รีวิว ทริป New Mazda CX-3 Collection 2018 Lady Test Drive เส้นทาง กรุงเทพฯ – เกาะสีชัง ชลบุรี

โพสต์เมื่อ 28 สิงหาคม 2018 เวลา 0:02 น. หมวดหมู่: Test Drive by iAMCAR โดย แอน .. ภัทร์ฐิตา

รีวิว ทดสอบรถยนต์ New Mazda CX-3 Collection 2018

รีวิว ทริป New Mazda CX-3 Collection 2018 Lady Test Drive

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 61 ที่ผ่านมา มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย) ได้เปิดตัว New Mazda CX-3 Collection 2018 อย่างเป็นทางการ โดยยกให้เป็นมิติใหม่ของ Freestyle Crossover ที่จะท้าทายทุกสายตา ด้วยดีไซน์ล่าสุดของรถมาสด้าเจเนอเรชั่นที่ 6 KODO DESIGN ทั้งแรง ทั้งประหยัด เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยี SKYACTIV ครบครันด้วยฟังก์ชั่นสุดล้ำ และระบบความปลอดภัยขั้นสุดเทียบชั้นรถยุโรป

อ่ะ! ว่ากันมาแบบนี้ ก็ต้องลองไปพิสูจน์กันหน่อยย ซึ่งทางมาสด้าก็ได้จัดทริปทดสอบให้กับสื่อมวลชนสายยานยนต์ทั้งหมด 4 ทริป เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล .. สำหรับนักขับสื่อสายหวานยานยนต์ มาสด้าจัดทดลองขับ New Mazda CX-3 ในแบบ Lady Trip ให้สาวๆ ได้ออกไปสนุกสนานกับสไตล์ที่ชื่นชอบให้สุดเหวี่ยงกันเลยจร้าาา

เวลา 09.00 น. เป๊ะ! เราก็มาถึงโชว์รูมมาสด้า เจ.พี. ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ซึ่งเป็นโชว์รูมแห่งใหม่ล่าสุดของมาสด้า ตามเวลาที่ทางมาสด้าได้นัดหมายไว้ มาถึงก็จัดมื้อเช้าแบบเบาๆ รอสมาชิกร่วมทริปที่กำลังเดินทาง และเมื่อทุกคนพร้อมกันแล้วก็ถึงเวลารับบรี๊ฟเพื่อทำความรู้จักคุ้นเคยกับเจ้า New Mazda CX-3 กันก่อนว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมบ้าง ..

หลังจากรับบรี๊ฟข้อมูลเป็นที่เรียบร้อย ก็พร้อมออกเดินทางเพื่อเริ่มกิจกรรมทดลองขับ และสัมผัสสมรรถนะของ New Mazda CX-3 Collection 2018 กลุ่ม D Lady Trip กับเส้นทาง กรุงเทพฯ – เกาะสีชัง ชลบุรี”

ก่อนออกเดินทางก็ต้องลั่นชัดเตอร์ภาพหมู่กันก่อนตามธรรมเนียม

ในทริปวันนี้ มีรถทดสอบที่ใช้ทั้งหมด 7 คัน ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล สำหรับทริปนี้เราจะรับหน้าที่เป็นคนขับไม้แรก จาก กทม. -ชลบุรี ยาวๆ กันไป วันนี้เราขับ New Mazda CX-3 No.5 สีน้ำเงิน อีเทอนอล บลู รุ่น 1.5 XDL เครื่องยนต์คลีนดีเซล SKYACTIV ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งถ้าจะให้คะแนน ความหล่อ ความเท่ห์ ในเรื่องของดีไซน์ทั้งภายใน และภายนอก กับสัมผัสแรกที่แตะสายตา New Mazda CX-3 No.5 คันนี้ ก็ต้องให้เรตติ้งความหล่อระดับ10 กันไปเลยจร้าาา

ด้วยความมีสไตล์ของ New Mazda CX-3 ที่ดูได้จากการตกแต่งภายนอกแบบพรีเมียม รูปแบบของการตกแต่งอิสระไร้กฎเกณฑ์ ทำให้เราสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ทั้งในส่วนของกระจังหน้า ไฟท้าย LED และล้ออัลลอยที่ได้รับการออกแบบใหม่ เพิ่มความหล่อเข้มตามติดพี่ใหญ่ Mazda CX-5 แทบกินกันไม่ลงทีเดียว

