทิ C 180 Coupé, M-Class, SLK 200, CLS Coupé, CLS Shooting Brake, Viano และ Vito รวมทั้ง The new A-Class คอมแพ็คคาร์เจเนอเรชั่นใหม่ ได้แก่ A 180 Style และ A 250 AMG Sport รวมถึงทางเลือกใหม่สำหรับคอมแพ็คคาร์แบบสปอร์ตที่มีให้เลือกทั้ง B 200 Sport และ B 180 Sport ใหม่ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาด 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 122 แรงม้า ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตรที่ 1,250 – 4,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ภายในระยะเวลา 10.2 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย 17.1 กม./ลิตรใช้ระบบส่งกำลังแบบคลัชท์คู่เดินหน้า 7 จังหวะ (7G-DCT)

 

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้า
นอกเหนือจากขบวนรถยนต์มากมายที่นำมาจัดแสดงในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์แล้ว เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังจัดข้อเสนอพิเศษสุดเพื่อเป็นการขอบคุณแก่ท่านลูกค้าดังนี้
สำหรับผู้สั่งซื้อรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ใหม่ทุกรุ่นระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 7 เมษายน 2556 จะได้รับสิทธิ์ร่วมลุ้นเป็นผู้โชคดี ได้รับ CLS 500 Shooting Brake มูลค่า 9.45 ล้านบาท
ข้อเสนอทางการเงินพิเศษโดยเมอร์เซเดส-เบนซ์ ลิสซิ่ง สำหรับลูกค้าที่ซื้อ The New A-Class เพย์เม้นท์ฮอลิเดย์ (Payment Holiday) การเช่าซื้อแบบมีบอลลูนสำหรับระยะเวลา 60 เดือน ลูกค้าสามารถชำระค่างวดเพียง 1% ของราคารถยนต์ เริ่มต้นที่ 18,900 บาท/เดือน สำหรับ A180 style และ 24,900 บาท/เดือน สำหรับ A 250 AMG Sport พร้อมโบนัสพิเศษในการพักชำระค่างวด 4 เดือน นอกจากนี้ ลูกค้าเก่าที่ทำสัญญาฉบับใหม่กับบริษัทฯ รับฟรีบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม – 30 มิถุนายน 2556

 

เมอร์เซเดส-เบนซ์ โพรเทกชั่น แผนประกันภัยสำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ และเลือกซื้อแผนประกันภัยของ เมอร์เดส-เบนซ์ โพรเทกชั่น แพ็คเกจ Extended Protection หรือ แพ็คเกจ Advanced Protection รับสิทธิ์รถยนต์ทดแทนเมอร์เซเดส-เบนซ์ระหว่างที่รถยนต์ของท่านเข้าศูนย์บริการ
  

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขอเชิญท่านพบกับขบวนสุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดและยนตรกรรมหลากหลายรุ่นที่มาพร้อมกับเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมในงานบางกอก อินเตอร์ เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 34 ได้ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม ถึง 7 เมษายน 2556 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี

 


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |