TEST DRIVE TOYOTA Fortuner 5AT

TEST DRIVE TOYOTA Fortuner 5AT

แม้จะยังไม่มีการปรับโฉมสำหรับ TOYOTA Fortuner แต่ทางโตโยต้า ประเทศไทย ก็ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ออกมาโดนใจผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ โดยครั้งนี้เป็นการพัฒนา เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด เพื่อเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเข้าไปอีก และเพื่อเป็นการประจักษ์ต่อสายตาสื่อมวลชนสายยานยนต์ ทางบริษัท โดโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จึงจัดการทดสอบเส้นทางเชียงใหม่ – เชียงราย ขึ้นเพื่อตอบโจทย์สมรรถนะของ TOYOTA Fortuner อย่างครบทุกสภาวะท้องถนน

 

TOYOTA Fortuner 5 AT มีออกมาด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นคือ 3.0 V 5AT 4WD และ 3.0 V 5AT 2WD ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1KD-FTV (VNT) ความจุกระบอกสูบ 2,982 ซีซี
แรงม้าสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400 – 3,200 รอบต่อนาที ซึ่งจะเห็นว่ามีสมรรถนะที่มากกว่าเดิมซึ่งมีเพียง 163 แรงม้า และ แรงบิด 343 นิวตัน-เมตร ส่วนระบบกำลังปรับจาก 4 สปีด เป็น 5 สปีด ภายในเพิ่มเครื่องเล่น DVD กล้องมองหลัง ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบนำทางตัวล่าสุดของ TOYOTA

ส่วนอีกรุ่นที่เพิ่มมาใหม่ คือ 2.5 G 5AT 2WD ซึ่งใช้เครื่องยนต์เดิม 2KD-FTV (VNT) ความจุกระบอกสูบ 2,494 ซีซี แรงม้าสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบต่อนาที พร้อมระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ซึ่งมองจากแรงม้า แรงบิดแล้วเท่ารุ่นเดิมทุกประการ แม้ภายนอกจะคงเดิม แต่ภายในมาพร้อมเบาะหนังสามารถปรับแบบไฟฟ้าด้านคนขับ พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังรวมถึงการตกแต่งด้วยลายไม้

 

 

ในเรื่องของจุดเด่นของ TOYOTA Fortuner 5 AT นอกจากระบบเทอร์โบแปรผัน VNT กล่อง ECU แบบ 32 bit และ PDV ที่สามารถความคุมการจ่ายน้ำมันแบบแม่นยำ หัวฉีดน้ำมันที่เคลือบสาร Diamond like Coating บวกกับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีความทนทานสูง และระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่ให้ความนิ่มนวลในการขับขี่ อัตราทดเกียร์ที่สามารถช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น และน้ำมันเกียร์ชนิด WS (Toyota Genuine ATF WS) ที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายสามารถใช้งานได้ตลอดอายุการใช้งานของเกียร์ จะมีข้อยกเว้นก็คือ ไปลุยน้ำแล้วน้ำเข้าไปผสมกับน้ำมันเกียร์เท่านั้น อีกอย่างคือ ระบบช่วงล่างของล้อหน้ามีน้ำหนักเบาขึ้น ค่า K ของสปริงนิ่มนวลขึ้น พร้อมทั้งปรับจังหวะการ Rebound ของช็อคอัพให้หนึบขึ้น ทำให้หน้าสัมผัสพื้นเต็มประสิทธิภาพทุกเส้นทางการขับขี่

 

ได้เวลาออกไปสัมผัส
 

ผมเองได้มีโอกาสขับในช่วงแรกซึ่งเป็นถนน High Way ทางส่วนใหญ่มีโค้งบ้างสลับกันไป เรื่องสมรรถนะคงไม่ได้ต่างอะไรจากเดิมมากนัก เพราะคันที่ผมใช้ทดสอบเป็น 2.5 G 5AT 2WD ซึ่งมีสมรรถนะเท่าเดิม แต่เรื่องของอัตราเร่งทำได้ ต่อเนื่องและนิ่มนวลขึ้น แต่ผมชอบในส่วนของ ระบบช่วงล่างที่ทำการปรับเซ็ตมาใหม่ ผมว่าลงตัวขึ้นกว่าเดิมอย่างสัมผัสได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นทางตรงที่นิ่มนวล เกาะถนนแม้จะใช้ความเร็วสูง ยิ่งในทางโค้งต่างๆ ทำได้ดี เข้าโค้งได้มั่นใจ ลดอาการโคลงเครง ซึ่งเป็นข้อเสียของรถสไตล์นี้ได้มากทีเดียว
 

แต่ที่น่าเสียดาย คือ ผมไม่มีโอกาสได้ลองสัมผัส 3.0 V 5AT 4WD ซึ่งนอกจากจะมีสมรรถนะที่ดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน ยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time ที่มีระบบเฟืองท้ายตัวกลางแบบ TORSEN LSD ที่คอยช่วยกระจายแรงบิด ระหว่างล้อหน้า – ล้อหลัง ล้อซ้าย – ล้อขวา เพื่อให้เกิดสเถียรภาพการขับขี่ที่ดีที่สุด ทำให้การเข้าโค้งดีขึ้น การทรงตัวเป็นเลิศ และที่สำคัญวิศวกรการันตีว่าไม่ซดน้ำมันด้วยครับ
 

สุดท้ายต้องขอบคุณ บริษัท โดโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่ให้ iAMCAR VARIETY e-MAGAZINE & www.iamcar.net ได้ร่วมสัมผัสยนตกรรมดีๆ เช่นนี้เสมอมา พบกับ TOYOTA Fortuner 5AT ได้ทุกโชว์รูมของ โตโยต้า ทั่วประเทศ
 

{gallery}/article/2012/gangtest/16-10-55-toyota-fortuner-5at{/gallery}

 


ตารางราคารถยนต์ล่าสุด

AUDI | Aston Martin | BMW | Chevrolet | CITROEN |  DFSKFerrari | Honda (ฮอนด้า) |