CLS 300d AMG Premium เวอร์ชั่นประกอบไทย … เปิดราคาสุดเซอร์ไพรส์ โดย Mercedes-Benz Thailand

โพสต์เมื่อ 22 มกราคม 2019 เวลา 16:38 น. หมวดหมู่: รถใหม่ในประเทศ โดย Poyee Poyee

Mercedes-Benz Thailand (บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด) เปิดฉากศักราช 2019 เอาใจสาวกดาวสามแฉกเมืองไทย ส่งตรง CLS 300d AMG Premium เวอร์ชั่นประกอบไทย เปิดค่าตัวเร้าใจที่ 4,390,000 บาท

ตำนานบทใหม่แห่ง ประวัติศาสตร์งานดีไซน์

CLS 300d AMG Premium มากับฐานะของยนตรกรรม 4 ประตูขนาดใหญ่ ผสมผสานด้วยงานดีไซน์ที่มีความสปอร์ตในสไตล์ Coupe ภายใต้หลักอากาศพลศาสตร์ จนได้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำเพียง 0.26 Cd. ตลอดจนลงตัวกับความหรูหราในแบบฉบับค่ายดาวสามแฉก

ด้วยองค์ประกอบด้านรูปลักษณ์ เช่น กระจังหน้า Panamericana แบบ Diamond Grille ที่มีความโดดเด่นของตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz อยู่กึ่งกลาง รับกับการใช้เส้นสายเพื่อให้เกิดอารมณ์ของความกว้าง และทรงพลังคล้ายกับลักษณะของ Mercedes-AMG GT

รวมไปถึงการอัพเกรดความสปอร์ตเต็มขั้นด้วยการติดตั้งชุดพาร์ท AMG มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ประกอบไปด้วย ชุดกันชนหน้า, หลัง, สเกิร์ตข้าง ไปจนถึงแผ่นรองกันกระแทกใต้ห้องเครื่อง, ในขณะที่ด้านข้างดูโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยด์แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 19 นิ้ว พร้อมกับคาลิปเปอร์เบรก ประทับตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz

ส่วนภายในห้องโดยสารเสริมอารมณ์ความสปอร์ตด้วย กาบบันไดเรืองแสงพร้อมสัญลักษณ์ Mercedes-Benz, พวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้านท้ายตัดทรง D-Shape หุ้มหนัง Nappa ตลอดจนชุดคันเร่ง และแป้นเบรกแบบสปอร์ต ที่ผสานด้วยอารมณ์ความหรูหราดุจ Executive Lounge จากการเลือกใช้วัสดุหนัง Nappa ตัดเย็บอย่างประณีตบรรจง

เทคโนโลยีสุดล้ำอุปกรณ์มาตรฐานของ CLS 300d AMG Premium

นอกเหนือจากดีไซน์อันโดดเด่นแล้ว ยังมีในส่วนของเทคโนโลยีสุดล้ำที่น่าสนใจ เช่น ชุดไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Multibeam LED ที่ช่วยยกระดับทัศนวิสัยการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการใช้หลอดไฟแบบ LED จำนวน 84 หลอด ในการทำหน้าที่ปรับระดับความสว่างอย่างอิสระ ด้วยการใช้ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และคำนวณระดับความสว่างอัตโนมัติ เพื่อตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และแม่นยำ รวมถึงตรวจจับทางโค้ง, มุมอับสายตา ได้ในระยะทางที่ไกลกว่า ตลอดจนให้แสงสว่างได้อย่างเต็มพื้นที่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด

ซึ่งจะทำงานควบคู่ไปกับระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS-Intelligent Light System) เพื่อปรับการทำางานให้สอดคล้องกับสถานการณ์การขับขี่ และรูปแบบของถนน โดยมีระบบ ALS-Active Light System ปรับโคมไฟหน้ารถ ตามการเลี้ยวของพวงมาลัย และระบบ Cornering Light เพื่อเพิ่มการส่องสว่างด้านข้างขณะเลี้ยวโค้ง และระบบ Adaptive Highbeam Assist Plus ปรับไฟสูงอัตโนมัติ เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาของเพื่อนร่วมท้องถนนในเลนสวน