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้น New Mazda CX-3 นั้น มีชุดระบบขับเคลื่อน 2 ประเภท คือ เครื่องยนต์ SKYACTIV คลีนดีเซล ขนาด 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์ SKYACTIV เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร

ไฟท้าย LED และล้ออัลลอยที่ได้รับการออกแบบใหม่

มาดูส่วนการตกแต่งดีไซน์ภายในของ New Mazda CX-3 กันบ้าง ดีไซน์ภายในเค้ามีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่ ภายในสีเทาพร้อมกับเบาะหนังสีดำ, ภายในสีเทาพร้อมเบาะหนังสังเคราะห์สลับผ้าสีดำ และภายในสีดำพร้อมเบาะผ้าสีดำ

ความเท่ห์อีกอย่างหนึ่งที่สัมผัสได้ทันที ก็คงจะเป็นวงแหวนที่ล้อมรอบช่องแอร์นั้น เค้าทำมาเป็นเป็นสีแดงเข้มซึ่งเป็นสีแดงใหม่ที่มีความลึกและเข้ากันกับสีแดงโซลเรด คริสตัล ของมาสด้านั่นเอง

ส่วนระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB) New Mazda CX-3 ได้เปลี่ยนจากระบบเบรกมือแบบธรรมดาเป็นระบบเบรกมือไฟฟ้า เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานเพียงแค่ดึงสวิตช์ และระบบเบรกมือไฟฟ้านี้สามารถยกเลิกการทำงานโดยการกดสวิตช์พร้อมเหยียบแป้นเบรก หรือยกเลิกการทำงานโดยง่ายด้วยการเหยียบคันเร่ง

รีวิว ทดสอบรถยนต์ New Mazda CX-3 Collection 2018

ต่อด้วยเรื่องของอุปกรณ์ความปลอดภัย ใน New Mazda CX-3 เค้าใส่อุปกรณ์ส่วนของเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE มาให้อย่างครอบคลุมทีเดียว ทั้งระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring – ABSM) และ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ซึ่งติดตั้งเป็นมาตรฐานใน New Mazda CX-3 ทุกรุ่นย่อย รวมไปถึงการติดตั้งระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) ที่ทำให้การมองเห็นของผู้ขับนั้นมีความชัดเจนในมุมมองแบบมุมสูง หรือ Bird’s eye view ทำให้มีความปลอดภัยรอบทิศทางอีกด้วย ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์ในรุ่นท็อป ก็คงจะเป็นเจ้าตัวซันรูฟ ที่ติดตั้งเข้ามา ให้ความหรูหราแบบสปอร์ตๆ ขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว

เราออกเดินทางจากโชว์รูมมาสด้า เจ.พี. เวลาประมาณ 10.10 น. ใช้ทางด่วน บางนา-ดาวคะนอง ต่อด้วยทางด่วนลอยฟ้าบูรพาวิถี เพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดพักแรก ที่ร้าน Bikepark Cafe X Totti Coffee รวมระยะทางประมาณ 100 กม. ด้วยการขับขี่ที่มีระยะทางค่อนข้างยาว และตามเส้นสามารถทำความเร็วได้เต็มที่ กับรถที่บรรทุกผู้โดยสารทั้งหมด 4 ท่าน เจ้าเครื่องยนต์ SKYACTIV คลีนดีเซล ขนาด 1.5 ลิตร ให้การตอบสนองของเครื่องยนต์ และการควบคุมความเร็วจากการสั่งการคนขับได้อย่างดีเยี่ยม เครื่องยนต์คลีนดีเซลให้อัตราเร่งและการตอบสนองที่นุ่มนวล ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกตลอดเส้นทาง

จุดพักแรกที่ร้าน Bikepark Cafe X Totti Coffee

จากร้านกาแฟ Bikepark Cafe X Totti Coffee ขับต่อมาด้วยระยะทางเบาๆ 15 กม. เพื่อจัดอาหารกลางวันกัน ที่ร้านมุมอร่อย สาขาศรีราชา

หลังจากจัดมื้อกลางวันที่ร้านอาหารมุมอร่อย สาขาศรีราชา เป็นที่เรียบร้อย ชาวทริปของเราก็ออกเดินทางต่อไปยังท่าเรือจรินทร์ เพื่อลงเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะสีชัง ซึ่งเกาะสีชังเป็นหมู่เกาะที่อยู่บริเวณก้นอ่าวไทย มีระยะทางห่างจากชายฝั่งอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร

สีชัง วิวพอยท์” ถ่ายจากจุดชมวิวศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่

สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังนั้นมีหลายจุดท่องเที่ยวที่น่าไปเยี่ยมชม ได้แก่

#ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ อยู่ทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะให้ความเคารพนับถือ มีลักษณะเป็นถ้ำที่ดัดแปลงให้เป็นศาสนสถานผสมผสานระหว่างไทย-จีน และเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ บ้านเรือนด้านหน้าเกาะที่สวยงาม ตั้งอยู่บนเขาคยาศิระ ห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางเหนือของเกาะ ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจีนทั้งใน และต่างประเทศให้ความเคารพสักการะ

#พระจุฑาธุชราชฐาน ตั้งอยู่ทางด้านใต้ของเกาะ ที่ประทับฤดูร้อนในรัชกาลที่ 5 รายล้อมด้วยภูมิทัศน์งดงาม ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง และเลยขึ้นไปคือพระตำหนักทรงปั้นหยาที่สร้างขึ้นเป็นเรือนไม้ ลวดลายขนมปังขิง ตึกผ่องศรีหรือศาลาแปดเหลี่ยม ตึกอภิรมย์และวัดอัษฎางคนิมิตรบนยอดเขา ที่สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานไทย-ตะวันตก ส่วนพระราชวังที่ทำด้วยไม้สักนั้น ได้ถูกรื้อไปก่อสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆในกรุงเทพฯ

#ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด) ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา ในบริเวณมีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์ สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลมๆ ขนาดต่างๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งเกาะ หน้าผา และทะเล อีกทั้งยังทรงใช้เป็นหอดูดาวอีกด้วย

ชัตเตอร์รัวๆ กันไป ทะเลสวย สถานที่สวย นางแบบสวยยยยยย ^^

พาหนะนำเที่ยวสุดฮิป “สกายแลป” นำเที่ยวรอบเกาะ ราคานำเที่ยวรอบละ 250.- บาท

หลังจากสาวๆ ได้สนุกสนานกับการถ่ายภาพกันอย่างจ้าละหวั่น ทำเอาเกาะสีชังแทบแตกแล้ววว ก็ได้เวลาอำลาเกาะสีชังกลับขึ้นฝั่งด้วยสปีดโบ้ทลำเดิม ที่เพิ่มเติมมาคือความสูงของคลื่นหนักกว่าตอนขามามว๊ากก .. แต่เราก้อยังไหววว ^^ … จากท่าเรือจรินทร์ เราออกเดินทางต่อเพื่อไปยังที่พัก โรงแรม เคป บางเสร่ (Kept Bangsaray) บูทีค โฮเตล น่ารักๆ แต่มีวิวหลักล้านให้ได้สัมผัสกัลลล์

สำหรับเส้นทางจากท่าเรือจรินทร์ มายังโรงแรม เคป บางเสร่ มีระยะทางประมาณ 51 กม. แต่เป็นเส้นทางที่ต้องผ่านตัวเมืองที่การจราจรค่อนข้างหนาแน่น และมากล้นไปด้วยสัญญาณไฟให้ได้ทดลองประสิทธิภาพของระบบเบรคกันแทบจะตลอดเวลา ซึ่ง New Mazda CX-3 ก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม

ในเส้นทางเรายังได้ทดสอบการใช้งานอุปกรณ์ความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ที่มากับรถอย่างครบถ้วนทีเดียว ทั้งระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring – ABSM) และ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) ที่ทำให้การมองเห็นของผู้ขับนั้นมีความชัดเจนในมุมมองแบบมุมสูง หรือ Bird’s eye view

และด้วยล้อยางขนาด 215/50R18 รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาพร้อมคอยล์สปริงที่สามารถลดแรงกระแทกได้ดีขึ้น รวมกับการที่มาสด้าได้ปรับปรุงช่วงล่างที่ช่วยเพิ่มความนุ่มสบายในการขับขี่ จึงช่วยลดการสั่นสะเทือน ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเจอรอยต่อของถนน หรือถนนช่วงขรุขระได้ดีทีเดียว และที่สำคัญยังช่วยลดระยะเบรกให้สั้นลงตั้งแต่จุดที่เริ่มเบรกไปจนถึงจุดที่รถหยุดสนิท ทำให้การขับขี่ในวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย ชิลล์ๆ ใสๆ สบายๆ ค่ะ

Dinner Time กับวิวหลักล้านที่ เคป บางเสร่ ค่ะ

เช้าวันที่ 2 ของ Lady Trip หลังจาก Chk-Out เป็นที่เรียบร้อยทีมงานมาสด้าพาพวกเราออกเดินทางไปยังร้านอาหารศรีนวล ซีฟู้ด เพื่อจัดมื้อกลางวันแบบทะเล๊ ทะเล ก่อนออกเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ

สาวๆ ก็ยังสดใสรับเสียงชัตเตอร์รัวๆ ไม่มีใครยอมใครกันเรยยย?☺️

บทสรุป :

1 คืน 2 วัน กับการใช้ชีวิตอยู่กับสุดหล่อ New Mazda CX-3 สิ่งที่ทำให้เราหลงใหล และเทใจให้เต็ม 10 ก็คงเป็นเรื่องของดีไซน์ ทั้งภายนอกและภายใน ในสไตล์ของมาสด้า ที่ได้ปรับปรุงและพัฒนายนตกรรมรุ่นต่างๆ ขึ้นมา บนพื้นฐานของคำว่า “ความวิจิตรงดงาม และความล้ำสมัย” (Exquisite & Edgy)

ภายในห้องโดยสาร การตกแต่งก็ยังคงให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม เรียบหรู ดูแพง ไม่หลุดคอนเซ็ปท์ ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานที่ใส่มากับตัวรถสามารถรองรับ Life Style ในความเป็นหญิงของเราได้อย่างลงตัว ไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไปเมื่อต้องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบ USB 2 ช่อง (ไม่ต้องแย่งกันใช้ ^^) ปุ่ม CENTER COMMANDER จัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่ายขณะขับขี่ มีคอนโซลกลางพร้อมพนักวางแขน มีที่วางแก้วให้ 2 ตำแหน่ง ส่วนด้านหลังก็มีพนักวางแขนตรงกลาง และวางแก้วได้ 2 ตำแหน่งเช่นกัน

ในส่วนของการบรรทุก พื้นที่เบาะด้านหลังอาจรู้สึกคับแคบไปบ้าง ด้วยเพราะการออกแบบรถยนต์รุ่นนี้ ถูกออกแบบให้มีขนาดที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่แบบคนเดียว หรือคู่หนุ่มสาว ซึ่งก็เน้นไปที่ความต้องการสไตล์ที่แตกต่างของผู้ขับขี่เป็นหลัก

กับอุปกรณ์ความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ที่มากับรถ เช่นระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน หรือเมื่อรถเบี่ยงออกไปนอกเลนโดยไม่ได้เปิดไฟให้สัญญาณ โดยส่วนตัวถือว่าระบบนี้มีประโยชน์มากสำหรับการขับขี่ ตอนแรกอาจรู้สึกรำคาญเสียงติ๊ดๆๆ ที่คอยเตือนทุกครั้งเมื่อรถเบี่ยงออกไป เพราะรู้สึกว่าเบี่ยงไปนิดหน่อยเอง! .. แต่พอเราปรับสมาธิให้เข้าที่กับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง เราจะเข้าใจเลยว่าระบบนี้มีความสำคัญ เพราะการขับขี่ระยะทางยาวๆ มีหลายเรื่องที่อาจทำให้สมาธิของเราอาจจะหลุดออกไปจากการควบคุมพวงมาลัย เช่นการหันไปเมาท์มอยด์กับคนในรถ การดื่มน้ำ การเปลี่ยนเพลง การคุยโทรศัพท์ ฯลฯ .. เสียงติ๊ดๆๆ ที่คอยเตือน ถือเป็นการเรียกสมาธิของเราให้กลับมาอยู่กับการควบคุมพวงมาลัยได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดปัญหาเรื่องการขับคร่อมเลน (ปัญหาระดับชาติ ^^) หรืออุบัติเหตุจากการเฉี่ยวชนจากรถที่ขับแซงขึ้นมาได้เป็นอย่างดี

สำหรับเรื่องของเครื่องยนต์ ในทริปนี้เราได้ขับทดสอบกับรุ่นเครื่องยนต์ SKYACTIV คลีนดีเซลขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งคันที่เราขับนั้นบรรทุกผู้โดยสารแบบเต็มอัตรา 4 ท่าน .. ยืนยันได้เลยว่า เครื่องยนต์เอาอยู่! ทั้งการออกตัว การเร่งแซง ตอบสนองได้ดี (นี่ถ้าบรรทุกหนึ่งหรือสอง ความสนุก ความมันส์ ของ New Mazda CX-3 8 คลีนดีเซล ตัวนี้ ต้องให้ความแซ่บจี๊ด! ไม่เป็นรองใครแน่นอน)