Roddonjai (รถโดนใจ) อยากบอก … “ข้อดี” ของการ “ซื้อรถมือสอง” … ที่คนส่วนใหญ่มักจะ “มองข้าม”
ในปัจจุบัน สถานการณ์เศรษฐกิจที่สั่นคลอน ราวกับการล่องเรือท่ามกลางพายุ ดูเหมือนจะกลายเป็นโจทย์บังคับ ให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ มีโจทย์หลักในทุกครั้งที่ต้องใช้จ่าย คือ “ความคุ้มค่า” … ฉะนั้นจึงไม่แปลก ที่ “สินค้ามือสอง” จะกลับมาเป็นที่นิยมมากขึ้น รวมไปถึงในส่วนสินค้าอย่าง “รถมือสอง” … ด้วยเพราะเรื่องของ “ข้อดี” นอกเหนือจาก “ความคุ้มค่า” ที่เราเชื่อว่าหลายคนมองข้ามไป
1. แม้ “งบ” จำกัด … แต่ก็มี “ตัวเลือก” หลากหลาย
นี่คือ “ข้อดี” ที่ทำให้ “รถมือสอง” เหนือกว่า “รถใหม่ป้ายแดง” แบบชัดเจน … เพราะสำหรับรถใหม่ป้ายแดง “ประเภทของรถ คือ ตัวกำหนดงบประมาณ” ต่างกับ “รถมือสอง” ที่ “งบประมาณ คือ โอกาสกว้างๆ ให้คุณเลือกรถได้หลากหลายประเภท”
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ซื้อมีงบประมาณจำกัดที่ราวๆ 5 – 6 แสนบาท มองในตลาด “รถใหม่ป้ายแดง” น่าจะเดาได้ว่ากลุ่มที่เหมาะสม คือ รถประเภท Eco Car หรืออย่างมากก็ City Car บางรุ่น แถมยังเป็นในตัวเริ่มต้นอีกด้วย ซึ่งถ้าอยากได้ตัวเลือกมากกว่านั้น แน่นอนว่างบประมาณก็ต้อง “ทุ่ม” ลงไปมากขึ้นด้วย ซึ่งนี่แหละ คือ เงื่อนไขของ “รถใหม่ป้ายแดง” ที่ “ประเภทของรถ คือ ตัวกำหนดงบประมาณ”
ในทางกลับกัน หากเป็น “รถมือสอง” งบประมาณ 5 – 6 แสนบาท คือ โอกาสในการสามารถเป็นเจ้าของรถได้หลากหลายประเภทมากขึ้น ไม่ใช่แค่ Eco Car หรือ City Car เท่านั้น แต่สามารถเอื้อมไปถึงระดับรถอเนกประสงค์ หรือ กระบะ 4 ประตู ได้เลยทีเดียว หากไม่ได้มีปัญหากับเรื่อง “อายุ” หรือ “เลขไมล์”
2. “สด” ได้ ง่ายกว่า … ไม่ต้อง “แบก” ภาระหนี้
อีกหนึ่ง “ข้อดี” ของ “รถมือสอง” คือ โอกาสในการ “เข้าถึง” มีมากกว่า โดยเฉพาะผู้ที่อยากจบง่ายๆ ด้วย “เงินสด” … ลองคิดง่ายๆ ว่ารถอเนกประสงค์ SUV หรือ PPV ป้ายแดง ณ ปัจจุบันราคาเท่าไหร่ แล้วถ้าไม่อยากแบกภาระหนี้สินด้วยการ “ผ่อน” ฉะนั้นต้อง “เก็บเงิน” เป็นระยะเวลา “เท่าไหร่” เพื่อ “จบสด” และเป็นเจ้าของรถรุ่นที่เล็งไว้
กรณีเดียวกันกับ “รถมือสอง” การจะเป็นเจ้าของรถอเนกประสงค์ SUV หรือ PPV ซักคัน นั้นสามารถข้าถึงได้ง่ายกว่า เพราะจากระดับ “ราคาที่ต่ำกว่าป้ายแดงราว 20 – 30%” ทำให้คนที่อยาก “จบสด” โดยไม่ต้องแบกภาระหนี้สิน “เข้าถึง” ได้ง่ายกว่า เพราะสามารถ “เก็บเงิน” ได้ในระยะเวลาอันสั้น เมื่อเทียบกับค่าตัวของรถป้ายแดงรุ่นเดียวกัน