ในขณะที่ด้านหลังนั้นก็มากับแสงที่ชัดเจน และสบายตา ต่อเพื่อนร่วมท้องถนนด้วยชุดไฟท้าย LED แบบไฟเบอร์ออฟติก โดยมีด้านบนหลังคาที่สามารถใกล้ชิดกับสายลม และแสงแดดได้ง่ายๆ จากชุดหลังคา Sunroof เลื่อนเปิด – ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Premium Ambient Lighting) ถึง 64 สี และไฟประดับในส่วนช่องลมระบบปรับอากาศ เน้นงานดีไซน์ที่ดูคล้ายเครื่องยนต์ของอากาศยาน ทั้งยังสามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อมีการปรับอุณหภูมิ

ส่วนคอนโซลหน้าสุดล้ำด้วยหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูงแบบ Digital Widescreen Cockpit 2 จอต่อเนื่องกันขนาด 31.2 ซม. X 2 ซึ่งหน้าจอสำหรับผู้ขับขี่นั้นจะแสดงผลในแบบ Digital ซึ่งสามารถเลือกรูปแบบการแสดงผลได้ถึง 3 แบบ เพื่อให้เหมาะสมกับการตกแต่งภายในห้องโดยสาร

ด้านระบบความบันเทิงจากชุดเครื่องเสียงรอบทิศทาง Burmester® Surround Sound System จะแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งรองรับระบบนำทาง (Navigation System) และการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือได้ทั้งระบบ Apple CarPlay™ และ Android Auto ตลอดจนระบบ Bluetooth สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยสามารถควบคุมได้ทั้งจาก ระบบมัลติฟังค์ชั่น และปุ่มควบคุมแบบ Touch Control บนพวงมาลัย หรือ ระบบ Touchpad

ส่วนฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวสบายอื่นๆ จะประกอบด้วย เบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ, ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-Up Display), ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ Thermatic แบบ 2 โซน พร้อมความอเนกประสงค์จากเบาะนั่งด้านหลังที่สามารถปรับพับได้แบบ 40/20/40 ตลอดจนกุญแจแบบ Keyless-Go พร้อมระบบเปิด – ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (Hand-Free Access)

สมรรถนะเร้าใจใน สไลต์ Mercedes-Benz

ขุมพลังที่ขับเคลื่อนความสปอร์ต และหรูหรา คือ หน้าที่ของ เครื่องยนต์ดีเซลแถวเรียง 4 สูบ ในพิกัด 2.0 ลิตร เพิ่มพละกำลังด้วยเทอร์โบคู่ และอินเตอร์คูลเลอร์ ซึ่งสามารถสร้างเรี่ยวแรงสูงสุดได้ถึง 245 แรงม้าที่ 4,200 รอบต่อนาที ตลอดจนแรงบิดสูงสุดในระดับ 500 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบต่ำเพียง 1,600 – 2,400 รอบต่อนาที

โดยชุดเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9G-Tronic) พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Steering-wheel Gearshift Paddles) ทำหน้าที่ส่งกำลัง พร้อมฟังค์ชั่น Dynamic Select สำหรับปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ตามสไตล์ที่ต้องการ ก่อนปิดท้ายด้วยตัวเลขอัตราเร่งสุดเร้าใจกับ 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.4 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม.

มั่นใจด้วยระบบความปลอดภัยระดับโลก

นอกจากดีไซน์ และ สมรรถนะ แล้ว CLS 300d ยังมอบคววามไว้วางใจได้ในทุกสถานการณ์ ด้วยระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด เริ่มจากโปรแกรมป้องกันก่อนเกิดเหตุ (PRE-SAFE® System) ที่ประกอบด้วย ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration Skid Control), ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system), ระบบเบรก Adaptive Brake พร้อมฟังก์ชัน Hold และ Hil-Start Assist ตลอดจนระบบไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive Brake Light) และระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist)

ตามด้วยระบบรักษาระดับความเร็ว (Cruise Control) พร้อมระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist Distronic), ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Assist), ระบบจำกัดความเร็ว (Speedtronic) และระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention Assist)

ไปจนถึงการอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยแม้ขณะจอดรถอย่าง ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist), พร้อมเซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (Parktronic), กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง ตลอดจนระบบเตือนแรงดันลมยาง (Tyre Pressure Loss Warning System) และระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าสู่ศูนย์บริการ (Assyst Service Interval Indicator) กันเลยทีเดียว