นอกจากนี้การ “จบสด” ยังทำให้ผู้ซื้อ มีอำนาจต่อรองที่เหนือกว่า ซึ่งนั่นไม่ใช่แค่ “ของแถม ของแต่ง” เท่านั้นที่จะได้ แต่ยังรวมไปถึง “ส่วนลดราคา” ที่สามารถเจรจากันได้อีกด้วย และเชื่อเถอะว่าบรรดาเจ้าของ “เต็นท์” ส่วนใหญ่ “ชอบ” ที่จะ “จบสด” เพราะช่วยประหยัดเวลา และความยุ่งยากต่างๆ ทั้งจากการทำเอกสาร ตลอดจนการติดต่อกับ “ไฟแนนซ์” ได้มากทีเดียว
3. “ค่าเสื่อมราคา” น้อยกว่า
สำหรับ รถป้ายแดง “ค่าเสื่อมราคา” นั่นหมายถึง “มูลค่า” ที่ลดลง เมื่อถอยออกจากโชว์รูม แต่สำหรับ “รถมือสอง” ที่มีระดับ “ราคา” ต่ำกว่าป้ายแดงราว 20 – 30% นั่นหมายถึง การผ่านจุด “ค่าเสื่อมราคา” มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นบอกเลยว่าไม่ต้องซีเรียส ถ้าอยากเปลี่ยนรถคันใหม่ เพราะ “ค่าเสื่อมราคา” จาก “รถมือสอง” ของเรา “มูลค่า” ที่หดหายไป รับรองว่า ไม่ดุเดือดเท่ากับรถใหม่ป้ายแดงแน่นอน
4. ไม่ต้อง “รอ” ใดๆ … “ไฟแนนซ์” ผ่าน ก็ขับกลับบ้านเลย
แล้วก็สำหรับคนที่ไม่ถนัด “จบสด” การเลือก “ผ่อน” ก็เป็นอีกทางเลือกที่คนส่วนใหญ่ใช้ แต่จุดเด่นที่ทำให้ “รถมือสอง” เหนือกว่า “รถป้ายแดง” ก็คือ การไม่ต้อง “รอ” … เรื่องนี้ใครที่เคยถอยรถรุ่นใหม่ป้ายแดง น่าจะพอเข้าใจอารมณ์การ “นั่งมองใบจอง” ไปก่อน แม้จัด “ไฟแนนซ์” ผ่านแล้วก็ตาม
ซึ่งการ “นั่งมองใบจอง” ก็มีตั้งแต่ มองกันเป็นอาทิตย์, มองกันเป็นเดือน หรือบางครั้งอาจจะต้องมองกันยาวๆ ถึงครึ่งปีทีเดียว แล้วแต่กระแสนิยมของรถรุ่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นที่ไม่ได้ผลิตในบ้านเรา ด้วยเหตุผลที่ง่ายแสนง่าย ก็เพราะไม่ใช่แค่ประเทศเราเท่านั้นที่มีความต้องการ หากแต่ผู้บริโภคในประเทศผู้ผลิตเองก็ต้องการเช่นกัน ฉะนั้นสัดส่วนการกระจายสินค้า ยังไงก็ต้องขายในบ้านตัวเอง มากกว่าส่งออกแน่นอน ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่การ “นั่งมองใบจอง” จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคในบ้านเรา
ขณะที่ “รถมือสอง” คงต้องกล่าวคำว่า “แทบไม่ต้องรอ” … ยิ่งเฉพาะกับผู้ที่มีตัวเลือกในใจ และไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องเป็นรถรุ่นใหม่ล่าสุด เพราะพูดง่ายๆ “รถมือสอง” คือ สินค้าที่มีอยู่ และจอดอยู่ เพื่อแค่รอ “เนื้อคู่” ที่ชะตาตรงกันมาพบเจอ และจัด “ไฟแนนซ์” ให้ผ่าน เพียงเท่านั้น ก็สามารถรับกลับบ้านได้เลย
ตารางราคารถยนต์ล่าสุด
AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN | DFSK | Ferrari | Honda (ฮอนด้า) |
